โซ่ตรวนของประเทศที่ว่านี้ เป็นโซ่ตรวนที่มาจากอำนาจที่ยังซ่อนแฝงอยู่ในกติกาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แม้จะมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยแล้วก็ตาม เป็นโซ่ตรวนที่ต้องปลดให้หมดไป
ซ่อนแฝงอยู่ในรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศก็มี ซ่อนแฝงอยู่ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญต่างๆก็มี ในกฎกติกาหรือคำสั่งต่างๆ ก็มีซึ่งคนมีอำนาจที่ได้อำนาจมาจากการทำรัฐประหารครั้งนี้ได้ทำไว้
กินรวบไว้ในอำนาจที่ได้มาจากเพื่อนและพวกจะได้ประโยชน์ภายใต้กลอุบายและเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ ในเสื้อคลุมประชาธิปไตย
บริการปกครองบ้านเมืองเหมือนเป็นบริษัทของตน ทั้งๆที่ประเทศไทยเป็นของประชาชนคนไทยทุกๆคน อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่เป็นบริษัทของใคร ที่จะทำอะไรได้ตามใจชอบ
เปรียบเทียบความแตกต่างจากคำถามและคำตอบได้ดังนี้
1.ประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจนหรือรวยผู้บริหารประเทศต้องบริหารเพื่อคนไทยทุกคน ให้มีกินมีใช้ เป็นกำไรของทุกชีวิต แต่บริษัทเป็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือผู้มีหุ้นส่วน บริหารบริษัทเพื่อบุคคลดังกล่าว
2.ประเทศไทยมีรัฐบาล มีรัฐสภา มีศาลและตุลาการ รวมถึงองค์กรต่างๆตามรัฐธรรมนูญ ต่างถ่วงดุลซึ่งกันและกัน ไม่มีใครมีอำนาจสูงสุด แต่บริษัทต่างๆมีประธานบริษัท หรือหัวหน้าฝ่ายบริหาร สามารถตัดสินใจ หรือผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นผู้กำหนด ไม่มีใครปลดออกได้
3.ประเทศไทยมีข้าราชการประจำเป็นหน่วยงานหลัก คนไทยที่มีความรู้ความสามารถที่สมัครใจเข้ารับราชการ ก็สามารถรับการคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการได้เป็นอาชีพต่อเนื่องจนเกษียณอายุ ได้รับเงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีประชาชน มีหลักประกันมั่นคง ไม่ได้เป็นลูกน้องใครหรือขี้ข้าใคร รักษาความเป็นกลางทางการเมือง ใครทำงานนอกหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด เมื่อถูกจับได้ต้องถูกลงโทษหรือถูกไล่ออก แต่พนักงานของบริษัทหรือลูกจ้างของบริษัท ต้องอยู่ในอำนาจของเจ้าของบริษัท อาจถูกปลดถูกไล่ออกเมื่อไรก็ได้ ต้องอยู่ในอำนาจของเจ้าของบริษัท บางบริษัทอาจมีกลุ่มมาเฟียคอยควบคุมอีกทีหนึ่ง
4.ประเทศประชาธิปไตยนั้น รัฐบาลละเมิดสิทธิเสรีภาพที่มีกฎหมายคุ้มครองไม่ได้ ถ้าข้าราชการยอมทำตามสิ่งที่ผิดกฎหมายเพื่อรับใช้นักการเมือง ก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตน หรือถูกไล่ออก แต่พนักงานของบริษัท จะถูกปลดเมื่อไรก็ได้แล้วแต่เจ้าของบริษัท
5.ประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย รัฐบาลจะละเมิดสิทธิเสรีภาพที่มีกฎหมายคุ้มครองไม่ได้ จะสั่งให้ข้าราชการไปทำในสิ่งไม่ถูกต้องไม่ได้ ใครยอมทำตามสิ่งที่ผิดกฎหมาย ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตน
รัฐบาล (ฝ่ายการเมือง) ต้องรับผิดชอบต่อรัฐสภา ผู้ตรวจการแผ่นดิน ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีบทบัญญัติกำกับไว้ แต่บริษัทอาจให้บริการหรือสินค้าที่ด้อยคุณภาพโดยโฆษณาเกินความจริง หนีภาษี หรือทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจถูกจับดำเนินคดีและปรับชดเชยและพนักงานบริษัทอาจโดนไปด้วย
ทั้ง 5 ประการที่กล่าวมา เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่าง ระหว่างความเป็นประชาธิปไตยกับความเป็นบริษัทที่มีรูปแบบของการบริหารจัดการที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่เข้ามามีอำนาจ และใช้อำนาจที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะพวกที่ได้อำนาจมาจากการรัฐประหาร การยึดอำนาจ และออกกฎกติกาโน่นกติกานี่เพื่อประโยชน์ตนหรือพรรคพวกแล้ว การกระทำอย่างนี้ไม่ผิดอะไรกับการเอา
โซ่ตรวนมาล่ามไว้ ไม่ให้ใครทำอะไรได้
เป็นโซ่ตรวนในการรวบอำนาจ
พ้นไปจากอำนาจแล้วก็ตาม โซ่ตรวนดังกล่าวยังคงมีอยู่ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในรูปแบบของคำสั่ง กฎระเบียบ หรือกติกาที่ตั้งไว้ ซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่ในขณะนี้
ประเทศไทยเราขณะนี้มีการเลือกตั้งแล้ว มีรัฐบาล มีรัฐสภาชุดใหม่ กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเดินไปข้างหน้า ผู้เกี่ยวข้องที่มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องดังกล่าว เฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลและรัฐสภาชุดใหม่ขณะนี้ไม่สมควรเพิกเฉยในเรื่องเหล่านี้
ทบทวน รื้อฟื้น และสังคายนากันใหม่
ถ้าไม่ใส่ใจที่จะทำ ขอให้อ่านคำกลอนต่อไปนี้
“หยาดฝนย้อย จากฟ้า มาสู่ดิน
ประมวลสิ้น เป็นมหา สาครใหม่
แผ่คลื่นซัด ปฐพี อึงมี่ไป
พลังไหล แรงรุด สุดต้านทาน
อันประชา สามัคคี รวมจัดตั้ง
เป็นพลัง แกร่งกล้า มหาศาล
แสนอาวุธ แสนศัตรู หมู่อันธพาล
ไม่อาจทาน แรงมหา ประชาชน”
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี