ระบบการศึกษาของชาติเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุด โดยเฉพาะยุคปัจจุบันและอนาคตที่จะทำให้สังคมพัฒนาทันกับสถานการณ์ของโลกในยุคปัจจุบันและอนาคตเพราะโลกในปัจจุบันและอนาคตเป็นโลกที่มีพื้นที่มีความเชื่อมโยงต่อกันซึ่งผิดกับโลกในอดีตที่มีความเกี่ยวพันกันไม่ทั้งหมด จากประวัติศาสตร์ในอดีตมีพื้นที่จำนวนมากที่มีมนุษย์อาศัยอยู่แต่การคมนาคมไม่ติดต่อเกี่ยวโยงเช่นในปัจจุบัน กล่าวคือ โลกปัจจุบันการสื่อสารระหว่างสถานที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งเป็นไปอย่างรวดเร็ว เช่น เหตุเกิดที่ทวีปยุโรปก็ดี ทวีปอเมริกาก็ดี ประชาชนในทวีปเอเชียจะทราบได้เกือบหรือพร้อมๆ กับประชาชนที่อยู่ในทวีปหรือสถานที่ที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ เพราะการพัฒนาทางวิทยาการที่ก้าวหน้าทำให้เกิดผลดังกล่าว จึงอาจกล่าวได้ว่าโลกปัจจุบันมีขนาดเล็กกว่าโลกในอดีต
ฉะนั้น การพัฒนาด้านการศึกษาจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในทุกระดับเพราะการศึกษาเท่านั้นที่จะทำให้มนุษย์ทุกชาติทุกภาษามีความเท่าเทียมกันส่วนที่ต่างกันคือตัวผู้ศึกษาเองที่จะมีความสามารถในการรับความรู้ได้มากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ดี ระบบการศึกษาในปัจจุบันโดยเฉพาะการศึกษาในระดับสูง ได้แก่ ระดับปริญญา และระดับอาชีวศึกษานั้นโลกแห่งการศึกษาได้พัฒนาจากการศึกษาเฉพาะในสถาบันการศึกษาแต่อย่างเดียว ต้องเพิ่มทักษะในการศึกษาด้วยการหาประสบการณ์ในรูปแบบอื่น ได้แก่
1. การสอนนักศึกษาในสถาบันอย่างเดียวเปลี่ยนเป็นให้นักศึกษาได้ฝึกงานกับผู้อื่นในระหว่างเรียนด้วย
2. ชักชวนให้ผู้ที่จบการศึกษาไประยะหนึ่งกลับเข้ามาศึกษาในวิชาแขนงอื่น หรือวิชานั้น ได้พัฒนาก้าวหน้ากว่าเก่าโดยเฉพาะปัจจุบันวิชาชีพหลายแขนงเป็นวิชาที่ขาดแคลนในตลาดแรงงานจึงจำเป็นต้องกลับเข้ามาศึกษาในวิชาที่ตลาดแรงงานต้องการ
3. ชักชวนให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษามานานแล้วได้กลับเข้ามาศึกษาใหม่ในหลักสูตรระยะสั้น
4. สถาบันการศึกษาควรมีหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวของบัณฑิตที่จบตลอดเวลา โดยติดตามจากตัวบัณฑิตเอง หรือนายจ้าง หรือสถานที่ทำงานใหม่ของบัณฑิต โดยจัดให้มีสำนักงานศิษย์เก่าสัมพันธ์ด้วยการเปิดทางให้ศิษย์เก่ากลับมาสัมมนาหรือศึกษาในโครงการอบรมระยะสั้น
5. โครงการส่งเสริมนักศึกษาให้ทำการวิจัยที่สามารถต่อยอดให้สามารถพัฒนาสู่การปฏิบัติได้
6. สนับสนุนคณาจารย์ให้สนใจทำการวิจัยที่นำไปสู่การใช้ประโยชน์ในทางปฏิบัติได้ และทำตลอดเวลาในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอาจารย์
7. ส่งเสริมให้อาจารย์ได้ศึกษาและดูงานในสถาบันอื่นทั้งในและต่างประเทศเพื่อพัฒนาตนเองการทำวิจัยดังกล่าวนั้นควรทำวิจัยในวิชาที่ตนสอนซึ่งจะเป็นวิจัยเดี่ยวและวิจัยร่วมกับอาจารย์ท่านอื่นๆ ทั้งในสถาบันเดียวกันหรือร่วมกับต่างสถาบัน
สรุปรวมความว่า ในโลกปัจจุบันวิทยาการต่างๆ ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วดังกล่าวแล้ว ถ้าสถาบันก็ดี อาจารย์ก็ดี ไม่ตื่นตัวพัฒนาวิชาการตลอดเวลาผลที่เกิดขึ้นทั้งตัวอาจารย์และสถาบัน ตลอดจนประเทศชาติจะล้าหลังตกรุ่นซึ่งมีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศชาติในที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี