ความร่ำรวยของประชาชนและของประเทศคือความปรารถนาสูงสุดประการหนึ่งของรัฐบาล
มีผู้คนจำนวนไม่น้อยกำลังให้ความสนใจกับคำประกาศของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา คำประกาศที่ว่าในปีพ.ศ. 2579 ประเทศไทยจะพัฒนาขึ้นจนกลายเป็นประเทศมีรายได้สูงและมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
คำประกาศดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีไทย ได้รับทั้งเสียงชื่นชมจากคนที่สนับสนุน แต่ขณะเดียวกันก็มีเสียงเย้ยหยันจากคนที่ไม่ปลื้มในตัวของนายกรัฐมนตรี และไม่ปลื้มกับรัฐบาล
อันที่จริงไม่ใช่เรื่องผิดที่นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย หรือของประเทศใดๆ ก็ตามบนโลกใบนี้จะประกาศเป้าหมายเพื่อนำพาให้ประเทศชาติและประชาชนก้าวขึ้นสู่สถานะที่ดีขึ้น เพราะถือเป็นการตั้งปณิธานที่ก่อให้เกิดเป้าหมายชัดเจน เพื่อพัฒนาประเทศและประชาชน
ในเมื่อนายกรัฐมนตรีประกาศเป้าหมายชัดเจนเช่นนี้แล้ว สาธารณชนกำลังเฝ้าดูว่านายกรัฐมนตรีจะกำหนดวิธีการและแนวทางปฏิบัติในการดำเนินนโยบายของรัฐที่เป็นรูปธรรมออกมาอย่างไร เพื่อจะทำให้ประชาชนมั่นใจว่าเป้าหมายที่นายกรัฐมนตรีตั้งไว้จะบรรลุผลได้จริงจังในปี พ.ศ. 2579
ในเมื่อนายกรัฐมนตรีมีคำประกาศที่ชัดเจน โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยและคนไทยสามารถก้าวข้ามกับดักของประเทศผู้มีรายได้ปานกลาง แล้วก้าวขึ้นสู่ประเทศที่มีรายได้สูง ดังนั้น ประชาชนจึงควรให้กำลังใจผู้นำรัฐบาล และต้องเฝ้าดูว่าคำประกาศนี้จะกลายเป็นแค่เพียงลมปาก หรือจะกลายเป็นความจริง
แน่นอนว่าเมื่อผู้นำของประเทศได้มีโอกาสกล่าวคำพูดใดๆ ก็ตามกับสาธารณชน เขาก็ต้องสรรหาคำพูดที่ทำให้ตัวเองดูดีที่สุดในสายตาของผู้รับฟัง แต่ปัญหาสำคัญอยู่ตรงที่ว่า เมื่อผู้นำรัฐบาลพูดไปแล้ว จะทำตามที่พูดได้หรือไม่
วิญญูชนในสังคมไทยเห็นมามากต่อมาก จนไม่สามารถนับครั้งได้ว่า ผู้นำรัฐบาลไทยหลายยุคหลายสมัยที่ผ่านมามีแต่คำสัญญา แต่แล้วคำสัญญาเหล่านั้นก็ไม่เคยปรากฏเป็นความจริงแม้แต่น้อย
คนไทยไม่เคยลืมสิ่งที่ผู้นำรัฐบาลในแต่ละยุคได้เคยลั่นวาจาให้คำสัญญาไว้ ถึงแม้จะมีผู้นำรัฐบาลไทยในยุคที่ผ่านๆ มา จะไม่เคยให้ความสำคัญกับคำสัญญาที่ได้ประกาศไว้ก็ตามแต่
คนไทยเคยได้ยินคำประกาศจำพวกลมๆ แล้งๆ ที่พ่นออกมาจากปากของผู้นำรัฐบาลไทยในยุคต่างๆ หลายเรื่องหลายราว หลายเรื่องนั้นคนไทยรู้ได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้ฟัง โดยรู้ว่าเป็นเพียงคำโกหกจากปากของผู้นำรัฐบาล แต่ถึงกระนั้น คนไทยก็ยังให้เกียรติผู้นำรัฐบาล เพราะไม่ต้องการฉีกหน้าผู้นำรัฐบาลรายนั้น แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการทำให้ผู้นำรัฐบาลได้สำเหนียกไว้ตลอดเวลาว่าเมื่อพูดไปแล้วจะต้องทำให้เกิดเป็นความจริงให้ได้
ประเทศไทยเคยมีผู้นำการเมืองที่โกหกพกลมมากมาย บางคนสัญญาว่าจะปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น บางคนสัญญาว่าจะแก้ปัญหาการจราจรที่ติดสาหัสในกรุงเทพมหานครบางคนสัญญาว่าจะทำให้ประเทศไทยมีความสุข ความสงบ และมีอีกหลายคำสัญญา แต่สุดท้ายแล้วจนถึงวันนี้ คำสัญญาจากปากของผู้นำรัฐบาลก็เป็นแค่เพียงลมปาก
ดังนั้นคนไทยจึงรอดูว่าคำสัญญาจากปากของพลเอกประยุทธ์ จะเป็นจริง หรือเป็นเพียงลมปาก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี