คำกล่าวที่ว่า “อำนาจชวนให้โกงกิน ถ้าอำนาจล้นแผ่นดิน ก็จะโกงกินกันจนสิ้นชาติ” เป็นคำกล่าวที่อยากนำมาฝากผู้ใช้อำนาจทั้งหลายที่มีอยู่ในมือ โดยเฉพาะคนที่กำลังใช้อำนาจอย่างไม่ลืมหูลืมตาในบ้านเมืองขณะนี้ ทั้งๆ ที่มีรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศบังคับใช้อยู่ที่ทุกคนต้องยึดถือ โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งคนถืออำนาจและกำลังใช้อำนาจอย่างไม่ลืมหูลืมตาในขณะนี้ไม่ค่อยจะคำนึงถึง
สร้างความขัดแย้งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นอีกได้เรื่อยๆ
โดยเฉพาะความขัดแย้งกับผู้ใช้อำนาจขณะนี้ในหลายเรื่องเกี่ยวกับวิธีการที่ผู้มีอำนาจนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นวิธีการไม่ผิดอะไรกับ“ตั้งไข่ล้ม ต้มไข่กิน” นั่นเอง
“ตั้งไข่ล้ม ต้มไข่กิน” ในบทดอกสร้อยสุภาษิต ซึ่งนิพนธ์โดย “พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ” เมื่อ พ.ศ.2433 ความว่า
“ตั้งเอ๋ยตั้งไข่
จะตั้งใยไข่กลมก็ล้มสิ้น
ถึงว่าไข่ล้มจะต้มกิน
ถ้าตกดินก็อดหมดฝีมือ
ตั้งใจเรานี้จะดีกว่า
อุตส่าห์อ่านเขียนเรียนหนังสือ
ทั้งวิชาสารพัดเพียรหัดปรือ
อย่าดึงดื้อตั้งไข่ร่ำไรเอย”
เป็นบทดอกสร้อยสุภาษิตที่สอนเด็กให้รู้จักคิดรู้จักปฏิบัติตนให้เป็นไปในทางที่ดีและถูกต้อง เป็นนักเรียนก็ต้องตั้งใจเรียนให้ดีทุกวิชา อย่ามัวหยิบเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวมาทำให้เสียเวลา เหมือนเอาไข่กลมๆ มาตั้งนั่นเอง ซึ่งไม่มีวันจะตั้งให้ตรงได้อาจตกดินก่อนก็ได้
ไม่ผิดอะไรกับการแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองในขณะนี้ ซึ่งดูไปแล้วก็คล้าย “ตั้งไข่ล้ม ต้มไข่กิน”เพราะภารกิจสำคัญของการใช้อำนาจปืนเข้ามายึดอำนาจครั้งนี้ ก็คือการกวาดล้างความไม่ดีทั้งหลายที่ผู้ใช้อำนาจในขณะนั้นทำไว้ให้หมดสิ้นไปแบบถอนรากถอนโคนจริงๆ ไม่ใช่ทำแบบแค่ตัดยอดตัดกิ่ง แต่ไม่ขุดรากถอนโคนจริงๆ ให้หมด ซึ่งมันจะเจริญเติบโตขึ้นมาได้อีก
มัวไปทำเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องตามใจชอบตามอำนาจ
ใช้อำนาจแบบไม่เข้าใจคำว่า “บ้านเมือง” และคำว่า “การเมือง” เพราะทั้งสองคำดังกล่าวมีความหมายไม่เหมือนกัน
“บ้านเมือง” คือแผ่นดินอันเป็นที่อยู่และที่ทำมาหากินของประชาชนในชาติ ซึ่งต้องการอยู่กันอย่างมีความสุข ทำมาหากินตามอาชีพที่ถนัดบนพื้นฐานของความเป็นธรรม ภายใต้การบริหารจัดการอย่างดีและถูกต้องของผู้มีอำนาจหน้าที่
“การเมือง” คือการแสวงหาอำนาจ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการบริหารจัดการต่างๆภายใต้อำนาจที่ได้มา ซึ่งการแสวงหาอำนาจนั้นพลิกแพลงได้ตลอดเวลาเหมือนของกลมๆนั่นเอง
บทบาทและหน้าที่ของทหารที่ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาและสถานการณ์ของบ้านเมือง ด้วยการทำรัฐประหารจึงต้องวางน้ำหนักการทำงานอยู่ที่เรื่องของ “บ้านเมือง” ให้ดีที่สุด อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ “การเมือง” เพื่อแสวงหาอำนาจให้กับตนเองหรือพรรคพวก หรือคิดอ่านวางแผนสืบทอดอำนาจต่อไปให้ยาวที่สุดที่จะยาวได้
ถ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแสวงหาอำนาจเมื่อไร เมื่อนั้นจะตกอยู่ในสภาพของการ “ตั้งไข่ล้มต้มไข่กิน” ซึ่งจะตามมาด้วย “ไข่ตกดินก็อดหมดฝีมือ”
ยึดอำนาจด้วยปืนมาแล้วต้องรู้จักทำบ้านเมืองให้ดีขึ้น
“บทสร้าง” เป็นบทสำคัญในการทำงาน
เคยเรียนวิชาเรขาคณิตกันมาแล้วไม่ใช่หรือว่า“บทสร้าง” เป็นบทสำคัญในวิชาเรขาคณิต เมื่อมี“สิ่งที่กำหนดให้ที่จะต้องพิสูจน์” ก็ต้องหา “บทสร้าง”มาเสริมในการพิสูจน์ ต้องรู้จักหาบทสร้างอย่างมีเหตุผล จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็อยู่ที่บทสร้างนี่แหละ
การสร้างบ้านสร้างเมืองต้องรู้จักเลือก “คนดี มีความรู้ตรงกับงานในหน้าที่ ” เข้ามาทำ
การนำคนที่ไม่ได้คัดสรรกลั่นกรองให้ดี สักแต่ว่าเป็นพวกเดียวกัน เป็นคนรุ่นเดียวกันจากสถานศึกษาเดียวกัน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง โดยไม่คำนึงถึงความรู้และประสบการณ์ในการทำงานให้ตรงกับหน้าที่การงานที่จะมอบหมายให้ทำ โดยเฉพาะประวัติความเป็นมาในเรื่องความประพฤติของบุคคลนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไร เป็นคนที่ไม่มีมลทินมัวหมองในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตอย่างใดหรือไม่ซึ่งสิ่งต่างๆ ดังกล่าวนี้เป็นสิ่งที่จะมีผลแห่งความเชื่อถือ ศรัทธา ของประชาชนว่าเป็นอย่างไรทั้งสิ้น
ไม่ผิดอะไรกับวงดนตรี ที่มีนักดนตรีซึ่งผู้เล่นดนตรีแต่ละชิ้นในวงที่เล่นเข้าขากันไม่ได้ เพราะนอกจากไม่ไพเราะแล้ว ยังหนวกหูน่ารำคาญอีกด้วย
ที่ผ่านมาในการทำงานของ “วงดนตรี” วงนี้เป็นอย่างไรนั้น ผู้คนส่วนใหญ่ในบ้านเมืองรู้ดีว่าอยากจะฟังต่อ หรือกำลังหนวกหูไม่อยากฟัง
(อ่านต่อวันศุกร์)
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี