ในยุครัตนโกสินทร์ยุคใกล้นี้ก็เห็นมีแต่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เท่านั้นที่ทรงทุ่มเทและทรงยอมเหนื่อยยากพระวรกายอย่างแสนสาหัสตลอดระยะเวลาอันยาวนานในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับบ้านเมือง เพื่อให้แผ่นดินนี้มีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ไม่ล้นเกินจนเป็นอุทกภัยในฤดูฝน
เพราะแท้จริงแล้วภัยแล้งกับอุทกภัยก็เป็นหนึ่งเดียวกันนั่นเอง ไม่ใช่เป็นคนละเรื่องดังที่คนบางพวกพยายามสร้างความเชื่อในเรื่องนี้โดยมีวาระซ่อนเร้นคือการเบียดบังงบประมาณไปแบ่งสรรปันส่วนกันต่อเนื่องมาช้านานแล้ว
เพราะเหตุที่ขาดการขุดลอกบำรุงและสร้างเพิ่มแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อการใช้สอยจึงไม่สามารถกักเก็บน้ำเอาไว้ได้อย่างเพียงพอสำหรับการใช้น้ำในแต่ละปีจึงเกิดเป็นภัยแล้งขึ้น และเพราะเหตุที่พื้นที่อันกว้างใหญ่ของประเทศไม่มีที่กักเก็บน้ำอย่างเพียงพอ ครั้นถึงเทศกาลหน้าฝนเมื่อน้ำหลากไหลมาเท่าใดก็ไหลท่วมบ่าบ้านเมืองเท่านั้นจึงเกิดเป็นอุทกภัยขึ้น
พวกขี้ฉ้อตอแหลทำทีเหมือนว่ามุ่งแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมโดยแยกกันแก้ไข พอน้ำท่วมคราวหนึ่งก็ตั้งงบประมาณแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กว่างบจะออกมาก็เข้าหน้าแล้งแล้ว ก็สามารถเอางบไปล้างผลาญกันได้ตามอำเภอใจเพราะไม่ต้องใช้เงิน น้ำก็เลิกท่วมไปก่อนแล้ว
พอภัยแล้งมาคราใดก็ตั้งงบประมาณแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ทำทีว่าเมตตาช่วยเหลือราษฎร ทุ่มงบประมาณใช้สอยอย่างไม่อั้น หาคะแนนเสียงคะแนนนิยมกันเป็นการใหญ่ แต่ใช้งบได้ไม่เท่าใดฝนก็ตกลงมา น้ำก็ไหลบ่าท่วม ก็สามารถเอาเงินงบประมาณไปจัดสรรปันส่วนโกงกินกันได้อย่างสบายใจเฉิบ
ดังนั้นทั้งภัยแล้งและภัยน้ำท่วมจึงเป็นมหันตโชคอันเป็นช่องทางหาประโยชน์ของพวกโกงบ้านกินเมืองอย่างต่อเนื่องยาวนาน และทำให้ภัยแล้งและภัยน้ำท่วมเป็นสิ่งที่ต้องดำรงรักษาไว้เพราะเป็นทางทำมาหารายได้ของผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง
ไม่ต้องถึงเรื่องงบประมาณ เอาแค่เงินบริจาคช่วยเหลือน้ำท่วมก็ได้ ที่ตีฆ้องร้องป่าวแสดงความเมตตาอาทรราษฎรผู้ทุกข์ร้อน แล้วเป็นอย่างไร
ถึงวันนี้เงินนี้อยู่ที่ไหน ได้นำไปช่วยเหลือน้ำท่วมแก่ราษฎรสักกี่บาทก็ไม่มีใครรู้ ใครจะทวงใครจะถามก็ไม่มีคนตอบ นี่ขนาดเงินบริจาคกระจุ๋มกระจิ๋ม แล้วสำมะหาอะไรกับเงินงบประมาณจำนวนมหาศาลที่ไม่มีใครรู้รายละเอียดของที่มาและการใช้เงิน
นักการเมืองคนดังเคยตั้งโครงการขุดบ่อล้านบ่อ ซึ่งถ้าหากสำเร็จก็จะมีผลประโยชน์มหาศาลเกิดขึ้นจากการใช้งบประมาณนั้น แต่จะไม่มีผลใดๆ ต่อการแก้ภัยแล้งหรือน้ำท่วมเลยเพราะขุดบ่อไปแล้วจะมีน้ำหรือไม่ก็ไม่แน่ และบ่อขุดลงที่ตรงไหน หากมีน้ำก็ใช้ได้เฉพาะตรงนั้น จะไม่สามารถนำไปใช้ในที่ห่างไกลได้เลย ผิดกับคูคลองส่งน้ำที่สามารถใช้ได้สองฝั่งคูคลองที่ผ่านไป
ที่สำคัญ ปริมาณน้ำในการขุดบ่อนั้นถ้าแค่ใช้อาบน้ำล้างถ้วยล้างชามก็คงจะพอ แต่ถ้าใช้ทำการเกษตรบำรุงไร่นาสาโทให้พืชพันธุ์ธัญญาหาร
อุดมสมบูรณ์ก็คงไม่พอใช้เป็นแน่ แม้ปานนี้แล้วก็ยังมีคนดิ้นรนจะใช้วิธีการขุดบ่อแก้ภัยแล้งอยู่นั่นเอง นี่คือชะตากรรมของชาติบ้านเมืองในขณะนี้
ประเทศไทยมีแม่น้ำใหญ่สี่สายไหลจากเหนือลงใต้ คือแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ซึ่งแต่เดิมเป็นแม่น้ำกว้างใหญ่ มีความลึกรองรับน้ำได้มาก แต่ปัจจุบันนี้แคบลงและตื้นเขิน แม้กระนั้นยามเทศกาลหน้าฝนน้ำก็ไหลหลากจากเหนือลงใต้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดภัยน้ำท่วมขึ้นในภาคกลางและกรุงเทพฯ
สิ้นฝนลงเมื่อใดน้ำในแม่น้ำทั้งสี่สายก็แห้งผากเพราะไหลทิ้งลงทะเลไปเกือบทั้งหมด ยิ่งนานวันท้องแม่น้ำก็ตื้นเขิน จนบางที่บางแห่งสามารถใช้รถยนต์แล่นข้ามไปได้แล้วก็หามีใครคิดอ่านแก้ไขไม่
มัวแต่ตะโกนโหวกเหวกด่าจีนด่าลาวว่ากั้นเขื่อนกักเก็บน้ำ ทั้งๆ ที่เป็นการทำเขื่อนเก็บน้ำในแผ่นดินของเขา แต่ของไทยเรากลับไม่เคยคิดจะทำการ แม้มีความคิดก็ถูกขัดขวางจากพวกขี้ข้าต่างชาติ จนถึงวันนี้แม่น้ำใหญ่สี่สายจากเหนือใต้ ปิง วัง ยม น่าน ก็ยังไม่มีเขื่อนกักเก็บน้ำเลยแม้แต่สักเขื่อนเดียว น้ำไหลบ่าก็ไหลทิ้งทะเลหมด สิ้นฝนก็สิ้นน้ำ อาณาประชาราษฎร์ก็เหมือนสิ้นใจ นี่คือสภาพที่เป็นอยู่
ส่วนทางภาคอีสานเล่า ผืนแผ่นดินลาดชันจากตะวันตกไปตะวันออก มีแม่น้ำสำคัญสองสายคือแม่น้ำชีกับแม่น้ำมูล ซึ่งเป็นสายน้ำสายเลือดที่หล่อเลี้ยงภาคอีสานมาช้านานตั้งแต่บรรพกาล มีสภาพไม่ต่างกันกับแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ซึ่งถึงวันนี้ก็ไม่มีเขื่อนหรือที่กักเก็บน้ำเลยแม้แต่แห่งเดียว
การจึงเป็นแบบเดียวกันกับแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน นั่นคือถึงเทศกาลหน้าฝนน้ำจากตะวันตกก็ไหลท่วมบ่าภาคอีสานไปทางตะวันออก ท่วมบ้านท่วมเมืองเสียหายยับเยินในทุกๆ ปี
ครั้นฝนสิ้นเม็ด น้ำในแม่น้ำชีและแม่น้ำมูลก็สิ้นน้ำ และวันนี้ก็แห้งขอดจนเดินข้ามได้หลายพื้นที่ และนำรถวิ่งข้ามได้หลายพื้นที่ด้วย นี่คือชะตากรรมของแม่น้ำซึ่งเป็นชีวิตของชาวไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน ซึ่งถึงวันนี้ก็ไม่มีใครคิดอ่านทำการใดๆ
ก็ต้องตะโกนดังๆ ว่าถึงเวลาที่จะต้องสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน และแม่น้ำชี แม่น้ำมูลแต่ละสายไม่น้อยกว่า 5 เขื่อน ตามสภาพที่เป็นจริงถึงเทศกาลหน้าฝนน้ำก็ไม่ท่วม เข้าเทศกาลหน้าแล้งก็ยังมีน้ำกักเก็บไว้ใช้ได้ตลอดทั้งปี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี