ในตอนที่ผ่านมา ได้นำพระบรมราชวินิจฉัยของ ร.7 ที่ทรงถูกยึดอำนาจ ที่คณะปฏิวัตินำมากราบบังคมทูลให้ทรงลงพระปรมาภิไธยเห็นชอบ ซึ่ง ร.7 ได้ทรงวินิจฉัยในเรื่อง “ว่าด้วยหลักของราษฎร” และ “ว่าด้วยความแร้นแค้นของราษฎร” ให้คณะปฏิวัติฟัง ดังที่ได้นำมากล่าวให้ฟังในตอนที่ผ่านมา ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
วันนี้มาว่ากันต่อ
เรื่องราษฎรชอบเป็นข้าราชการ
ทรงวินิจฉัยว่า คำว่า “ข้าราชการ” นั้น ตามความจริงแล้ว ราษฎรหมายถึงผู้นั่งชี้นิ้วอำนวยการงาน หรือผู้นั่งโต๊ะเป็นเสมียน กินน้ำชาและงานเบาๆ ข้าราชการเช่นนั้น ข้าพเจ้ายอมรับว่าราษฎรอยากเป็นจริง เพราะสบายดี ไม่ต้องเหนื่อยยากอันใด
แต่ถึงกระนั้น ก็ยังไม่เป็นจริงทั้งสิ้น เพราะมีราษฎรหลายคนที่ไม่พึงประสงค์จะเป็นแม้แต่เสมียน เขาชอบทำการประกอบอาชีพอิสระ“ข้าราชการ” ที่ผู้เขียนโครงการเสนอมานี้มี 2 ชั้น คือข้าราชการนั่งโต๊ะ และข้าราชการออกแรงขุดดิน ข้าราชการแบบหลังนี้ไม่มีใครอยากเป็นเลย จะมีอยู่ก็น้อยเต็มที ดูตัวอย่างกรรมกรว่างงานที่อยากได้งานทำ แต่ครั้นรัฐบาลจัดหางานให้เป็นงานขุดดิน ทำถนนให้ ก็ไม่มีใครเอา
ทั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่เขาพึงประสงค์นั้น คือตำแหน่งข้าราชการนั่งโต๊ะ ตีราคาตัวเองสูงเกินไปที่จะไปทำนา ชอบเป็นเสมียนที่นั่งซดน้ำชามากกว่า และนั่งเถียงคารมข้อกฎหมายมากกว่า แต่ราษฎรส่วนมากจริงๆ มีน้อยคนที่อยากเป็น
เรื่องเงินเป็นสิ่งใช้แลกเปลี่ยน
เงินนั้นเป็นสิ่งที่กินไม่ได้ มีประโยชน์ก็ที่ใช้เป็นเครื่องแลกเปลี่ยนปัจจัยในการครองชีวิต ไม่มีอะไรจะแลกเปลี่ยนได้ดีเท่าเงิน เงินนั้นทุกคนพอใจที่จะรับไว้ทุกคน ถ้าเลิกเงินก็ต้องไปใช้แบบโบราณ คือแลกสิ่งของด้วยของ ซึ่งทำให้ลำบากไม่น้อย ถ้าเลิกเงินก็เท่ากับถอยหลังเข้าคลองไปหาสมัยเก่า ซึ่งผู้เขียนโครงการเสนอมานี้ดูเหมือนจะไม่ชอบไม่ใช่หรือ
เพราะฉะนั้นผู้เขียนโครงการที่เสนอมานี้ ต้องพยายามอย่าทำลายค่าของเงินให้ป่นปี้ และถ้าจะให้ราษฎรเป็นข้าราชการทั้งหมด และจะจ่ายเงินเดือนให้ ก็ต้องเป็นเงินจริงๆ ไม่ใช่กระดาษที่ไม่มีค่า
เรื่อง ราษฎรไม่มีที่ดินและเงินทุนพอ
เรื่องดังกล่าวทรงวินิจฉัยว่า อยู่ที่การจัดสรรที่ถูกต้อง และป้องกันพวกคนรวยที่มีที่ดินมากอยู่แล้วยังกว้านหาต่อไปอีก
เรื่องแรงงานที่สูญไป
จริงอยู่เวลานี้ราษฎรเราทำงาน 6 เดือน แล้วก็หยุดเสีย 6 เดือน ถ้าเราสามารถจัดการให้ราษฎรทำงานเพิ่มอีก 6 เดือน ก็จะเกิดประโยชน์เป็นอันมาก แต่อย่าลืมว่า เรามิได้มีวิธีที่ชักชวน หรือสอนให้เขารู้จักทำอะไรเลย รัฐบาลอย่าเข้าแย่งราษฎรทำงาน และเกณฑ์ให้ราษฎรเข้ามาเป็นลูกจ้าง
อย่าลืมว่า คนไทยนั้นเสรีภาพและความเป็นอิสระอยู่ในเลือดอยู่แล้ว เขายอมสละเสรีภาพมาให้ง่ายๆไม่ได้แน่ ถ้าจะบังคับกันจะสมควรหรือ การบังคับกันกดคอให้เขาทำอย่างโน้นอย่างนี้ จะจัดหาความสุขสมบูรณ์ให้กับเขาอย่างไร จะเป็นความทุกข์มากกว่า
เพราะฉะนั้นการกดขี่บังคับกันจึงขอให้คิดให้มาก
เรื่องการเก็บภาษีทางอ้อม
อย่าลืมว่าการเก็บภาษีทางอ้อมขณะนี้เกือบจะถึงขีดสุดอยู่แล้ว ถ้าทำต่อไปก็จะเกิดความเดือดร้อนเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นการคิดหาทางเก็บภาษีทางอ้อมนี้
แผ่นดินจะร้อนทุกเส้นหญ้า
เรื่องรักชาติหรือรักตัว
การที่มนุษย์รักตัวนั้นไม่ต้องมีใครมาสอน เกิดมาก็มีอยู่ตามธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าผู้ใดรักตัวเองไม่เป็น ก็จะรักอะไรอื่นไม่ได้ ชาติที่เกิดขึ้นได้นั้นก็เพราะความรักตัว
ถนอมตัวให้พ้นภัย จึงรวมกันเป็นหมู่ เพื่อช่วยกันรักษาตัว
การรวมตัวกันเป็นชาติ เพื่อช่วยกันรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมของหมู่ รักษาสิทธิประโยชน์ของคนในชาตินั้น ไม่ได้แปลว่าที่ดินเพียงอย่างเดียว
การรักชาตินั้น ใครรักมากรักน้อยพิสูจน์ยาก คนเช่าห้องแถวอยู่เขาอาจรักชาติมากกว่าคนมีที่ดินก็ได้
พวกข้าราชการทั้งหลายจะมีความรักชาติมากกว่าชาวนาชาวไร่ก็คงเป็นไปไม่ได้ หรือจะรักชาติน้อยกว่าชาวนาชาวไร่ก็ไม่ได้ ใครรักชาติมากใครรักชาติน้อยพิสูจน์ยาก นอกจากการกระทำ
พระบรมราชวินิจฉัยดังกล่าวทั้งหมดนี้ ร.7 ได้ทรงให้ความเห็นลงมาแก่คณะผู้ก่อการปฏิวัติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 มีเนื้อหาที่ใครได้อ่านแล้วจะเห็นว่าเป็นพระบรมราชวินิจฉัยที่ถูกต้องที่สุดเมื่อ 87 ปีที่ผ่านมา
และยังคงทันสมัยอยู่ในการนำมาเป็นข้อคิดและการทำงานของผู้มีอำนาจหน้าที่ทั้งหลายในบ้านเมืองขณะนี้
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี