วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เมื่อวานนี้ ครม.เห็นชอบ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการคนละครึ่ง
1. มาตรการชุดนี้ เป็นการเพิ่มกำลังซื้อชั่วคราว
เหมือนเป็นยาโด๊ปชั่วครู่ หรือเป็นเหมือนการให้กินยาชูกำลัง หรือให้น้ำเกลือผู้ป่วย
แน่นอนว่า กำลังซื้อของประชาชนที่ยั่งยืน จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีรายได้จากการทำงาน การค้าขาย การผลิตสินค้าและบริการ แต่ในระยะสั้นขณะที่เศรษฐกิจยังติดโควิด-19 จะเกิดประเทศเต็มรูปแบบ รับนักท่องเที่ยวเต็มที่ก็ทำไม่ได้ การส่งออกยังติดขัดกับตลาดโลกที่ป่วยหนักจากโควิด การต่อสายน้ำเกลือ หรือยาโด๊ป ก็คงช่วยได้ในระยะสั้น
2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะเติมเงินให้กับผู้ถือบัตรฯ 13.9 ล้านคน ส่วนโครงการคนละครึ่ง จะเติมกำลังซื้อให้ประชาชน 10 ล้านคน
เงินที่ใช้รวมประมาณ 51,000 ล้านบาท มาจากเงินกู้ตาม พ.ร.ก.ฯ
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม สรุปว่า
2.1 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ(ผู้มีบัตรฯ) ประมาณ 14 ล้านคน
โครงการฯ จะเป็นการช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น จำนวน500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม 2563
.jpg)
เป็นวงเงินรวม 21,000 ล้านบาท
เหตุผล คือ ในช่วงที่มีสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งทำให้กลุ่มผู้มีบัตรฯ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ มีรายได้ลดลงและไม่สามารถหารายได้จากแหล่งอื่นมาทดแทนได้ จะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้มีบัตรฯ สามารถดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานในช่วงที่มีสถานการณ์ COVID-19 ได้ และส่งผลต่อเนื่องในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีบัตรฯ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และมีความเปราะบางทางด้านทรัพย์สินและหนี้สิน อีกทั้ง โครงการดังกล่าวยังก่อให้เกิดการใช้จ่ายในท้องถิ่น กระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญ
2.2 โครงการคนละครึ่ง จำนวน 10 ล้านคน
ภาครัฐจะร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ผ่านฝ่ายของผู้ซื้อร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาท ต่อคนตลอดระยะเวลาโครงการประมาณ 3 เดือน(ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2563) เป็นวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท
จะเริ่มให้ประชาชนผู้ที่มีสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีบัตรประจำตัวประชาชน ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ คนละครึ่งตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00-23.00 น. จำกัดจำนวนไม่เกิน 10 ล้านคน โดยผู้ได้รับสิทธิต้องยืนยันตัวตนผ่าน G-Walletแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” อีกขั้นตอนหนึ่งด้วย จึงจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการเพื่อรับสิทธิได้
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ คนละครึ่ง หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขาธนาคารกรุงไทย โดยธนาคารกรุงไทยจะช่วยติดตั้งแอพพลิเคชั่น “ถุงเงิน” เพื่อใช้ในการรับชำระเงินจากการขายสินค้า
การร่วมจ่ายคนละครึ่งนี้ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและจะช่วยเติมกำลังซื้อของประชาชนเพื่อให้มีการใช้จ่ายหมุนเวียนไปถึงผู้ประกอบการรายย่อยได้อย่างต่อเนื่องเป็นเงิน 60,000 ล้านบาท
โครงการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น
.jpg)
กระทรวงการคลังคาดว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโครงการคนละครึ่ง จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย และช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ จากการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 81,000 ล้านบาท ครอบคลุมประชาชน 24 ล้านคน ซึ่งจะช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2563 และส่งแรงขับเคลื่อนต่อเนื่องไปยังปี 2564
3. มาตรการชุดนี้ คงเป็นได้เพียงยาโด๊ประยะสั้น ที่เข้ามาเติมกำลังซื้อ (ตามวัตถุประสงค์โครงการ)
รัฐบาลยังคงต้องเร่งมาตรการฟื้นเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น การจ้างงาน (ตามที่เพิ่งจัดงานใหญ่ไป แต่จะต้องติดตามการจ้างงานให้เกิดขึ้นจริงๆ) การลงทุนโครงการต่างๆ การช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโควิด อาทิ สายการบินท่องเที่ยว ฯลฯ มิให้เลิกจ้างคนเพิ่ม การเร่งโครงการฟื้นเศรฐกิจเงินกู้ 4 แสนล้านบาทที่เหลืออยู่ เป็นต้น
รวมถึงการหาแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่เหมาะสมความเสี่ยงอยู่ในระดับที่จัดการได้ ในเมืองที่พึ่งพาการท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก อาทิ ภูเก็ต กระบี่ สมุย ฯลฯ
แล้วจะต้องสื่อสารให้ประชาชนและภาคส่วนต่างๆ เห็นภาพใหญ่ของเศรษฐกิจไทยที่เรากำลังจะเดินต่อไป จึงจะเรียกความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ อันจะเสริมให้การฟื้นเศรษฐกิจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผลต่อไป
สารส้ม

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
สัญญาณแรกคืออัลฟอล! 'ท่านเปา'เปิดโปงหมู่เพื่อนรักดัง ลั่น!'ทุกคนรู้ ดูทรงเคยเจอมาแล้ว'
นายกฯ'อนุทิน'ถึงเชียงใหม่แล้ว ผู้ว่าฯ ส่วนราชการ ร่วมให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง
'อรรถชัย' เชื่อ 'ทักษิณ' โอนหุ้นให้ลูก ไม่ใช่เจตนาหนีภาษี ลั่นคำพิพากษาศาลฎีกาไม่ถูกต้อง
30ชั่วโมงยังคุมเพลิงไม่ได้! ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในเมืองโออิตะของญี่ปุ่น คร่าแล้ว1ชีวิต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี