ถ้าจะมีใครสักคนถามว่า สังคมไทยได้อะไรจากกิจกรรมการชุมนุมทางการเมืองอย่างผิดกฎหมายที่ท้องสนามหลวง
ตลอดวันเสาร์ที่ 19 กันยายน จนรุ่งสางวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน เชื่อว่าคำตอบคงคล้ายๆ กันว่า ไม่มีประโยชน์อะไรกับสังคมไทยและประเทศไทยนอกจากความสะใจของกลุ่มแกนนำการชุมนุม กลุ่มอีแอบกลุ่มคนชังชาติที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุม กลุ่มคนอาชีพนักการเมือง
กลุ่มคนเหล่านี้ยังไม่รวมถึงกลุ่มติ่งต่างชาติที่โพสต์ ยุยงปลุกปั่นอยู่ภายนอกราชอาณาจักรเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองและแก้แค้นที่เคยสูญเสียอำนาจและผลประโยชน์ของกลุ่มตนเองและพวกพ้อง
19 กันยายน สัมภเวสีปีศาจประชาธิปไตยโหยหวนร้องหาส่วนบุญที่ถูกขยี้ลงพื้นเมื่อ 14 ปีที่แล้ว โผล่หัวจากรูโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คเพจส่วนตัวสำรอกความรู้สึกครบรอบ 14 ปีของรัฐประหาร รัฐบาลไทยรักไทย โดยฝากคำถามไว้ว่า 14 ปีมานี้ ชีวิตคนไทยโดยรวมๆ เป็นไงบ้าง ประเทศไทยในสายตาโลกเป็นไงบ้าง
หมอดูลวงโลกที่เคยพยากรณ์อนาคตคนไทยไว้ว่า ถ้าผมไม่มีความสุขก็อย่าหวังเลยว่าประเทศนี้จะมีความสุข แม่นยำมากเพราะเบื้องหลังความวุ่นวายในชาตินี้ประเทศนี้ก็มีสัมภเวสีปีศาจตนนี้คอยยุยงอยู่เบื้องหลังมาตลอด “เด็กๆ ที่อายุระหว่าง 20 ถึง 30 ในปัจจุบัน 14 ปีที่แล้วเขาได้ยินได้เห็นพ่อแม่เขาคุยกันว่าเขากำลังมีงาน/มีธุรกิจ มีรถ มีบ้าน แต่วันนี้เขาได้ยินว่าเขากำลังตกงาน/ธุรกิจอยู่ไม่ได้ กำลังเสียรถเสียบ้าน และตัวเขายังมองไม่เห็นอนาคตตัวเองถึงจะมีการศึกษาที่ดี เพราะวิธีคิดของเรากำลังถูกเอาเปรียบโดยทุนนิยมโลก… ถึงแม้ปัจจุบันเขาจะไม่ได้ถือ passport ไทย แต่มันยังกล้าบอกว่ามันตระหนักตลอดเวลาว่า มันเป็นคนไทยรักคนไทย รักผืนแผ่นดินไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลง
แต่ก็ไม่มีแม้สักวินาทีที่จะคิดกลับมาต่อสู้คดีอย่างลูกผู้ชายที่ผ่านการศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร ยังคงทำตัวลับๆ ล่อๆ แทะเล็มความสงบสุขของสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่องไม่เว้นแม้แต่ม็อบประชาธิปไตยผีบอกที่สนามหลวงมวลชนคนเสื้อแดงที่ยังงมงายกับวาทกรรมเดิมๆของสัมภเวสีที่ช่วงเวลาหนึ่งมีอาชีพนักการเมืองกอบโกยผลประโชน์กระทั่งสมาชิกในพรรคระดับแกนอย่าง “สุภรณ์ อัตถาวงศ์” ต้องออกมาโพสต์เฟซบุ๊คตอบคำถามที่สัมภเวสีถามมาข้อเดียวได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งมาว่า 14 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยสังคมไทยและประชาชนคนไทยดีใจที่ได้หลุดพ้นจากนักการเมืองที่ขวนขวายหาอำนาจเพื่อทำธุรกิจการเมือง เพื่อผลประโยชน์ของครอบครัววงศ์ตระกูลพวกพ้องและตนเอง
ไม่ได้เกินเลยความเป็นจริงเลยในเรื่องการสนับสนุนทั้งกำลังพลและกำลังทรัพย์ที่มีการระดมพลมาหลัง “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19” มาร่วมกันเผื่อมีอะไรจะเข้ามาบ้างดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆไม่มีรายได้
คนกลุ่มนี้ไม่สนใจเรื่องอื่นๆที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยไม่สนใจว่าการชุมนุมครั้งนี้จะมีการติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ชุมนุมหรือไม่ โดยเฉพาะคนอาชีพนักการเมืองที่มายั้วเยี้ยเพ่นพ่านในม็อบ
ในขณะที่ประชาคมอาเซียนรอบบ้านเรากำลังประสบปัญหานี้ ยิ่งในช่วงที่มีดีเปรสชั่นซึ่งทำให้การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” อาจเกิดขึ้นโดยง่ายและรวดเร็วนี่คือความห่วงใยของ “ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คนเผด็จการคือกบฏ” ในความรู้สึกของแกนนำม็อบประชาธิปไตยผีบอกที่ไม่คิดขวางลูกหลานจะแสดงสิทธิเสรีภาพเรียกร้องประชาธิปไตยแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ห่วงว่าถ้า โควิด-19 กลับมารอบสองสังคมไทยและเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไรมากกว่า
ยิ่งแกนนำประกาศเจตนารมณ์ล่วงหน้า 23 กันยายนจัดชุมนุมรอบใหม่หน้ารัฐสภากดดันการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 14 ตุลาคม หยุดงานหยุดเรียน
หยุดทุกอย่างให้ประเทศเป็นอัมพาต…เพื่อ!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี