Deepfakes คือ วีดีโอที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) และ Machine Learning (การทำให้ระบบคอมพิวเตอร์เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองผ่านการใช้ข้อมูลที่เราป้อนเข้าไปให้มัน)ปัจจุบันความก้าวหน้าในเทคโนโลยีทั้งสองนี้ทำให้การสร้างเสียงและวีดีโอปลอม (deepfakes) ทำได้ค่อนข้างง่ายแต่กลับมีความเหมือนจริงเป็นอย่างมากจนยากที่แยกได้ว่าชิ้นไหนเป็นของจริงหรือปลอม
จากวีดีโอคลิปสองภาพข้างบน ภาพทางซ้ายมือจะเป็นวีดีโอภาพและเสียงจริงๆ ของทั้งโอบามาและปูติน ส่วนภาพทางขวามือจะเป็น deepfakes หรือวีดีโอปลอมที่ถูกสร้างด้วย AI และ Machine Learning
ลองนึกภาพความตื่นตระหนกที่จะเกิดขึ้น เมื่อ deepfake ของผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกที่กำลังแสดงอาการตื่นตกใจขณะกำลังแถลงข่าวเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (ไวรัสโคโรนา) แพร่กระจายอยู่ในโลกออนไลน์ หรือความวุ่นวายปั่นปวนในตลาดการเงินโลกเมื่อนักเล่นหุ้นได้เห็น deepfake ของผู้ว่าการธนาคารกลาง สหรัฐออกมาประกาศว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยทีเดียวเพิ่มอีก5 เปอร์เซ็นต์ หรือความหวาดผวาที่จะเกิดขึ้น เมื่อเราไปหลงเชื่อdeepfake ของทรัมป์กับคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือออกมาท้าทายว่าจะยิงอาวุธนิวเคลียร์ถล่มใส่กันในวันสองวันนี้
คำว่า Deepfakes ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อสักประมาณเดือนธันวาคม ปี 2560 โดยถูกใช้เป็น ชื่อรหัส(code name) ของโปรแกรมเมอร์คนหนึ่งที่ใช้ AI และMachine Learning ทำการเปลี่ยนใบหน้าของเหล่า porn stars ในภาพยนตร์ลามก (pornographic movie) ให้กลายเป็นใบหน้าดาราฮอลลีวู้ดและสุภาพสตรีผู้มีชื่อเสียงหลายคนแล้วก็เอาเข้าไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ปัจจุบันการสร้าง deepfakes ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแต่ในแวดวงหนังโป๊ แต่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในทุกวงการโดยเฉพาะการเมือง
Deepfakes ไม่ใช่เทคนิคการตัดต่อวีดีโอหรือตัดแปะภาพด้วยโปรแกรมกราฟิกแบบทั่วๆ ไป แต่ deepfakes ใช้เทคนิคที่เรียกว่า Generative Adversarial Networks (GANs) ในการสร้างวีดีโอปลอมของบุคคลหนึ่งด้วยการคัดลอก ใบหน้า ลักษณะท่าทาง กิริยา การเคลื่อนไหวริมฝีปากและน้ำเสียงจริง จากบุคคลอีกคนหนึ่ง GANs จะประกอบด้วยระบบเครือข่ายของคอมพิวเตอร์สองกลุ่มโดยที่แต่ละกลุ่มเครือข่ายนี้จะแข่งขันกันสร้าง deepfake ที่สมบูรณ์แบบที่สุดออกมา
ยกตัวอย่างเช่น วีดีโอปลอมทางซ้ายมือเป็น deepfakes ของโอบามาซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิค GANs ด้วยการคัดลอกรูปแบบการเคลื่อนไหวองคาพยพต่างๆ บนใบหน้าจากบุคคลจริงๆ ในภาพขวามือ(ขอให้สังเกตว่า ริมฝีปากของโอมาบาตัวปลอม กำลังขยับเหมือนกับริมฝีปากของคนในรูปขวามือซึ่งไม่ใช่ deepfake) ระบบ GANs จะมีเครื่องสังเคราะห์หรือตัวSynthesiser ที่จะมีรูปภาพจริงๆ ของโอบามาเป็นต้นแบบที่ใช้ในการตัดสินว่าเครือข่ายของคอมพิวเตอร์กลุ่มไหนสร้าง deepfakeที่เหลาออกมาจากใบหน้าทางขวามือได้ออกมาเหมือนกับใบหน้าจริงๆ ของโอบามาได้มากน้อยขนาดไหน
ตัวสังเคราะห์นี้จะทำหน้าที่เสมือนกรรมการตัดสินที่คอยจ้ำจี้จ้ำไชบอกแต่ละเครือข่ายว่าสร้าง deepfakes ได้เหมือนขนาดไหน โดยถ้ายังไม่เหมือนสมบูรณ์แบบก็จะสั่งให้อีกเครือข่ายหนึ่งไปทำให้ดีกว่าเครือข่ายแรก และพอเครือข่ายสองสร้างออกมายังไม่เหมือนแบบเปี๊ยบตัวสังเคราะห์ก็จะเอาผลลัพธ์ที่ได้จากเครือข่ายที่สองป้อนกลับเข้าไปใส่ให้เครือข่ายที่หนึ่งไปพัฒนาสร้างต่อให้ดีขึ้นต่อไปอีกกว่าของเก่า แข่งกันไป แข่งกันมาแบบนี้เป็นพันๆ หมื่นๆ หรือแม้กระทั่งถึงแสนหรือล้านรอบจนกว่าจะได้ deepfake ที่มีความเหมือนกันเปี๊ยบกับรูปภาพจริงของโอบามา
Deepfakes ถือเป็นพัฒนาการอีกขั้นของการสร้างข่าวปลอมหรือ Fake news เพราะมันเป็นการรับข้อมูลข่าวสารที่ผู้รับทั้งได้เห็นด้วยตาและได้ฟังด้วยหูของตนเองโดยตรงไม่ใช่เป็นเพียงแค่การส่งต่อ บอกต่อหรือเล่าต่อๆ กันมาแบบข่าวปลอมทั่วๆ ไป
ปัจจุบัน deepfakes ถูกจัดเป็นภัยคุกคามตัวใหม่ต่อความมั่นคงของหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาซึ่งปลายปีนี้กำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายน คณะกรรมการการเลือกตั้งสหรัฐฯ (FederalElection Commission) และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังวางแผนการรับมือกับทั้ง Fake news และ Deepfakes ที่กำลังออกมาปั่นหัวและเป่าหูคนอเมริกันอยู่ตลอดเวลา
ธิติ สุวรรณทัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี