เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีกิจกรรม “ปลูกทุเรียนก้านยาว ทรัพย์เศรษฐี” จำนวน 179 ต้น ต้นละ 8 หมื่นบาท

จัดที่สวนทรัพย์เศรษฐี เมืองนนท์

เป็นอีกหนึ่งอีเว้นท์ในตระกูล “ทรัพย์เศรษฐี” ซึ่งเป็นคำเรียกกิจกรรมของเครือข่ายธรรมกาย

1. อีเว้นท์นี้ เป็นกิจกรรมในพื้นที่นอกวัดพระธรรมกาย

ไม่ชัดเจนว่าปลูกบนที่ดินกรรมสิทธิ์ของใคร

ไม่ชัดเจนว่า เงินรายได้บริหารจัดการอย่างไร? เข้าวัดพระธรรมกายหรือไม่?

แต่พระในเครือข่ายธรรมกายออกโรงเชียร์กิจกรรมนี้อย่างเปิดเผย

พระครูวินัยธรวิเชียร วชิรนาโท กล่าวผ่านสื่อในเครือข่ายธรรมกายว่า ทุเรียนที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนนท์คือก้านยาว พันธุ์ที่เราจะปลูกคือก้านยาวพันธุ์วัดสัก ถือว่าดั้งเดิม ที่เขานิยมที่สุดเราก็ไปคัดต้นพันธุ์ที่ดีที่สุด เมื่อเราปลูกไปแล้ว นับถอยหลังไม่เกิน 3 ปี เราจะได้ลูกทุเรียนที่มีโอชารส ตรงที่เราจะปลูกกันอดีตคือสวนทุเรียนนนท์เราก็จะมาฟื้นฟูเหมือนหลวงปู่มาบรรลุธรรม เอาวิชชาธรรมกายกลับคืนมาให้ได้

“บุญในครั้งนี้ไม่ใช่บุญเล็กบุญน้อย บุญยากที่จะประมาณที่จะบังเกิดขึ้นกับผู้ที่จะมีส่วนร่วมสถาปนา”

2. สื่อสังคมออนไลน์ในเครือข่ายที่สนับสนุนวัดพระธรรมกายมาโดยต่อเนื่อง ได้นำเสนอรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับโครงการนี้ โดยผู้ใช้นาม“ดาวส่งสาร” (ซึ่งเคยนำเสนอข้อมูล รูปภาพกิจกรรมธรรมกายแบบลึกชนิดคนวงในเลยทีเดียว) ระบุว่า สถานที่จัดกิจกรรม “ปลูกทุเรียนก้านยาว ทรัพย์เศรษฐี” นั้น หลวงปู่ได้ค้นพบธรรมกายภายในตัวที่นั่นด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เพราะฉะนั้น “เราควรปลูกต้นทุเรียนไว้เลี้ยงพระที่หลวงปู่ขยายวิชชาธรรมกาย” ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จะไปปลูกที่นั่น เพื่อระลึกนึกถึงหลวงปู่ได้บรรลุธรรมกายตรงนี้ เราเกิดมาชาตินี้มีบุญมาก ที่ได้ดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง หาที่พึ่งภายในได้ ไม่งั้น เกิดมาตายฟรีเพราะฉะนั้นสถานที่นี้สำคัญ จึงเลือกปลูกทุเรียน ไว้เลี้ยงพระ เลี้ยงเณร ผู้ประพฤติธรรม …ทุเรียนตรงนี้ ต้องอร่อยเป็นพิเศษ กายสิทธิ์จะดูแลอย่างดีให้มีรสโอชา เพราะฉะนั้น ใครมาปลูกจะได้บุญบารมีมากทีเดียวเพราะเป็นที่เนื่องด้วยสถานที่ประวัติศาสตร์อยู่ใกล้กัน แผ่นดินตรงนั้น (วัดโบสถ์บน) ไม่ธรรมดาหรอก บารมีพระผู้ปราบมาร เป็นพยานยืนยัน “ทุเรียนตรงนี้ ไม่ธรรมดา พระเณรองค์ไหนได้ฉัน จะบรรลุธรรม ญาติโยมที่มาปลูก และสนับสนุนจะได้บรรลุธรรมด้วย รวยทั้งภายนอกและภายใน ทั้งโลกีย์ทรัพย์และอริยทรัพย์”

มีรายงานว่า โครงการนี้ เปิดให้เป็นเจ้าภาพร่วมปลูกทุเรียน 179 ต้นต้นหนึ่งจำกัด ให้ 4 คน

ราคาต้นละ 8 หมื่นบาท

รวมเป็นเงินราวๆ 14 ล้านบาท

การสร้างเรื่องราวผูกโยงกับวิชชาธรรมกาย และการได้บุญกุศลถึงขั้นบรรลุธรรม จะเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่? ปลูกแล้ว ใครจะดูแลบริหารจัดการอย่างไร? หากปลูกไว้ให้พระฉันเองจะผิดพระวินัยหรือไม่? ผ่านการพิจารณาจากคณะสงฆ์หรือยัง? ยังไม่มีการเปิดเผย

3. หากกิจกรรมนี้ มีความเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายจริง ก็ไม่น่าแปลกใจ

เพราะวัดพระธรรมกาย มูลนิธิเครือของธรรมกาย ก็เคยมีกิจกรรมที่หวือหวา ฮือฮา มานักต่อนักแล้ว

เอาเงินไปซื้อที่ดินหวังสัมปทานเหมืองทองคำก็เคยมีเรื่องมีคดีกันมาแล้ว

เอาเงินไปสร้างโรงแรมรีสอร์ทที่เขาใหญ่ หรือบนเกาะกลางทะเล ก็เคยมาแล้ว

หรือแม้แต่ลักลอบเอาเงินวัดไปเล่นหุ้น ก็ยังเป็นคดีสอบสวนทวนความกันอยู่

ล่าสุด คดีสำคัญเกี่ยวพันกับผู้บริหารวัดพระธรรมกาย ซึ่งสอบสวนดำเนินคดีเนิ่นช้ามานาน เสมือนหนึ่งไม่มีความคืบหน้าเลย ก็มีข่าวคราวออกมาบ้าง ได้แก่ คดีที่ ดีเอสไอเคยส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ขณะนี้ ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้ดีเอสไอไปสอบสวนดำเนินคดีต่อ 2 สำนวน ได้แก่

คดีกรณีวัดพระธรรมกาย และผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น นายศุภชัย ศรีศุภอักษร และพวก (โดย น.ส.รัชดาพรรณ)
นำเงินที่ได้รับจากวัดพระธรรมกาย ไปซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์

คดีกรณีพระเผด็จ ทัตตชีโว หรือ เผด็จ ผ่องสวัสดิ์ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ช่วยเหลืออดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย “ธัมมชโย” ไม่ให้ถูกดีเอสไอจับกุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน

ขณะนี้ “ธัมมชโย” ก็ยังคงหลบหนีหมายจับคดีฟอกเงินอยู่

ส่วนพระเผด็จ ทัตตชีโว ก็ยังอยู่ที่วัดพระธรรมกาย ยังมีบทบาทสำคัญ แม้จะมีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถอดถอนพระราชภาวนาจารย์ (พระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทัตตชีโว) ออกจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 2560 ตามเนื้อหารายละเอียดเผยแพร่ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถอดถอนสมณศักดิ์ ระบุว่า

“ด้วยพระราชภาวนาจารย์ (พระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทัตตชีโว) วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี เข้าข่ายการเป็นผู้ต้องหาในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหา และการนำเงินของวัดพระธรรมกายไปเล่นหุ้น เป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ... บัดนี้ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถอดถอน พระราชภาวนาจารย์ (พระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทัตตชีโว) ออกจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 2560

ประกาศ ณ วันที่ 8 มี.ค. พ.ศ. 2560

ผู้รับสนองพระราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี”

สารส้ม