วันอังคาร ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เวทีอิสระ
เวทีอิสระ

เวทีอิสระ

วันพฤหัสบดี ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.
ความเป็นผู้นำ ดูกันในยามวิกฤติ

ดูทั้งหมด

  •  

หากเปรียบสถานการณ์โรคจากไวรัสโควิด-19 เสมือนกลุ่มคนติดอยู่ในถ้ำมืดใหญ่ที่เต็มไปด้วยภยันตราย ความท้าทายต่อผู้นำกลุ่มก็คือ จะหาทางนำพาผู้ติดตามออกจากถ้ำนี้โดยปลอดภัยอย่างไร ซึ่งจำนวนผู้รอดชีวิต รวมทั้งระยะเวลาที่ใช้ไป จะเป็นตัวบ่งบอกความสามารถของผู้นำนั้นๆ ว่ามีองค์ความรู้ มีความเข้าใจต่อประเด็นปัญหามากน้อยแค่ไหน มีความสามารถในการมองในภาพรวมหรือไม่ สามารถวิเคราะห์ปัญหาสำคัญๆ ว่ามันอยู่ตรงไหน จนสามารถแก้ไขได้ตรงจุด
อย่างรวดเร็ว

โดยทั่วไปเมื่อติดอยู่ในถ้ำมืด สิ่งแรกที่ควรทำก็คือการสร้างแสงสว่าง ไม่ว่าจะเป็นการจุดคบเพลิง ตะเกียง หรือไฟฉาย ก็แล้วแต่อุปกรณ์ที่มีติดตัวกันมา
เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ติดตามว่าพอมองเห็นสภาพแวดล้อม แล้วค่อยทำการสังเกตทิศทางลม หรือเทียบกับลักษณะเส้นทางที่หลงเข้ามา จะได้วางแผนหาทางออกให้กับกลุ่มของตน เช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขั้นต้น


หลายผู้นำรัฐบาลก็ได้ทุ่มเทให้กับการวิจัย ค้นหา รวบรวมข้อมูลสถิติตัวเลขเพื่อให้ได้มาซึ่งความเข้าอกเข้าใจ ที่มาที่ไป ความสามารถในการแพร่กระจาย เกี่ยวกับตัวโรคร้าย ซึ่งเมื่อพอมีข้อมูลบ้างแล้ว ก็เริ่มจัดตั้งทำแผน หรือแนวรบที่จะช่วยตีกรอบบรรเทา และขจัดเชื้อโรค อย่างมีลำดับขั้นตอน นอกจากนั้นก็มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันกับประเทศอื่นๆ

แต่บางประเทศก็โชคร้ายหน่อย ที่ผู้นำประเทศไม่กล้าตัดสินใจ มัวแต่คิดประหยัดเหมือนกลัวว่าอุปกรณ์ส่องสว่างจะหมด ทำแค่จุดไม้ขีดส่องทางเป็นระยะๆ ในระหว่างคลำทางไปเรื่อยๆ เสมือนการหาวิธีการเยียวยาไปแบบทีละอย่าง เรียกว่าเสี่ยงทำไปก่อน มีปัญหาอะไรค่อยไปว่ากัน

แย่ไปกว่านั้น ผู้นำบางคนก็ไม่มีปัญญาจะนำพาไปไหน ไม่รู้วิธีจะจุดไฟ เอาแต่สั่งให้นั่งรอความช่วยเหลือไปวันๆในความมืด ผู้ติดตามถามอะไรก็ตอบส่งเดชไป พร่ำแต่สั่งการไปเรื่อยเปื่อยไม่มีสาระ เสมือนเป็นการทำงานแบบวิธีปฏิกิริยา (Reaction) คือนั่งรอให้เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน แล้วค่อยตอบสนองไปตามสถานการณ์ ซึ่งการสั่งงานแบบขอไปที แบบนี้ หากไม่มีใครฝ่าเข้ามาช่วย ก็ดูท่าจะรอดยาก

แต่ที่แย่ที่สุดที่เห็นกันก็คือ ผู้นำที่นอกจากจะไม่ทำอะไรแล้ว ยังหันมาหาเรื่องทะเลาะกับผู้ติดตาม หาเรื่องคนนั้นคนนี้ไปทั่ว นัยว่าเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาที่ติดถ้ำ ให้หันไปสนใจการทะเลาะแทน สับกับการตีหน้าเศร้าเรียกร้องความเห็นใจ เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจโดยปริยาย

โดยภาพรวมปัญหาไวรัสโควิด-19 ของทั้งโลก ก็ยังพอจัดได้ว่าเราโชคดี ที่มีผู้นำบางคนเลือกจุดไฟสร้างแสงสว่าง สนับสนุนการวิจัยไวรัส จนสามารถสร้างแผนการ สร้างขั้นตอนการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประเทศของตนพ้นจากปากเหวมรณะไปได้แล้ว หรือไปได้มาก ซึ่งประเทศอื่นๆ สามารถนำความรู้เหล่านี้ไปใช้ต่อสู้กับไวรัสได้ ซึ่งสถานการณ์ไวรัสในวันนี้ของบางประเทศ ก็ค่อยๆ ดีขึ้นทีละเล็กละน้อย

แต่หลังจากใช้มาตรการเข้มงวด จนอัตราผู้ติดเชื้อในประเทศต่างๆ เริ่มลดลงบ้างแล้ว ก็ได้เกิดปัญหาใหญ่สำหรับผู้นำประเทศนั้นๆ ตามมา นั่นก็คือการจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังกันไม่ค่อยถูก (Prioritization) ระหว่างจะเร่งมุ่งขจัดโรคร้ายโควิด-19 ให้แล้วเสร็จ หรือจะกอบกู้การถดถอยของเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศก่อนดี

ซึ่งในวันนี้ ก็เริ่มมีผู้นำหลายๆ ประเทศออกมาพูดคุยเรื่องมาตรการผ่อนปรนกันแล้ว ทั้งๆ ที่ยังควบคุมโรคในประเทศไม่ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ก็อยากใช้โอกาสนี้ในการยกสุภาษิต “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย” โดยลองคิดถึงก่อนหน้านี้ ที่ผู้นำบางประเทศมัวแต่พะวักพะวงกับเรื่องเศรษฐกิจ ไม่กล้าสั่งปิดเมือง ปิดประเทศ จนสุดท้ายผู้คนกำลังล้มตายไปมากมายต่อหน้าต่อตา จึงค่อยจะมาใช้ยาแรงปิดประเทศภายหลัง ส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศตนย่อยยับกว่าประเทศที่เขากล้าทำการปิดประเทศไปแต่ต้น

แน่นอนว่าการใช้มาตรการเข้มงวด อาจจะส่งผลต่อเรื่องอาหารการกิน แต่อย่าลืมว่าการทำการเกษตรยังพอเดินหน้าต่อไปได้ อาหารบนโลกนั้นยังมีเหลือเฟือ ฉะนั้นผู้คนในวันนี้ จะยังไม่ตายเพราะขาดอาหาร แต่จะตายกันหมดโลกแน่ๆ หากผู้นำประเทศต่างๆ ไม่มุ่งมั่นต่อสู้กับโรคร้ายโควิด-19 ให้หมดสิ้นไปอย่างเด็ดขาด

ในวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ ผู้นำประเทศไทย ก็ถือว่าดวงดี ดวงแข็ง ที่เรามีฝ่ายแพทย์ พยาบาล และพนักงานสาธารณสุข ที่มีความตั้งใจ มีความเสียสละ และมีความสามารถสูง สามารถดำเนินการต่อสู้กับวิกฤติร่วมกับประชาชนไทย จนในระยะต้น ผู้นำแทบจะไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย ซึ่งก็ควรยกย่องบุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้ว่าเป็นผู้กู้ชาติตัวจริง

บัดนี้ วิกฤติได้เริ่มเข้าระยะกลาง ความเหนื่อยล้าและขาดแคลนก็ได้เกิดขึ้นในระบบสาธารณสุขไทย ผู้นำดวงดีก็น่าจะได้กระโดดลงมือเร่งเสริมความพร้อมและปิดช่องโหว่ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ สำหรับจัดหาอุปกรณ์ใช้งานทางการแพทย์ให้เพียงพอ รวมไปถึงเงินค่าเสี่ยงภัยพิเศษ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่พวกเขา ไม่ใช่ต้องให้พวกเขาต้องไปประกาศขอรับบริจาคจากสังคมแบบตามมีตามเกิด ที่แปลกคือ ฝ่ายรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย เตรียมเงินเตรียมทองไว้มากมาย เพื่อช่วยผู้คน และวงการธุรกิจ แต่ทำไมไม่จัดงบสักหมื่นล้านบาท เพื่อสร้างความพร้อมให้กับวงการแพทย์อย่างเต็มที่ ก็เท่ากับว่าเรายังวงเวียนอยู่ในถ้ำ

กษิต ภิรมย์

kasitfb@gmail.com

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:48 น. ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ
22:21 น. 'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ
22:18 น. 'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน
22:08 น. (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ
22:05 น. 'สุทิน' จวก 'โฆษกเพื่อไทย' ย้ำรัฐบาล'ชวน หลีกภัย'ไม่เคยปรึกษา'ทักษิณ'
ดูทั้งหมด
อื้อหือ! เพจดังเปิดภาพ 'สีกากอล์ฟ' ย้อนอดีต 10 ปี ไม่แปลกใจทำไมพระหวั่นไหว
วินาที'ในหลวง'ส่งสัญญาณพระหัตถ์ถึง'พระราชินี' ทรงรีบเข้าประคองพระองค์อย่างว่องไว
'สีกากอล์ฟ'ฟาดเรียบ ทั้งเจ้าอาวาส ทั้งคนขับรถ สารภาพถูกชวนมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง
‘สม รังสี’แฉเหยื่อกว่า 120,000 คนในกัมพูชา ถูกขังใน 53 ตึก โดนบังคับใช้เป็นทาสมาเฟียจีน
สลดวันพระ! ยิงดับ 2 ศพ คาวัดดัง ย่านเพชรเกษม
ดูทั้งหมด
‘ฮุน เซน’เล่นใหญ่‘ทักษิณขายชาติ’
ซูเปอร์ฮีโร่
สองพ่อลูก
ศึกเขากระโดง ใครจะโดน 157 ? ปรับ ครม. เพื่อชำระแค้นการเมือง
คนไทยส่วนใหญ่เสียอะไร/ได้อะไรจากเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ

'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน

(คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ

(คลิป) 'ฮุนเซน' พร้อมสวนกลับ ขอเวลา 3 ชม. ซัด 'ทักษิณ'

'มหาเธร์'อดีตนายกฯมาเลเซียออกจากรพ.แล้ว โพสต์คลิปเดินปร๋อขึ้นรถยนต์ส่วนตัว

คู่รักสูงวัยถูกหลอกใน‘มาเลเซีย’ เดินทางไกลไปขึ้นกระเช้าที่ไม่มีอยู่จริง-พบแค่คลิปโปรโมทด้วย‘AI’

  • Breaking News
  • ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ
  • \'ปราชญ์ สามสี\' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ\'ศิโรราบ\'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ 'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ
  • \'กินเนสส์ฯ\'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น\'ชีสที่แพงที่สุดในโลก\'ด้วยราคา1.35ล้าน 'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน
  • (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก\'ทรัมป์\' อย่าเสีย \'ฐานทัพเรือพังงา\' เป็นพอ (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ
  • \'สุทิน\' จวก \'โฆษกเพื่อไทย\' ย้ำรัฐบาล\'ชวน หลีกภัย\'ไม่เคยปรึกษา\'ทักษิณ\' 'สุทิน' จวก 'โฆษกเพื่อไทย' ย้ำรัฐบาล'ชวน หลีกภัย'ไม่เคยปรึกษา'ทักษิณ'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ประชาธิปไตยมักถูกท้าทายอยู่เสมอ

ประชาธิปไตยมักถูกท้าทายอยู่เสมอ

10 ก.ค. 2568

ทิศทางของไทยคือความเป็นกลาง

ทิศทางของไทยคือความเป็นกลาง

3 ก.ค. 2568

ไทยต้องไม่สะทกสะท้านกับฮุนเซน

ไทยต้องไม่สะทกสะท้านกับฮุนเซน

26 มิ.ย. 2568

เหตุการณ์สำคัญของเวียดนามที่ชาวอาเซียน และชาวโลกมองข้ามไปไม่ได้

เหตุการณ์สำคัญของเวียดนามที่ชาวอาเซียน และชาวโลกมองข้ามไปไม่ได้

19 มิ.ย. 2568

Open Government :  ระบบการบริหารราชการแบบเปิด

Open Government : ระบบการบริหารราชการแบบเปิด

12 มิ.ย. 2568

พื้นฐานความคิดของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา

พื้นฐานความคิดของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา

4 มิ.ย. 2568

หลักความเป็นตัวของตัวเองในเวทีระหว่างประเทศ

หลักความเป็นตัวของตัวเองในเวทีระหว่างประเทศ

29 พ.ค. 2568

สองผู้ยิ่งใหญ่อเมริกัน  กับสันติภาพโลก

สองผู้ยิ่งใหญ่อเมริกัน กับสันติภาพโลก

22 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved