นับตั้งแต่ปี ๒๕๐๘ ที่สิงคโปร์ได้แยกตัวออกจากสหพันธรัฐมลายู กลายมาเป็นรัฐอิสระ นายลี กวน ยิว ผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์ (Founding Father of Singapore) และนายกรัฐมนตรีคนแรก (๒๕๐๘-๒๕๓๓)มีขุนพลคู่ใจสองคนที่เป็นทั้งมือซ้ายและมือขวาที่ร่วมกันสร้างชาติสิงคโปร์ขึ้นมาด้วยกัน คนแรกคือ ดร.โกห์ เคง สวี(Goh Keng Swee) ส่วนอีกคนหนึ่งคือ ดร.โทนี ตัน(Tony Tan)
โกห์ เคง สวี ผ่านตำแหน่งสำคัญๆ ในรัฐบาลนายลีมาเกือบทุกตำแหน่ง ดร.โกห์ ถือเป็นนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในยุคสมัยของลี กวน ยิว เป็นทั้งรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีคลังคนแรกของสิงคโปร์ โดยถูกขนานนามว่าเป็น สถาปนิกผู้รังสรรค์รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจของสิงคโปร์ เขาเป็นผู้มีบทบาทในการจัดตั้งและวางรากฐานให้กับกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของสิงคโปร์ นั้นคือ Temasek Holding และบรรษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ (Government ofSingapore Investment Corporation:GIC) ที่ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น GIC Private Limited ในช่วงที่เขาเป็นรองนายกรัฐมนตรีระหว่างปี ๒๕๑๖-๒๕๒๗
ส่วนอีกหนึ่งขุนพลข้างกายคือ โทนี ตัน ผู้เป็นทายาทความคิดของ ดร.โกห์ และเป็นบุคคลที่ ลี กวน ยิว เคยหมายตาที่จะให้เป็นทายาททางการเมืองของเขาต่อไปแต่ตอนนั้น ดร.ตัน เลือกที่จะไปทำงานในภาคเอกชน โดยไปรับตำแหน่งประธานและผู้อำนวยการใหญ่ Oversea-Chinese Banking Corporation ระหว่างปี ๒๕๓๕-๒๕๓๘ก่อนที่จะกลับเข้ามารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลโก๊ะ จ๊ก ตง แล้วไปเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GIC (๒๕๔๘-๒๕๕๔)ปัจจุบัน โทนี ตัน ยังคงมีบทบาทสูงในทางการเมืองของสิงคโปร์จนถึงทุกวันนี้ ดร.ตัน ก็เช่นเดียวกับ
ดร.โกห์ ที่ผ่านตำแหน่งสำคัญๆ ในรัฐบาลมาเกือบทุกตำแหน่งโดยตำแหน่งสุดท้ายในทางการเมืองของ โทนี ตัน คือ ตำแหน่งประธานาธิบดี สาธารณรัฐสิงคโปร์หรือประมุขของประเทศสิงคโปร์ (Head of State หรือ Chief of State) ระหว่างปี ๒๕๕๔-๒๕๖๐
ทั้ง โกห์ เคง สวี และ โทนี ตัน ล้วนเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม รองนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการบริหารบรรษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ (GIC) ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของสิงคโปร์ การดำรงตำแหน่งดังกล่าวของทั้งคู่แสดงให้เห็นว่านายลีต้องการคนที่ไว้ใจได้และเป็นบุคคลระดับหัวกะทิมาดูแลกระทรวงหรือหน่วยงานดังกล่าว โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการใช้คนแบบ โกห์ เคง สวี และโทนี ตัน เข้ามาทำหน้าที่ในการสร้างระบบการศึกษาของสิงคโปร์ เนื่องด้วยนายลีเป็นผู้ให้ความสำคัญพิเศษกับเรื่องของการพัฒนาคน อันอยู่ในชุดความคิดของเขาที่อิงอยู่กับคำสำคัญสองคำคือ Progressivism(ความเจริญก้าวหน้า) และ Elitism (การปกครองโดยชนชั้นนำ)
ในเรื่องความเจริญก้าวหน้า (Progressivism) ลี กวน ยิว เชื่อว่าอนาคตของสิงคโปร์นั้นขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าของประเทศที่จะต้องดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ดังที่นายลีเคยประกาศก้องไว้ ภายหลังที่แยกตัวออกมาจากมาเลเซียในปี ๑๙๖๕ (พ.ศ. ๒๕๐๘) ได้ไม่นานว่า...เมื่อร้อยกว่าปีก่อนพื้นที่แห่งนี้มีเพียงแค่บึงโคลนเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่มีความทันสมัยเมืองหนึ่ง และในอีกสิบกว่าปีข้างหน้า... มั่นใจได้เลยว่า.. เมืองนี้จะต้องเป็นมหานครที่สำคัญของโลก...
ปัจจุบันสิงคโปร์ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เป็นมหานครที่เป็นศูนย์กลางสำคัญทางเศรษฐกิจ การเงิน การค้า การลงทุน โลจิสติกส์ เทคโนโลยี การศึกษาของโลก.......ลี กวน ยิวประกาศวิสัยทัศน์ดังกล่าวข้างต้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่การเมืองไทยอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการในยุคของจอมพลคนสุดท้าย......
ส่วนเรื่อง Elitism หรือ การปกครองโดยชนชั้นนำของนายลีนั้นไม่ได้หมายความว่าผู้ปกครองต้องเป็นคนที่มาจากชนชั้นสูงหรือมีต้นทุนทางชาติตระกูลที่ดี แต่หมายถึงการปกครองโดยชนชั้นหัวกะทิที่ได้รับการยอมรับจากสังคมในวงกว้างเรื่องของความเป็นมืออาชีพมีลักษณะพิเศษในตัวเองซึ่งไม่จำเป็นต้องมีเทือกเถาเหล่ากอมาจากชนชั้นนำ
ดร.โกห์ และ ดร.ตัน คือตัวอย่างหัวกะทิในความหมายของลี กวน ยิว.....โดยครั้งหนึ่ง..นายลีเคยมึความคิดว่ารัฐมนตรีทุกคนของเขาควรจะต้องจบการศึกษาในระดับปริญญาเอก แต่สุดท้ายก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป
ดังนั้น พอปี ๒๕๒๓ ขณะที่ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ในช่วงยุคน้ำเป็นของปลา ฟ้าเป็นของนก นายกฯเป็นของเปรม ที่เข้ามาบริหารประเทศต่อจากรัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ซึ่งต้องลาออกไปเพราะไม่สามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ โดยเฉพาะความล้มเหลวในการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจอันมีผลสืบเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก.....ในตอนนั้น สิงคโปร์พึ่งมีอายุได้แค่ประมาณ 15 ขวบ และเศรษฐกิจของประเทศกำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ภายหลังจากประสบความสำเร็จในการวางรากฐานและสร้างระบบเศรษฐกิจให้กับประเทศแล้ว ลี กวน ยิว
ก็ส่งสองขุนพลคู่ใจไปลุยงานด้านการศึกษาต่อ เพื่อทำหน้าที่ในการวางรากฐานและสร้างระบบการศึกษาสิงคโปร์ให้มีความเป็นเลิศโดยระหว่างปี ๒๕๒๓-๒๕๓๔ ทั้ง ดร.โกห์ และ ดร.ตัน จะผลัดกันมาเป็นรัฐมนตรีศึกษาในช่วง
สิบปีสุดท้ายก่อนที่ ลี กวน ยิว จะส่งไม้ต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปให้นายโก๊ะ จ๊ก ตง ผู้นำรุ่นที่สองของสิงคโปร์ต่อไป
.....ครับ ผมนึกถึงโกห์ เคง สวี กับ โทนี ตัน อดีตรัฐมนตรีศึกษาของนายลี กวน ยิว ขึ้นมาเมื่อได้อ่านข่าว....
ยายพาหลานหาซื้อโทรศัพท์ไม่เกิน 2,000 บาท ใช้เรียนออนไลน์.....(ผู้จัดการ : 17 พ.ค. 2563)
เด็กน้อยแคะกระปุกซื้อมือถือ บอกจะเอาไปเรียนออนไลน์กับเพื่อน.....(มติชน : 17 พ.ค.2563)
ผู้ปกครองสุดอัดอั้น เรียนออนไลน์ ลำบาก เงินก็มีไม่พอที่จะซื้อคอมพิวเตอร์ มือถือหรืออินเตอร์เนต....
(คม ชัด ลึก : 17 พ.ค. 2563)
......หนึ่งวันก่อนที่กระทรวงศึกษาฯจะเริ่มทดลองการเปิดเรียนทางออนไลน์เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ภายใต้การดูแลและรับผิดชอบโดย รัฐมนตรีศึกษาฯของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ดร.ธิติ สุวรรณทัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี