รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว หลากหลายปัญหาถูกนำมาคลี่ปมแจกแจงข้อมูลกันในสภาฯ หลายเรื่องเกี่ยวโยงผูกพันกันไปมาซับซ้อน อย่างประเด็นปัญหาสาธารณสุข ที่โยงมาจากการขึ้นภาษีเหล้า บุหรี่
มุมในฝั่งสุขภาพก็ว่าดีที่ใช้นโยบายภาษีสูงมากๆ ไว้ ผู้คนจะได้ลดการบริโภค กินน้อยลง สูบน้อยลง ก็หวังว่าคนป่วยจะลดลง คนป่วยลดก็ประหยัดเงินรัฐรักษาผู้ป่วย แต่อีกมุมที่เป็นฝั่งผู้ผลิตโดยเฉพาะเกษตรกรชาวไร่ยาสูบกลับโอดครวญเพราะนโยบายภาษีบุหรี่สูงขนาดนี้ ทำเอาครอบครัวแทบล้มละลาย เพราะร้อยทั้งร้อยของชาวไร่ยาสูบห้าหมื่นครอบครัวในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือและอีสาน มีรายได้หลักมาจากการปลูกยาสูบขายให้รัฐบาลนี่แหละ
ก่อนหน้านี้ สส. หลายท่านจากพื้นที่ปลูกยาสูบ 20 กว่าจังหวัดในเขตภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เพชรบูรณ์ และ จ.สุโขทัย มีการหยิบยกเรื่องความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบขึ้นมาอภิปราย พร้อมเรียกร้องว่าเกษตรกลุ่มนี้ควรต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาลเช่นเดียวกัน เพราะการที่ภาษียาสูบปรับขึ้นมากจนเกินไป ทำให้ชาวไร่ต้องขาดรายได้รวมๆ กันกว่า 228 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา
ได้แรงสนับสนุนจากท่าน สส. ที่เป็นเหมือนตัวแทนของชาวไร่แบบนี้ ชาวไร่ยาสูบก็พอจะมีความหวังกันบ้างว่าต่อไปจะไม่มีการขึ้นภาษียาสูบแบบสุดโหดที่มาทำร้ายชาวไร่อีก จึงพากันยกขบวนมาขอบคุณ สส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านถึงหน้ารัฐสภา
หยิบความบางช่วงของผู้แทนจากภาคอีสานท่านหนึ่ง ที่อภิปรายระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 โดยหยิบเอาเรื่องภาษีสรรพสามิตขึ้นมาพูดครั้งว่า บอกว่า ปีที่แล้วรัฐบาลขึ้นภาษีสรรพสามิตเหล้า -บุหรี่ โดยอ้างว่าเป็นมาตรการจะให้คนเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ สุราขาว สุราชาวบ้าน ขึ้นราคาเท่าตัว จากขวดละ 70 บาท ขึ้นเป็น 150 บาท เบียร์ขวดละ 35 เคยขาย 3 ขวด 100 กลายเป็นราคาขวดละ 100 บาท บุหรี่กรองทิพย์ซองละ 70 ขึ้นราคาไปร้อยกว่าบาท แต่ภาษีและราคาที่ขึ้นสูงมาก กลับไม่ได้ทำให้ชาวบ้านลด ละ เลิกบุหรี่หรือเหล้าได้ สรุปว่าภาษีที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้ประชาชนเดือดร้อนต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น และย้อนกลับมาทำร้ายชาวไร่ที่ต้องรายได้หดหายเพราะขายใบยาไม่ได้
วันเดียวกันนั้น มันก็มีสัญญาณชัดๆ มาจาก
นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเรื่องภาษีที่เชื่อว่าจะเป็น “ยาใจ” ให้ชาวไร่ยาสูบได้บ้าง เพราะมีช่วงหนึ่งที่ท่านพูดถึงปัญหาด้านสาธารณสุขขึ้นมา แล้วโยงไปถึงการขึ้นภาษีเหล้า ยา บุหรี่ จับความสำคัญสั้นๆ ได้ว่า “ถ้ามันไม่เหมาะสมก็ปรับใหม่ ทุกอย่างปรับได้ ต้องมาช่วยกัน”
หยิบเรื่องนี้มาเพราะได้ข่าวว่าการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เตรียมจะประกาศโควตาการรับซื้อใบยาสูบสำหรับฤดูกาลผลิต 2562/63 ในเดือนนี้ แล้วก็แว่วว่าน่าจะคงโควตาอัตราเดิมคือลดลงจากเดิม 50% เหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลก็เห็นผลลัพธ์มาแล้วตลอดปี 2561 ที่นโยบายภาษีสรรพสามิตบุหรี่ทำเอาชาวไร่ยาสูบเดือดร้อนรุนแรงกันถ้วนหน้า ตอนนี้ นายกฯ ส่งสัญณาณแล้ว บอกให้ช่วยกัน จะไม่มีการทิ้งใครไว้ข้างหลัง
เรื่องภาษียาสูบนั้น ดูไปแล้วเกษตรกรชาวไร่เองก็ไม่ได้คิดจะคัดค้านว่าอย่าขึ้น เพราะรู้ดีว่าเป็นเรื่องจำเป็น ถ้ารัฐบาลจะลองคิดไตร่ตรองอีกหลายๆ รอบว่า ควรจะขึ้นภาษีในระดับใด ในรูปแบบไหนที่จะบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรไปได้ โปรดคิดช่วยกัน เพราะนโยบายภาษีที่ดีและเหมาะสมต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากจนเกินไป เชื่อว่ารัฐบาลคงไม่อยากดูหนังวนลูปหรือซ้ำๆ เดิมๆ ของปีที่แล้วจากชาวไร่ยาสูบอีก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี