หลังจากที่พี่น้องตระกูลไรท์ประสบความสำเร็จในการสร้างเครื่องบินที่บินได้ เมื่อปี ค.ศ. 1903(พ.ศ. 2446) เรียกว่า มนุษย์เหาะเหินเดินอากาศได้ ก็ถือว่าโลกได้เดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเด่นชัด ต่อๆ มาก็มีวิวัฒนาการทางการบินขึ้นมาเป็นลำดับ ซึ่งในวันนี้มิได้คิดจะใช้เพียงเพื่อการเดินทางท่องโลกมนุษย์เท่านั้น หากแต่จะก้าวไกลออกไปท่องโลกอื่นๆ ได้ในอนาคตอันใกล้นี้
โดยก่อนหน้านี้ เครื่องบินรวมไปถึงยานพาหนะอื่นๆ ต้องอาศัยมนุษย์เป็นผู้ขับขี่ควบคุมทั้งสิ้น แต่บัดนี้ ได้มีการมุ่งพัฒนายานพาหนะไร้คนขับ ขึ้นมาใช้งานทั้งบนบก ดิน ใต้น้ำ บนอากาศ ก็ถือเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ด้วยสมอง สติปัญญาของมนุษย์เราๆ อันเป็นแนวโน้มที่ดูจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ในการเชื่อมโยง และสื่อสารกัน
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนั้นเปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน นั่นคือ จะเป็นไปในทางสร้างสรรค์ หรือเพื่อการทำลายล้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับมนุษย์ผู้ใช้ว่า ดี หรือ ชั่ว นั่นเอง
เทคโนโลยีที่เป็นที่จับตามองกันมากที่สุดในปัจจุบันนี้ ก็คงเป็นเรื่องของ “ยานอากาศไร้คนขับ (Drones)” ซึ่งทางสำนักราชบัณฑิตยสภายังไม่ได้มีการบัญญัติศัพท์ให้แน่ชัดว่า คำว่า Drones ภาษาอังกฤษนั้นจะแปลเป็นไทย หรือไทยจะมีคำเรียกยานอากาศไร้คนขับนี้ว่าอะไร ให้เป็นศัพท์แสงเฉพาะมากกว่าเป็นคำแปล คำอธิบายความ ก็รอผู้รู้ภาษาของไทยต่อไปก่อน เพราะที่เรียกกันทั่วไปว่า “ไร้คนขับ” นั้น ก็ยังไม่ค่อยถูกต้องเสียเท่าไหร่นัก เนื่องจากแม้ยานเหล่านี้จะไม่มีมนุษย์นั่งควบคุมภายใน แต่ก็ยังต้องใช้มนุษย์เป็นผู้กำกับ ควบคุม ผ่านสัญญาณมาจากห้องบังคับการอยู่ดี
อากาศยานไร้คนขับนี้ล่าสุดได้เป็นข่าวฮือฮาในทางน่าวิตกอย่างมาก ในกรณีมีผู้ใช้ฝูงบินโดรนเข้าไปทำลายล้าง ด้วยการทิ้งระเบิด หรือระเบิดตัวเอง ณ แหล่งฐานผลิตน้ำมันหลักของประเทศซาอุดีอาระเบีย ทำความเสียหายให้อย่างใหญ่หลวงและส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลกอย่างทันทีทันควัน
โดยก่อนนั้น การใช้อากาศยานไร้คนขับเพื่อการสู้รบ ก็มีข่าวอยู่เป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่ซีเรีย และอัฟกานิสถาน โดยใช้ทั้งเพื่อการสอดแนมหาข่าว และทำการโจมตีทางอากาศ
ยานอากาศ รวมทั้งยานใต้น้ำไร้คนขับ เหล่านี้สามารถนำไปใช้เพื่องานสันติ และงานสงคราม ได้ทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับว่า มนุษย์จะร่วมมือ หรือจะประหัตประหารกัน
ในทางสันติ อากาศยานไร้คนขับก็เริ่มทำงานเป็นบุรุษไปรษณีย์ เป็นผู้ช่วยแพทย์เคลื่อนที่ เป็นนักสอดส่องดูแลไร่นา แทนหุ่นไล่กาแล้วยังเป็นเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิความชื้นของอากาศ ของพื้นดิน ตรวจสอบการเจริญเติบโตของพืชสวนพืชไร่ ไปจนถึงการโปรยน้ำ โปรยยาได้
บนบก สังคมโลกก็รอการใช้ยานยนต์ รถไฟ ไร้คนขับที่ยืนยันเรื่องความปลอดภัย แล้วทางน้ำก็เริ่มมีการทดลองใช้เรือไร้คนขับ และลูกเรือ เพื่อการขนส่งสินค้ากันแล้ว
ล่าสุด นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลจอมบงการปูติน ได้ถูกตำรวจเข้าล้อมตัวจับกุมได้ ณ อาคารที่พัก หากแต่ตำรวจค้นหารวบรวมหลักฐาน
อิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เพราะเจ้าตัวได้เก็บอุปกรณ์เหล่านี้ใส่ไว้ในยานอากาศไร้คนขับ และสั่งให้บินไปที่บ้านของเพื่อนฝูง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการใช้ยานอากาศไร้คนขับเพื่อความอยู่รอด แต่ที่จีน ผู้ต้องหาหนีคุกอยู่ 17 ปี ก็ถูกจับได้ในที่สุด ด้วยฝีมือของโดรนส์ ที่สามารถส่งข้อมูลให้ตำรวจเกี่ยวกับถ้ำที่ใช้หลบซ่อนตัว ว่ามีของกินของใช้ที่แสดงว่ามีคนแอบอาศัยอยู่
กลับมาที่ประเทศไทย ในช่วง 5-6 ปีมานี้ เราต่างได้ยินศัพท์เทคนิค เช่น เศรษฐกิจระดับ 4.0, สมาร์ทซิตี้, อี-คอมเมิร์ซ, อี-กอฟเวอร์เมนท์,อี-เปย์เมนท์, ครีเอทีฟอีโคโนมี, อินโนเวชั่น และอินเวนชั่น แล้วก็มีการจัดตั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น
ก็เต็มไปด้วยคำสวยๆ เท่ๆ เหล่านี้ และบัดนี้ก็มีเรื่องยานยนต์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย คำถามก็คือว่า แล้วไทยเราจะซื้อเขาอย่างเดียว หรือจะคิดประดิษฐ์คิดค้นเอง
ผมแน่ใจว่า เด็กหนุ่มสาวของเรานักวิทยาศาสตร์ นักออกแบบ มีความรู้ความสามารถ มีสติปัญญาสูง มีศักยภาพมากมายที่จะร่วมกันคิดและพัฒนาสิ่งต่างๆ นี้ได้ ประเด็นก็คือ ฝ่ายการเมือง ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายแวดวงวิชาการ ฝ่ายอุตสาหกรรม ฝ่ายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี จะคิดอ่านอย่างไร จะรวมตัวกันอย่างไร
ฝรั่ง จีน แขก คิดได้ ทำไมไทยจะคิดไม่ได้ และแน่ใจว่า ผู้นำระดับชาติถ้าตั้งสติ เอาจริงเอาจัง ก็กำหนดนโยบาย และมาตรการบริหารจัดการได้
ไทยเราก็เป็นเลิศได้ ไม่ต้องเป็นแต่ซื้อ แต่เช่า เฝ้าพึ่งปัญญาชาติอื่นๆ เขาอย่างเดียว
เราอยู่กับฐานะของการเป็นผู้ประกอบและส่งออกรถยนต์ให้กับโลกมาหลายสิบปีแล้ว ความรู้พื้นฐานทางด้านการผลิตจึงไม่น่าจะเป็นปัญหา เหลือเพียงรัฐจะสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีให้เป็นของตนเองได้หรือไม่
หากทำได้ นอกจากผลิตรถยนต์ เราก็ข้ามไปสร้างยานยนต์อิเล็กทรอนิกส์ได้ และเมื่อนั้น เราผลิตโดรนเองได้ ไม่ต้องไปง้อซื้อจากต่างชาติ ให้ชาวบ้านเขาค่อนแคะเรื่องค่าคอมมิชชั่นให้รกหูอีกต่อไป
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี