วันอาทิตย์ ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ปรีชา'ทัศน์
ปรีชา'ทัศน์

ปรีชา'ทัศน์

วันศุกร์ ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.
เราไม่ทิ้งกัน : ภาคอเมริกัน (จบ)

ดูทั้งหมด

  •  

สัปดาห์ก่อนเล่าถึงเรื่องมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมและขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาบางมาตรการที่ออกมาอย่างรวดเร็วในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา มาตรการต่างๆ เหล่านี้ถูกรวมอยู่ในกฎหมายฉบับที่เรียกกันสั้นๆ ว่า CARES หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Coronavirus Aid, Relief and Economics Security Act”

วัตถุประสงค์หลักของ CARES นั้น ก็ไม่ต่างจากพระราชกำหนด 3 ฉบับ ของรัฐบาลประยุทธ์ที่ให้อำนาจทั้งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยกู้เงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาและเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ส่วน CARES นั้น มีวงเงินอยู่ที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นวงเงินมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสมัยใหม่ของสหรัฐ มากกว่าตอนที่รัฐบาลบุช จูเนียร์และโอบามาออกกฎหมายเพื่อมาเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐ ในตอนที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ (The Great Recession) อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ซับไพร์มในช่วงปี 2008-2009 คือ The Emergency Economic Stabilization Act of 2008 (ประมาณ 700,000 ล้านดอลลาร์ ต่อมาถูกปรับลดด้วยกฎหมายอีกฉบับจนเหลือประมาณ 475,000 ล้านดอลลาร์) และ The AmericanRecovery and Reinvestment Act of 2009(ประมาณ 787,000 ล้านดอลลาร์)


ด้วยวงเงินที่มากขนาดนี้ทำให้อย่างไรเสีย....CARESก็ต้องถูกทำเป็นพระราชบัญญัติโดยผ่านกระบวนการทางนิติบัญญัติจากรัฐสภา สหรัฐซึ่งต่างจากพระราชกำหนดกู้เงิน3 ฉบับ จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท ของรัฐบาลประยุทธ์

โดยก่อนที่นักการเมืองของรีพับลิกันและเดโมแครตจะมานั่งยกมือผ่านพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงแบบท่วมท้นจากทั้งสองฝ่าย นักการเมืองจากทั้งสองค่ายรวมทั้งทีมที่ปรึกษาของทรัมป์ต้องมานั่งเจรจากันแบบเอาเป็นเอาตายว่า....Who get What,When, Howand How much...? หลังจากการเจรจา ล็อบบี้กันไปมาอยู่ห้าวันห้าคืน ฝ่ายเดโมแครตก็บรรลุข้อตกลงในประเด็น เช่น

■ เน้นการช่วยเหลือเป็นรายบุคคล รวมถึงธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมและขนาดเล็ก (โดยทั่วไป นิยามของธุรกิจขนาดเล็กคือมีการจ้างงานไม่เกิน 5 คน, ขนาดย่อมไม่เกิน 50 คน, ขนาดกลางระหว่าง 50 ถึง 200 คน)

■ ให้งบช่วยเหลือไปที่โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศเป็นจำนวน 1 แสนล้านดอลลาร์โดย 1 พันล้านดอลลาร์ เป็นงบวิจัยเกี่ยวกับเรื่องไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ (ตอนที่ทรัมป์ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีใหม่ๆ เขาสั่งตัดงบค่าใช้จ่าย 80% ที่เกี่ยวกับการป้องกันระวังดูแลโรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคระบาด หรือ CDC ของสหรัฐ นอกจากนี้ทรัมป์ยังปิดหน่วยงานที่เกี่ยวกับความมั่นคงทางด้านสุขภาพและอนามัยที่สังกัดอยู่ในสภาความมั่นคงแห่งชาติ อีกด้วย)

■ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ เป็นเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางที่ให้ไปยังรัฐบาลระดับมลรัฐและท้องถิ่นที่จะต้องขาดรายได้จากการเก็บภาษีและหมดไปกับค่าใช้จ่ายในการต่อสู้กับโควิด-19

■ มีหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดในการให้เงินช่วยเหลือบริษัทขนาดใหญ่รวมทั้งสามารถกันไม่ให้ธุรกิจในเครือของทรัมป์และรัฐมนตรีคนอื่นๆ ได้รับอานิสงส์ผลประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้ได้บ้างในบางเรื่อง

ส่วน รีพับลิกันซึ่งโดยแนวทางของพรรคแล้วจะไม่สนับสนุนมาตรการแบบ Social Safety Net หรือ การให้ความช่วยเหลือทางด้านสังคมแก่ประชาชนในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในรูปแบบของการแจกเงินแบบให้เปล่า เพราะเกรงว่าจะทำให้คนเหล่านี้จะยิ่งขี้เกียจทำงาน (ซึ่งก็จะทำให้รัฐไม่ได้เงินภาษีจากคนกลุ่มนี้) อยู่ไปแบบวันๆ แบมือขอความช่วยเหลือจากรัฐไปตลอดชีวิต

อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรลุเป้าหมายในการตราพระราชบัญญัติ CARES ออกมาใช้โดยเร็วที่สุด ทั้งสองพรรคต่างก็ต้องถอยออกมาจากอุดมการณ์หลักของพรรคคนละก้าว-สองก้าว ทางเดโมแครตก็ต้องยอมหลับตาข้างหนึ่งที่เงินบางส่วนของ CARES จะต้องถูกเอาไปช่วยในธุรกิจอุตสาหกรรมการบิน เช่น บริษัทโบอิ้ง (Boeing) หรือการลดหย่อนภาษีให้กับบริษัทขนาดใหญ่ ส่วนรีพับลิกันก็ต้องยอมหรี่ตาเพื่อยอมรับกับบทบาทของรัฐ (Big Government) ในการเข้ามาบริหารจัดการเศรษฐกิจแทนที่จะปล่อยให้กลไกตลาด (Market) ได้ทำงานอย่างเสรีไปตามอุดมการณ์ที่พรรคยึดถือ

กล่าวโดยสรุปแล้ว นโยบายเราไม่ทิ้งกัน : ภาคอเมริกัน นักการเมืองของเดโมแครตและรีพับลิกันต่างก็บรรลุเป้าหมายด้านนโยบาย(policy goal) และเป้าหมายทางการเมือง (political goal) ของตัวเองด้วยกัน
ทั้งสองฝ่าย ส่วนคนอเมริกันผู้เสียภาษีก็ได้รับความช่วยเหลือจริงๆ อย่างทั่วถึงทั้งจากรัฐบาลกลาง มลรัฐและท้องถิ่นของตัวเองทั้งสามระดับ เช่นเดียวกับตอนจ่าย
ภาษีก็ต้องจ่ายให้กับทั้งสามระดับนี้เช่นกัน

ดังนั้นหลักเกณฑ์พื้นฐานของ เราไม่ทิ้งกัน : ภาคอเมริกันก็คือรัฐบาลจะช่วยเหลือทุกคนที่เสียภาษีให้กับรัฐบาลอเมริกัน ซึ่งคนคนนั้นไม่จำเป็นต้องถือสัญชาติอเมริกัน (US Citizen) แต่จะเป็นชนชาติใดก็ตามที่เข้าประเทศทำงานและเสียภาษีให้รัฐอย่างถูกกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใครหรือธุรกิจ SME ใดเกิดหลบเลี่ยงหรือไม่ได้จ่ายภาษีปีล่าสุด 2562 ทั้งๆ ก่อนหน้านั้นอาจจะจ่ายมาโดยตลอด ก็จะหมดสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการต่างๆ ดังที่เล่าไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ ก็คือ การแสดงตัวเพื่อขอรับสิทธิหรือความช่วยเหลือต่างๆ จาก นโยบายเราไม่ทิ้งกัน : ภาคอเมริกัน นั้นวางอยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ เพราะส่วนใหญ่จะทำผ่านระบบออนไลน์ ผู้ขอรับสิทธิเพียงแต่ใส่ข้อมูลสถานภาพตัวเองหรือของธุรกิจตนเองเข้าไปตามความเป็นจริง เช่น ตกงานมานานเท่าไรแล้ว หรือ ธุรกิจปิดมานานเท่าไร รายได้ต่อปีเป็นยังไงมีการจ้างงานอีกคน ต้องจ่ายค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟต่อเดือนเท่าไร โดยไม่ต้องใช้หลักฐานอะไรมาก อยู่ที่ความเชื่อใจกันอย่างเดียว แต่นั้นก็เพราะส่วนหนึ่งรัฐบาลสามารถตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ของแต่ละคนได้อยู่แล้ว ว่าตรงตามความเป็นจริงหรือไม่ จากการยื่นแบบฟอร์มการเสียภาษีในแต่ละปี

ดร.ธิติ สุวรรณทัต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
16:09 น. 'ดิว อริสรา'ลุยหาเงินใช้หนี้ เปิดไลฟ์ขายของ 2 วันยอดทะลุ 2 ล้าน
16:01 น. (คลิป) อดีตฝ่ายแค้น'พรรคส้ม'ร้อนรน! เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มตาสว่าง! ตัวปัญหาคือ'ทักษิณ'ไม่ใช่'ทหาร'
15:50 น. (คลิป) เจาะลึก! เล่ห์เหลี่ยม'พรรคส้ม' วาทกรรมลอยๆ ร่างนิรโทษกรรม ม.112
15:32 น. เลย์ออฟครั้งใหญ่! 'กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ'ปลดเจ้าหน้าที่ 1,350 คน
15:29 น. เก๋งเสียหลักตกคลอง มุดท่อระบายน้ำ ดับสลด 2 เจ็บ 2
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
อื้อหือ! เพจดังเปิดภาพ 'สีกากอล์ฟ' ย้อนอดีต 10 ปี ไม่แปลกใจทำไมพระหวั่นไหว
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
ดูทั้งหมด
การดูแลรักษาสุนัขมีค่าเอนไซม์ตับสูงกว่าปกติ
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติต้องมีกระดูกสันหลัง
บุคคลแนวหน้า : 13 กรกฎาคม 2568
ชีวิตประจำวันของผม-ความเก่ง
บทบรรณาธิการ : 13 กรกฎาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ดิว อริสรา'ลุยหาเงินใช้หนี้ เปิดไลฟ์ขายของ 2 วันยอดทะลุ 2 ล้าน

เลย์ออฟครั้งใหญ่! 'กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ'ปลดเจ้าหน้าที่ 1,350 คน

รวบหนุ่มไทยมุดชายแดน! ขายบัญชีม้าให้แก๊งคอลฯ พบมีคดีออนไลน์17คดี

รัฐผ่อนปรนรถบัสสองชั้นวิ่ง‘6 เส้นทางเสี่ยง’ได้180วัน เริ่ม 21 ก.ค.

เกมเศรษฐี’เชลซี’vs‘เปแอสเช’:ใครจะครองแชมป์ทีมโลก2025

เก๋งเสียหลักตกคลอง มุดท่อระบายน้ำ ดับสลด 2 เจ็บ 2

  • Breaking News
  • \'ดิว อริสรา\'ลุยหาเงินใช้หนี้ เปิดไลฟ์ขายของ 2 วันยอดทะลุ 2 ล้าน 'ดิว อริสรา'ลุยหาเงินใช้หนี้ เปิดไลฟ์ขายของ 2 วันยอดทะลุ 2 ล้าน
  • (คลิป) อดีตฝ่ายแค้น\'พรรคส้ม\'ร้อนรน! เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มตาสว่าง! ตัวปัญหาคือ\'ทักษิณ\'ไม่ใช่\'ทหาร\' (คลิป) อดีตฝ่ายแค้น'พรรคส้ม'ร้อนรน! เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มตาสว่าง! ตัวปัญหาคือ'ทักษิณ'ไม่ใช่'ทหาร'
  • (คลิป) เจาะลึก! เล่ห์เหลี่ยม\'พรรคส้ม\' วาทกรรมลอยๆ ร่างนิรโทษกรรม ม.112 (คลิป) เจาะลึก! เล่ห์เหลี่ยม'พรรคส้ม' วาทกรรมลอยๆ ร่างนิรโทษกรรม ม.112
  • เลย์ออฟครั้งใหญ่! \'กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ\'ปลดเจ้าหน้าที่ 1,350 คน เลย์ออฟครั้งใหญ่! 'กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ'ปลดเจ้าหน้าที่ 1,350 คน
  • เก๋งเสียหลักตกคลอง มุดท่อระบายน้ำ ดับสลด 2 เจ็บ 2 เก๋งเสียหลักตกคลอง มุดท่อระบายน้ำ ดับสลด 2 เจ็บ 2
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

กฎหมายในฐานะเครื่องมือจริยธรรม

กฎหมายในฐานะเครื่องมือจริยธรรม

11 ก.ค. 2568

วันชาติอเมริกาในบางแง่มุม

วันชาติอเมริกาในบางแง่มุม

4 ก.ค. 2568

กฎหมายงบประมาณรายจ่ายอาจตกเป็นโมฆะ  กรณีศึกษาการแปรญัตติงบประมาณปี ๒๕๖๕

กฎหมายงบประมาณรายจ่ายอาจตกเป็นโมฆะ กรณีศึกษาการแปรญัตติงบประมาณปี ๒๕๖๕

27 มิ.ย. 2568

ความไม่ชัดเจนในมาตรา ๑๔๔ ของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐  และกรณีศึกษาการกระทำฝ่าฝืนในมาตรานี้

ความไม่ชัดเจนในมาตรา ๑๔๔ ของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ และกรณีศึกษาการกระทำฝ่าฝืนในมาตรานี้

20 มิ.ย. 2568

รัฐบาลกลางกับการอุดมศึกษาสหรัฐ

รัฐบาลกลางกับการอุดมศึกษาสหรัฐ

13 มิ.ย. 2568

สแตนลีย์ ฟิชเชอร์ กับเมืองไทย

สแตนลีย์ ฟิชเชอร์ กับเมืองไทย

6 มิ.ย. 2568

นักกฎหมายไม่มีคุณธรรม...เลวยิ่งกว่ามหาโจร

นักกฎหมายไม่มีคุณธรรม...เลวยิ่งกว่ามหาโจร

30 พ.ค. 2568

การยกเลิกเหตุปัจจัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๓  ที่ให้พระภิกษุมีทรัพย์สินได้เพื่อให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยที่ได้สวดปาติโมกข์

การยกเลิกเหตุปัจจัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๓ ที่ให้พระภิกษุมีทรัพย์สินได้เพื่อให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยที่ได้สวดปาติโมกข์

23 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved