l ตำนาน “ธีรยุทธ-สถาพร- ปู่จิ๊บ” ตำนาน “เพื่อนพ้องน้องพี่” : รัก จริงใจ ห่วงใยกัน ตลอดมาและตลอดไป
l ผมเป็นคนประเภทที่ ไม่ค่อยสนใจวันเกิดของตนเอง นอกจาก “ใช้วันเกิด > สรุปทบทวนชีวิตของตน”แต่ให้ความสำคัญของ “ผู้ให้กำเนิด-ผู้ที่เราร่วมกัน” สามีภรรยา “ให้เกิด อีกทั้งพี่น้องร่วมอุทร”
l รวมทั้ง “เพื่อนมิตร ๑” ที่วันนี้ จะมีงานตำนาน “วันเกิด” : ซึ่ง คบ รู้จัก และร่วมชะตาชีวิตมานานนม
“เขา” : เป็นคนเก่ง คนดัง คนดี คนหนึ่งของสังคมไทย ในยุคก่อนการเปลี่ยนของเดือนตุลา ๒๕๑๖ มศ.๕ สอบได้ที่ ๑ ประเทศไทย จาก รร.สวนกุหลาบ คู่แข่งของ เตรียมอุดมศึกษาฯ ของผมมาเข้าเป็นน้องใหม่ วิศวะจุฬาฯ ปีการศึกษา ๒๕๑๒ หลังผม “รุ่น วศ. 10” สองปี ทำกิจกรรมร่วมกันมา ในคณะวิศวะจุฬาฯ ที่ชมรมวิชาการคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ที่มีบทบาทอย่างหนึ่ง คือ การออกเอกสารวิชาการด้านวิศวฯ ราคาถูก จำหน่ายแก่ นิสิตจุฬา และต่างมหาวิทยาลัยและ “เขา” ก็ตามออกมาทำกิจกรรมของสโมสรนิสิตจุฬาฯ และทำบางเรื่อง ที่โด่งดังฯ
l ความสนิทสนมคุ้นเคย พัฒนามาเรื่อยๆ ในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องคณะวิศวฯ ที่เน้น ระบบอาวุโสSOTUS Seniority Order Tradition Unity Spirit = SOTUSที่คณะวิศวะจุฬาฯ : รุ่นพี่ ต้องเป็น “ผู้ให้”, รุ่นน้องเป็น “ผู้รับ”
มีเรื่องตลก เกิดขึ้น
ช่วงนั้น คนรุ่นใหม่สนใจ : มาร์กซ์ และ เองเกลส์ เป็นคู่หูผู้ร่วมสร้างทฤษฎี และร่วมงานกันตลอดชีวิตเองเกลส์
มีฐานะร่ำรวย เป็นผู้สนับสนุนการเงินฯ ในกิจกรรมที่ทำร่วมกันกับ มาร์กซ์ วันหนึ่งในการสนทนา “ธีรยุทธ”
เอ๋ยว่า : “พี่จิ๊บ” เป็น เองเกลส์, ส่วนผมเป็นมาร์กซ์? คงเข้าใจผิดว่า “ผมมีฐานะดีแบบเองเกลส์” เพราะเห็นพี่จิ๊บ
ช่วยจ่ายเงินให้รุ่นน้อง ที่ขาดฯความจริง ไม่ได้มีมาก : แต่เมื่ออยู่กับรุ่นน้อง, รุ่นพี่ต้องเป็นคนจ่ายฯ แต่หลังจบมาทำงานหลายปี หลายครั้ง “ธีรยุทธ : ก็เป็นคนจ่ายในการกินอาหารร่วมกัน”
l ความสนิทลงลึกไปถึง ระดับ ครอบครัว
ผม เคยไปเยี่ยม “คุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง ของ ธีรยุทธ ที่กรมการสัตว์ทหารบก ถนนศรีอยุธยา บ้านที่ “จ่าฉิม”(พ่อของธีรยุทธ) และครอบครัว ที่มีฐานะจน อาศัยอยู่ฯ ในช่วงเรียนวิศวะจุฬาฯคุ้นเคยกับ “พี่ชาย และน้องชาย” ของธีรยุทธ(ในงานศพ “พี่จิ๊บ” : ก็ได้ไปร่วมงานฯ)
l ความสัมพันธ์ ทางการเมือง เดินควบคู่ไปกับ การทำกิจกรรมร่วมกันในจุฬาฯ และสังคมฯ การสมัครเป็น
ตัวแทนของวิศวฯ ในตำแหน่งสำคัญ เช่น นายก-อุปนายกสโมสรฯ ต้องผ่านมติของสภาซีเนียร์ปี ๒๕๑๔ พี่ฉายศิลป
เชี่ยวชาญพิพัฒน์ ได้รับมติฯ ให้ เป็นผู้แทนสมัครนายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ ชัยวัฒน์ สุรวิชัย สมัคร อุปนายกสโมสรฯ (มติโหวต ชนะ “ธีรยุทธ บุญมี” ที่เพื่อนๆ เสนอตัวมาแข่งฯ) ปี ๒๕๑๕ ธีรยุทธ ลงสมัครแข่ง นายก สจม. แต่ แพ้ “คุณกำจัดโสน จุลสมัย” นิสิตแพทย์ฯ แต่ได้ถูกเสนอชื่อฯ และได้รับเลือกเป็นเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ปี ๒๕๑๕
l บทบาททางสังคม : เริ่มต้นจาก “เสื้อผ้าดิบ”,การต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น, การรณรงค์ให้ใช้สินค้าไทยฯ ผ่านการลงคิดลงแรง โดย “ธีรยุทธ” เป็นหลัก แต่ร่วมสร้างงานต่างๆ มาด้วยแรงกายแรงใจร่วมกันฯ และการสร้าง “ศนท.”และสโมสรนิสิตนักศึกษาฯ ให้มีบทบาทในสังคมไทย ในช่วงนั้นเหตุการณ์ชุมนุมของนักศึกษา ๒๑ - ๒๒ มีนา ๒๕๑๖ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดย ศนท.มาถึง การถูกรัฐบาลตั้งหาเป็น “๑๓ กบฏเรียกร้องรัฐธรรมนูญ” นำไปสู่เหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ๒๕๑๖ ประเมินสถานการณ์ร่วมกัน ที่นักศึกษาประชาชน และ “ธีรยุทธ” ถูก “คุกคาม” จากฝ่ายขวาจัดฯ
ปี ๒๕๑๙ การประชุมร่วม ที่เริ่มปิดลับมากขึ้น ทั้งที่ตึกจักรพงษ์ สถาบันอื่นๆ ต่างจังหวัด เพราะถูกเฝ้าตามมากขึ้น
นำไปสู่การตัดสินใจร่วมกัน “เดินทางสู่ชนบทอันกว้างใหญ่” ๗ สิงหา ๒๕๑๙ เข้าร่วมกับ พคท.การเดินทางเข้าป่า
โดยรถตู้ ไปทัวร์ภาคเหนือฯ การเดินขึ้นเขา ลงห้วย บุกป่าฯกว่าจะไปถึงฐานที่มั่นฯการพัก การเดินทาง สลับกันไปในช่วงการเดินทางยาวไกล ที่โหดหิน ทากฯ ผ่านแดนดินของเพื่อนบ้าน
l การอยู่ ร่วมคิดร่วมแรง ทั้งกิจกรรมการเมือง และการดำรงชีวิตในฐานที่มั่นและในป่าฯ ที่ลำบาก ขาดแคลนยามคิด : ก็ลงคิดหนัก การก่อตั้ง “กป.ปช.”ออกวารสาร “สามัคคีสู้รบ” และการหารือแลกเปลี่ยนต่างๆ ยามว่าง : คิดเลขนับแต้มฆ่าเวลา, ออกล่าสัตว์ เดินออกกำลังกายขึ้นเนินยามเช้า ทำสวนผัก งานพี่เลี้ยงฯการมองสถานการณ์ในอนาคตฯ คุยกันสองคน “ส.ชัยชนะ - ส.สุข ชมจันทร์” > พคท.ไม่มีโอกาสชนะศึกฯ” “ธีรยุทธ” มีปัญหาสุขภาพ-หัวใจฯก็ได้ “ส.เดือน” ภรรยาคู่ชีวิต ดูแล โดยเฉพาะ ช่วงที่ย้ายมา “ภูพานฯ”
l มีช่วงที่แยกกันทำงาน เช่น ส.สุข ต้องไปดูแล“พี่ไขแสง สุกใส” ที่ต้องเดินทางไปรักษาที่คุนหมิง-เซี่ยงไฮ้การเดินทางไปทำงานอำนาจรัฐที่ภูพาน กับ “ประสารมฤคพิทักษ์” ที่เขตเพชรบุรี และสิงห์บุรี ที่ภูพานฯ การเดินทางเข้าเมืองหลวง เพื่อไปทำงาน และแจ้งข่าว ให้ทางบ้านของ “ส. เดือน” ก่อนไปเจอกันที่ภูพานฯ
l ผ่านความคิดที่ร่วมกัน และต่างกัน ที่มากขึ้นๆ จนได้ข้อสรุปว่า “คงไม่สามารถเดินร่วม “พคท.” ได้อีกแล้ว”
วันที่ต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รัก เป็นทุกข์ : เป็น พคท.ที่มีคนดีมีอุดมคติ ช่วยดูแลพวกเรา ในยามหนีภัยเมืองสู่ป่าการประจบเหมาะกับสิ่งที่ไม่รัก เป็นทุกข์ : ปี ๒๕๒๔ เดินทางกลับสู่นาคร ด้วยบทเรียน บทชีวิต ที่หาได้ยากฯ เพื่อนเราบางคนฯ
ที่กลับมาเริ่มต้นใหม่ พอมีฐานะ ชีวิตที่ดีขึ้น : ไม่เคยลืม“สหาย” : ได้ช่วยกันได้บ้างการตั้ง “กลุ่มเพื่อนพ้องน้องพี่”ช่วยให้กำลังใจ ความคิด การเงิน สุขภาพฯ มีส่วนให้ คนไม่น้อย เติบโตขึ้นแต่เส้นทางเดินในนาคร แม้ไม่ต้องปีนเขา ข้ามน้ำ หลบระเบิดฯ แต่ “ความโหดหิน ทางความคิดเริ่มสูงชันขึ้น” เหตุการณ์ ๑๗ พฤษภา ๒๕๓๕, รัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๔๐ สองมือ สองคิด ยังร่วมมือร่วมใจกัน เดินไปข้างหน้า
l แต่เหตุการณ์ ตั้งแต่ ปี ๒๕๔๔ ยุค “ทุนสามานย์” : คนเดือนตุลาฯ เริ่มแยกทางเดิน ที่ยิ่งห่างกันมากขึ้น
อุดมการณ์ เก็บลงลิ้นชักก่อน ขอเป็น สส. รมต., แยกฝ่าย ชัด: ทัก-ไม่ทัก แดง-เหลือง ธร- ไม่ทอน ใหม่-เก่า
แต่ “เพื่อนมิตรส่วนหนึ่ง” ยังคงเดินจับมือกัน เดินเดี่ยวบ้างรวมกันบ้าง ตามคติและทัศนะฯ ส่วนตน ความโดดเด่น : วิเคราะห์สถานการณ์ประจำปี ที่ทุกคนฟัง : เริ่มมีความคิดต่างกัน > รับ-ไม่รับ ตามยุคสมัย “ความสับสน ซับซ้อน” มีมากขึ้น ทั้งความคิดเก่า ใหม่ อคติ ความชอบ-ไม่ชอบ ความชรา สุขภาพ การจากไป
เป็น “พี่จิ๊บ” ที่คอยปกป้องแก้ต่างให้เสมอ : ผู้กล่าวหา “เขา” ร่ำรวยผิดปกติ ฯลฯ รวมทั้งเพื่อนๆที่สังกัดฝ่ายทัก
เขา : ยังจับงานบน ปีละครั้งให้ความรู้ , ส่วนเรา เน้นงานล่าง ทำสม่ำเสมอ ด้วยความรัก ให้น้ำใจ กำลังใจ กัน
การเจอกัน เริ่มน้อยลง แต่ก็ขาดไม่ได้ สำหรับงานวันเกิด “๑๐ มกรา : ธีรยุทธ” โดย “สถาพร” ผู้มากน้ำใจเพื่อนมิตรน้องนุ่ง คนกันเอง เดินทางมาร่วม รำลึกถึงอดีตร่วมกัน แต่บางคน ชรา ป่วยไข้ ก็เป็นไปตามอัตภาพคงจัดได้อีกไม่กี่ครั้ง ตามสภาพ สุขภาพ การงานฯ การคงอยู่และการจากไป อันเป็นธรรมดาของสรรพสิ่ง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี