เมื่อสุดสัปดาห์ระหว่างปลายเดือนสิงหาคม-ต้นกันยายน ที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญให้ไปร่วมงาน ASEAN Youth Forum “Advancing the Partnership for the Sustainable Promotion of ASEAN Tourism” ที่จัดโดย ศูนย์อาเซียนศึกษา ดร.ถนัด คอมันตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (ดร.ถนัด คอมันตร์ เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ร่วมก่อตั้งอาเซียน ผู้ร่วมก่อตั้ง และอธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์) โดยผมเองได้รับเกียรติให้กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อเรื่อง“ASEAN Youth in the GlobalContext” (เยาวชนคนหนุ่มคนสาวอาเซียนในบริบทโลก)
ผมก็ขอถือโอกาสนี้เล่าสู่กันฟัง เพื่อถ่ายทอดสาระเนื้อหาที่ผมได้พูดจากับนิสิตนักศึกษาไทย และอาคันตุกะจากต่างแดนและสาธารณชนโดยทั่วไป โดยสังเขป และให้เป็นข้อคิดข้อปฏิบัติ หรือเป็นข้อแนะนำต่อเพื่อนร่วมงาน ญาติมิตรสหาย และลูกหลานของเรากันต่อไป เนื่องจากหัวข้อเรื่องมีความเกี่ยวข้องกับพวกเราทุกคนไม่มากไม่น้อย ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม
ประเด็นที่ผมโหมโรง ยกขึ้นมาพูดเป็นข้อแรกก็คือ โลกนี้ ดวงดาวกลมๆ นี้ เป็นของพวกเราทุกคน เราต่างเป็นเจ้าของร่วมกัน โดยมีสิทธิใช้ประโยชน์ แต่ก็มีหน้าที่ในการทำนุ บำรุงรักษาด้วย กล่าวอีกอย่างว่า ต้องใช้งานอย่างทะนุถนอมเพื่อความยั่งยืน
ในกระบวนสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกนี้ มนุษย์มีความเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ เนื่องจากมีปัญญา มีทักษะ ทำให้สามารถครองโลกดังที่เห็น ซึ่งมนุษย์นี้เองได้ทำลายสิ่งมีชีวิต และไม่มีชีวิตต่างๆ มาอย่างมากมายมหาศาลโดยเฉพาะในช่วง 10,000 กว่าปีที่ผ่านมา แม้ว่ามนุษย์มีความพยายามในการบริหารจัดการตัวเอง และสภาพแวดล้อมได้ดียิ่งๆ ขึ้นก็ตามที
ประเด็นที่ขอส่งสัญญาณ และวิงวอนต่อกลุ่มเยาวชนก็คือ ความเป็นเจ้าของโลก และความรับผิดชอบต่อโลก ซึ่งจะปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม อย่างไร้ความรับผิดชอบ ก็คงมิได้ เพราะมันเท่ากับเป็นการทำลายโลก และมวลมนุษย์ทั้งปวงไปพร้อมๆ กัน
บัดนี้ เราทุกคนอยู่ในสภาวะ หรือบริบทโลก ที่เต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ๆ ต่างมีการเปลี่ยนแปลง ผันผวนอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องรู้ ต้องตระหนัก และต้องร่วมมือกันเรื่องที่มวลมนุษย์กำลังเผชิญอยู่มีหลักๆ ได้แก่
1.ภาวะโลกร้อน หรือการพัฒนาที่กระทบต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้ก่อให้เกิดความไม่สมดุล ไม่สม่ำเสมอของฤดูกาล และภัยธรรมชาติที่ตามมาดังเป็นที่ประจักษ์กันอยู่
2.การวิวัฒนาการอย่างก้าวกระโดดของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีการสื่อสารสารสนเทศ และเครื่องจักร เครื่องยนต์ ในรูปของหุ่นยนต์และมนุษย์ประดิษฐ์ ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการทำมาค้าขายอย่างใหญ่หลวง รวดเร็ว
3.ความรู้สึกที่ไม่เป็นมิตรต่อกันของมวลมนุษย์ อันสืบเนื่องมาจากความคิดเห็นแบบสุดโต่ง แฝงด้วยความจงเกลียดจงชัง และการใช้ความรุนแรงเพื่อเอาชนะกันให้ถึงที่สุด เป็นต้น
ภายใต้สภาวการณ์นี้ ก็จะกระทบกระทั่งต่อชีวิตทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า ก็เป็นเรื่องที่เยาวชนคนหนุ่มคนสาวจะต้องรู้ ต้องตระหนัก ต้องตื่นตาตื่นใจ และคิดอ่านที่จะร่วมกันแก้ไข หรืออย่างน้อยก็เรียกร้องและขับเคลื่อนการจรรโลงโลกให้มีความเจริญก้าวหน้าแบบยั่งยืนและมีสันติ
ดังนั้น เยาวชนในยุคปัจจุบันจะต้องไม่คิดถึงเพียงแต่ตัวเอง หากแต่ต้องคิดถึงส่วนรวมด้วย ซึ่งเป็นทั้งสิทธิและหน้าที่
เยาวชนอาเซียนในวันนี้ กำลังสวมหมวก3 ใบ หรือเป็นพลเมือง 3 ประเภท คือ พลเมืองแห่งรัฐชาติ พลเมืองประชาคมอาเซียน และพลเมืองโลก ซึ่งควรตระหนักสิ่งนี้ ก็จะช่วยให้สามารถเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ด้วยการร่วมมือกันได้
ซึ่งจุดเริ่มต้นที่สำคัญอันหนึ่งคือ เยาวชนอาเซียนจะต้องรู้จักกัน จะต้องเริ่มเดินทางไปมาหาสู่กัน เพื่อสานสัมพันธ์กัน อันจะเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต
เยาวชนคนหนุ่มคนสาวอาเซียน ควรจะช่วยตัวเองกันได้ในระดับหนึ่ง ก็เป็นเรื่องที่ภาครัฐทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น ภาคเอกชน และแวดวงการศึกษา จะต้องเข้ามาช่วยสนับสนุนอย่างเป็นระบบ และช่วยเสริมสร้างความเป็นจริงใกล้กับหลักคิดที่ว่า ประชาคมอาเซียนมีประชาชนเป็นที่ตั้ง (People’s Central) ก็ต้องเริ่มต้นที่คนหนุ่มคนสาวเป็นสำคัญ
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี