ปัจจุบันนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยมะเร็ง แม้จะมีมาจากหลายกระแสแต่ยอดรวมก็ตรงกันเกือบทั้งหมดแล้วว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งถึง 1,000,000 คน เป็นอย่างน้อย และมีจำนวนเพิ่มขึ้นปีละราว 100,000 คน ในขณะที่ผู้ป่วยถึงแก่ความตายปีละ 60,000-70,000 คน
ครอบครัวใดมีผู้ป่วยเป็นมะเร็ง 1 คน ครอบครัวนั้นและญาติพี่น้องทั้งหมดของครอบครัวนั้นจะเต็มไปด้วยความเครียด ความทุกข์ร้อน และความเดือดร้อนทั้งทางจิตใจและทางเศรษฐกิจเพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และกระทบต่อสัมพันธภาพในครอบครัวและสังคมอย่างมาก
ดังนั้นผลกระทบของผู้ป่วยมะเร็ง 1 ล้านคน จึงเกี่ยวข้องกับครอบครัวและญาติพี่น้องรวมแล้วไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน ดังนั้นความเรียกร้องต้องการที่จะแสวงหายารักษาโรคร้ายนี้จึงเป็นเรื่องที่แสวงหากันทั้งประเทศ และในที่สุดความรู้เกี่ยวกับการใช้กัญชาในการรักษาโรคมะเร็งก็ได้ถูกเปิดขึ้น และแพร่ขยายตัวไปอย่างกว้างขวางทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
ผลการรักษาโดยใช้กัญชาได้ปรากฏข่าวดีออกมาเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่องถึงผู้ป่วยมะเร็งที่หายเด็ดขาด หรือที่กำลังอยู่ระหว่างยื้อชีวิตกันอยู่ หรือแม้ร้ายแรงที่สุดกับผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่เยียวยารักษาไม่ได้แล้ว ยาที่สกัดจากกัญชาก็สามารถบรรเทาความเจ็บปวดรวดร้าวและทำให้ผู้ป่วยสามารถเดินทางสู่สัมปรายภพอย่างสงบ ไม่ทุรนทุรายเป็นทุกข์ เป็นที่เวทนาแก่คนทั้งหลาย
ที่สำคัญคือ ความรู้เรื่องการใช้ยาที่สกัดจากกัญชานอกจากจะรักษาโรคมะเร็งได้อย่างชะงัดแล้ว ยังสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้อีกหลายโรค ไม่ว่าพาร์กินสัน ลมชัก โรคเครียด โรคซึมเศร้า โรคไต โรคเบาหวาน โรคสะเก็ดเงินโรคริดสีดวง และอีกสารพัดโรค
สำหรับโรคพาร์กินสันที่ทางตะวันตกว่ารักษาไม่ได้ ไม่มีทางหายนั้น ผลปรากฏจากการรักษาปรากฏว่าเพียงแค่หยดยาที่สกัดจากกัญชาที่ใต้ลิ้นแค่สองหยด ในเวลาไม่เกิน 20 นาที ก็จะหยุดการสั่นได้อย่างน่าพิศวง และเมื่อรักษาไปไม่เกิน 2 เดือน อาการแทบจะหายขาด
แม้กระทั่งโรคเบาหวานที่กำลังจะต้องตัดเท้าตัดขา ครั้นได้รับการรักษาด้วยยาที่สกัดจากกัญชา น้ำตาลในเลือดก็ลดลงอย่างรวดเร็ว สามารถช่วยผู้ป่วยได้มาก
ไม่ต้องพูดถึงโรคเครียด โรคซึมเศร้า หรือโรคริดสีดวง หรือโรคสะเก็ดเงิน จะเรียกว่าเป็นผลพลอยได้หรือของแถมจากการที่ใช้ยาที่สกัดจากกัญชาทั้งสิ้น
นอกจากนั้น ทางการแพทย์แผนโบราณ รวมทั้งกรมการแพทย์แผนไทยก็ได้นำความรู้ทางการแพทย์แผนไทย และเภสัชกรรมไทย และเวชกรรมไทยที่มีมาแต่โบราณกาล และที่มีหลักฐานเก่าแก่ที่สุดก็ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นลำดับมาถึงยุครัตนโกสินทร์ ก็มีความรุ่งเรืองเฟื่องฟูในตำรับตำรายาไทยโบราณที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมจำนวนมาก และมีสรรพคุณในการรักษาโรคร้ายแรงสารพัดโรค
ถึงกับมีการจารจารึกถึงการใช้กัญชาในทางการแพทย์แผนไทยไว้ตามวัดวาอารามต่างๆ เป็นจำนวนมาก ที่เป็นสมุดข่อยและตำรายาโบราณก็มีเป็นจำนวนมาก
ทำให้คนไทยได้รับทราบได้รับรู้ว่าถ้าหากฟื้นตำรับยาแผนไทยที่ใช้กัญชาเป็นส่วนผสมแล้วก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องใช้ยาอื่นในการรักษาโรคหัวใจ ไม่ต้องยาฝรั่งในการนอนหลับ หรือในการคลายความเครียดความวิตกทั้งหลาย โรคเครียด โรคซึมเศร้า หรือแม้กระทั่งโรคกรดไหลย้อนที่ว่ารุนแรงร้ายแรงรักษาไม่หายนั้นกลายเป็นแค่ผลพลอยได้จากการใช้ยาแผนโบราณของไทยดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน ก็มีการเผยแพร่เกี่ยวกับความรู้เรื่องกัญชาที่เป็นไปในโลกกว้างให้คนไทยได้ตาสว่างขึ้น และรู้เท่าทันถึงกโลบายของนักล่าอาณานิคมที่ลวงล่อให้ผู้มีอำนาจในอดีตกำหนดให้กัญชา กัญชง และกระท่อม ซึ่งเป็นยาสรรพคุณสูงของไทยเป็นยาเสพติด เพื่อจะได้นำยาที่เป็นสารเคมีจากตะวันตกเข้ามาใช้แทนภูมิปัญญาไทยเหล่านั้น รวมทั้งยาแก้ปวดที่ใช้มอร์ฟีนที่มีพิษร้ายแรงอีกด้วย
ในแต่ละปีประเทศไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการนำเข้ายาเคมีเหล่านี้หลายแสนล้านบาท และยิ่งถ้ารวมกับยาเคมีประเภทยาบำรุง ยาบรรเทาปวดและแม้กระทั่งผงชูรสต่างๆ แล้ว มูลค่าเงินที่ประเทศไทยจะต้องเสียไปให้กับต่างชาติปีละหลายล้านๆ บาท
ในขณะเดียวกัน ความรู้เรื่องกัญชา กัญชง และกระท่อม ก็ถูกเผยแพร่ไปยังพี่น้องเกษตรกรไทยทั่วประเทศ ที่ทั่วโลกพยายามปลูกกัญชา กัญชง และกระท่อมกัน ทั้งๆ ที่พันธุ์ก็ไม่ดี ภูมิอากาศก็ไม่เหมาะสม และต้องลงทุนสูงมาก ในการปลูกแบบอาคารปิด
แต่สำหรับประเทศไทยนั้นมีพันธุ์กัญชาที่ดีที่สุดของโลก เพราะให้สาร CBD ซึ่งเป็นสารที่ทำให้กินอิ่ม นอนหลับ และมีความสุขมาก และมีสาร THC ซึ่งเป็นสารที่ทำลายเชื้อมะเร็งให้สิ้นสูญได้
และทำให้คนไทยได้รู้ต่อไปว่า ประเทศไทยเมื่อตั้งอยู่ในแนวเส้นศูนย์สูตรของโลก จึงเป็นพื้นที่ที่มีภูมิอากาศดีที่สุดในการปลูกกัญชา กัญชง และกระท่อม โดยเฉพาะประเทศไทยมีดินที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือนั้น เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะปลูกกัญชาและกัญชงที่มีคุณภาพระดับแนวหน้าของโลก ในขณะที่ภาคใต้เหมาะอย่างยิ่งที่จะปลูกกระท่อม ซึ่งสามารถใช้แทนยาบ้าและยังใช้เป็นยาบำรุงเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารและระบบย่อยอาหารเป็นอย่างดีด้วย
ประเทศต่างๆ ในโลกเมื่อได้รับรู้ถึงผลประโยชน์ของกัญชาแล้วจึงพากันเปิดเสรีกันโดยทั่วไป นั่นคืออนุญาตให้ปลูกกัญชาได้โดยเสรี อนุญาตให้มีการแปรรูปกัญชาเป็นยาและอาหารได้โดยเสรีภายใต้การควบคุมคุณภาพและตำรับยา และอนุญาตให้มีการส่งออกกัญชาไปยังต่างประเทศได้ด้วย
ประเทศแล้วประเทศเล่าที่ประกาศให้ใช้กัญชาในลักษณะดังกล่าว แม้กระทั่งสหรัฐซึ่งเป็นพี่เบิ้มใหญ่ก็เปิดเสรีกัญชาเกือบทุกรัฐและมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนรัฐทั้งหลายของสหรัฐไปแล้ว ในขณะที่ออสเตรเลียและแคนาดาซึ่งเป็นคู่ซี้ของสหรัฐก็ได้เปิดเสรีไปนานแล้ว และเป็นผู้ผลิตและส่งออกกัญชารายใหญ่ของโลกไปตั้งนานแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงอิสราเอลซึ่งได้ค้นคว้าวิจัยและผลิตยาต่างๆ จากกัญชารวมทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากกัญชาจำนวนมากมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 แล้ว นอกจากนั้นบรรดาประเทศที่เปิดเสรีกัญชาก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างคึกคักในทั่วทุกทวีปของโลก
คงเหลือแต่ประเทศไทยของเรานี้ที่ยักตื้นติดกึกยักลึกติดกักท่ามกลางข่าวนินทาที่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีคนบางคนไปทำความตกลงกับบริษัทของญี่ปุ่นเพื่อยกสิทธิบัตรกัญชาให้กับบริษัทของญี่ปุ่นไปแล้ว และอยู่ระหว่างกระบวนการทางกฎหมายเพื่อทำให้การยกสิทธินั้นเป็นผลสำเร็จ
ดังนั้นจึงทำให้ประชาชนไทยมีความคับข้องหมองใจในเรื่องนี้อย่างรุนแรงและกว้างขวาง ถึงกับพูดจาหารือกันซึมลึกลงไปทั่วประเทศ แม้กระทั่งร้านตัดผมร้านทำผมในชุมชนเล็กๆ ห่างไกลในชนบทก็พากันเรียกร้องต้องการให้ปลดล็อกกัญชาเสรี เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงและได้รับประโยชน์
พี่น้องเกษตรกรก็ต้องการปลูกกัญชาโดยเสรี เพราะการปลูกกัญชา 1 ไร่ จะได้ผลผลิตเป็นมูลค่าหลายแสนบาท ดีกว่าที่จะดันทุรังปลูกมันสำปะหลังที่ไม่คุ้มทุน และไร่ถึงก็ขายได้ 8,000-9,000 บาท หรือถ้าปลูกข้าวโพดก็ได้ไร่ละราว 10,000 บาท ปลูกอ้อยก็ได้ไร่ละราว 10,000 บาทเช่นเดียวกัน ในขณะที่ต้นทุนก็สูงขึ้นทุกที ถึงขนาดปลูกมากก็เจ๊งมาก
เจ๊งมากก็ต้องมาเดินขบวนหรือชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลชดใช้หรือช่วยเหลือ จนกระทั่งสิ้นเนื้อประดาตัวหรือมีหนี้สินล้นพ้นตัวตามๆ กัน
ดังนั้นในวันนี้ผลประโยชน์เรื่องกัญชา กัญชง และกระท่อม จึงมีความชัดเจนว่าเป็นผลประโยชน์แห่งชาติที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่จะเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่ทำให้ภาคเกษตรของประเทศรุ่งเรืองเฟื่องฟูและมั่งคั่งตามๆ กัน
เป็นผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ที่จะได้ใช้กัญชา กัญชง และกระท่อม ในการรักษาโรคร้ายแรงนานาชนิด
และโดยสภาพเช่นนี้การเปิดเสรีกัญชาจึงได้กลายเป็นประเด็นหลักที่สำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ ดีไม่ดีกัญชาเรื่องเดียวนี่แหละอาจจะชี้ขาดผลการเลือกตั้งของประเทศไทยในครั้งนี้ก็ได้ เพราะขณะนี้ก็มีถึง 14 พรรคแล้ว ที่ประกาศนโยบายกัญชาเสรี มากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนได้แล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี