ระยะหลัง ตั้งแต่มีม็อบชู 3 นิ้ว “ม็อบปลดแอก” มีการปลุกปั่นการเมืองลงไปสู่ระดับมหาวิทยาลัยและมัธยม มีการจาบจ้วงโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง ปรากฏว่า พระมหาสมปอง ได้ใช้เวทีเทศนาธรรมในการเสียดสีการเมือง เย้ยหยัน ดูแคลน ด้อยค่า ทำตลกบูลลี่ หรือแม้กระทั่งหลอกด่าบุพการีของฝ่ายรัฐบาล ถี่ยิบ จนผิดสังเกต
แล้วเนื้อหาเหล่านั้น ก็ถูกโปรโมท ถูกนำเสนอ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้นผิดสังเกต
1. ล่าสุด มีคลิปพูดถึงการชูสามนิ้ว แต่แกล้งทำตลกเนียนๆ แล้วแถมเสียดสีล้อเลียน ทำลายภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของนายกฯ พลเอกประยุทธ์ไปด้วย
2. วิธีการแบบพระมหาสมปอง คือ การเสียดสี เหน็บแหนม ทำเป็นตลกบูลลี่ ในเรื่องที่ควรถกเถียงกันด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง อาทิ เรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ เป็นต้น
เนื้อหาที่นำมาเสียดสี พุ่งเป้าไปที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เป็นหลัก
ไม่เคยแตะด้านลบที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติของรัฐบาลฝ่ายค้านเลย ทั้งๆ ที่ ปัจจุบัน รัฐบาลก็ยังต้องใช้หนี้ความเสียหายจากการโกงจำนำข้าวอยู่เลย คดีโกงบ้านเอื้ออาทรก็เพิ่งจะมีคำพิพากษา พวกหนีคดีโกงก็อีกมากมายหลายคดี ฯลฯ แต่พระมหาสมปองก็ไม่เคยหยิบยกมาสอนสั่งว่านักการเมืองโกงมันชั่วร้ายสารเลวอย่างไร
ช่วงหลัง มุ่งเน้นเรื่อง เรือดำน้ำ แทบทุกเวทีการพูด เพื่อด้อยค่า และเหน็บแนมรัฐบาล
3. ปัญหาใหญ่ คือ พระมหาสมปองใช้เฟคนิวส์มาเสริมประกอบการพูดเช่น พูดถึงหวยออกเลขเรือดำน้ำ ทั้งๆ ที่ ความจริงมันเป็นภาพตัดต่อมันไม่มีเลขที่ว่านั้นจริง, พระมหาสมปองพูดถึงเรือดำน้ำว่าดำน้ำอ่าวไทยไม่ได้ น้ำตื้น ทั้งๆ ที่ เรือดำน้ำของสหรัฐก็มาดำหลายครั้ง แล้วยังไม่พูดว่าประเทศเพื่อนบ้าน รอบบ้านที่มีทะเล (แม้แต่เมียนมา) มีเรือดำน้ำประจำการมากกว่า 1 ลำ เกือบทุกประเทศแล้ว, พระมหาสมปองเหน็บแนมเรื่องทำให้เพื่อนบ้านเกรงใจ ราวกับเป็นเรื่องขำขัน ราวกับตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญการทหาร งานความมั่นคงของชาติ
ที่เลวร้ายที่สุด หลอกด่าผู้เกี่ยวข้องว่า “เรือดำน้ำ ซื้อบุพการี”
ก็คือ ซื้อหาพ่อ!!!!
ไม่น่าเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้ คือ การใช้ลีลาคำพูดจากปากของพระ
4. การนำข้อมูลบางส่วน ตัดตอนมา บิดเบือนมา หรือแม้แต่ข้อมูลเท็จ สิ่งละอันพันละน้อย แล้วทับถมโจมตีด้อยค่า หรือบูลลี่ไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้เสพข้อมูลเกิดความรู้สึกคล้อยตาม ชิงชัง คับแค้น เดือดดาล แล้วก็ไม่สนใจข้อมูลที่เป็นจริงในที่สุด
โดยเฉพาะเมื่อนักเสียดสีคนนั้น มาในคราบพระสงฆ์ ผู้ต้องทรงศีล
คณะสงฆ์ ไม่คิดจะทำอะไรหรือไม่?
ประกาศมหาเถรฯ ที่ควบคุมพระมิให้ยุ่งเกี่ยวการเมือง ไม่สามารถใช้ได้กับพระมหาสมปอง อย่างนั้นหรือ?
5. การนำเสนอเนื้อหาหยาบๆ ผสมปนเปกับเฟคนิวส์แบบนี้ แลกกับการรับเชิญไปพูดตามที่ต่างๆ เพื่อความเด่นดัง รับถวายปัจจัย สังคมบางส่วนจึงมองว่าน่ารังเกียจ ไม่น่านับถือเท่ากับนักแสดงตลกโปกฮาที่เขานำเสนอโดยไม่มีวาระการเมืองแอบแฝงด้วยซ้ำ
ยกตัวอย่างความเห็นในโลกออนไลน์ เช่น
Tik Tik บอกว่า ถอดจีวรเปลี่ยนอาชีพเถอะข้อมูลปลอมมาก ตลกก็เป็นไม่ได้ เพราะตลกเล่นขำและมีสาระมากกว่าท่าน
Bunyarat Naewsung บอกว่า พูดเอามัน เสียดสี แถมเป็นเรื่องเท็จ ชุดฟอร์มที่ใส่ดูไม่เหมาะสมที่จะเอามาสวม
สมหมาย ผู้ชายสามพัน บอกว่า ผมชอบท่านมากนะ ถ้าจะหยอกล้อการเมืองก็หยอกล้อทุกรัฐบาลรวมโครงการต่างๆที่ทำชาติเสียหายด้วย ไม่ใช่ตีกินแค่รัฐบาลนี้ แถมเอาเรื่องบางเรื่องที่ไม่จริงมาล้อ ผมติดตามดูท่านมานานชอบมากแต่ไม่ได้สงสัยอะไรเรื่องการเมืองจนมารู้ก็เมื่อมีคสช.เข้ามา แต่ก็ยังดูติดตามตลอด แต่นานขึ้น สังเกตท่านจะแรงมากเลยกับการล้อการเมืองยุคลุงหลังจบเลือกตั้งมา ...ท่านก็เป็นพระอยู่ในศาสนา ท่านไม่สอนติงกลุ่มชุมนุมบ้าง ก็อยากให้ท่านเป็นพระที่มีคนรักต่อไปเหมือนเดิม ผ้าเหลืองคนที่ใส่ทำให้ใจคนสงบได้ อย่าให้คนเขามองเห็นต่างว่าผ้าเหลืองที่ใส่คือสีดำ เพราะใจคนห่มสีดำ...
หมี คอมมานโด บอกว่า ผมคิดแบบนี้ ถ้าเราไม่ดูคลิป เราฟังเเค่เสียง เราจะคิดไหมว่า คนที่กำลังพูดคือใคร 1.พระ 2. ร่านในโซเชียลที่เที่ยวงับเฟคนิวส์ผมเชื่อว่า ส่วนใหญ่ต้องคิดว่า เป็นร่านในโซเชียล ดังนั้น เมื่อมาถึงขั้นนี้เเล้ว ถ้ายังไม่ยอมหยุดพฤติกรรม เเละสันดานแบบนี้ เเละถ้ายังไม่ยอมสึกก็ต้องจับสึกให้รู้เเล้วรู้รอด อย่าปล่อยให้มาทำตัว... ไม่ว่าจะเป็น พระเถร เณร ชีถ้ามีปากเเล้วอยากจะพูดอะไร ก็พูดไป เเต่สิ่งที่พูด ต้องอยู่ภายใต้ข้อมูลข้อเท็จจริง เพราะการที่เราพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง มันจะทำให้เกิดความสับสนได้ในสังคม เเละยิ่งกับบุคคลที่เป็นคนพูด มีฐานะทางสังคมยิ่งต้องมีความรับผิดชอบในการพูดมากกว่าคนอื่น เเละยิ่งถ้าคนพูดได้ชื่อว่าเป็นคนที่ต้องถือศีล 277 ข้อ ยิ่งต้องระมัดระวัง ทั้งคำพูดคำจาเเละพฤติกรรมในการเเสดงออก เเต่กับสิ่งที่พระที่มีนามว่าสมปอง ได้ออกมาพูดมีอะไรบ้าง ตั้งเเต่กิริยามรรยาท เเละรวมถึงข้อมูลข้อเท็จจริง เเต่ทำตัวประหนึ่งเป็นเกรียนในโซเชียล ออกมางับออกมาเเซะโดยไม่สนใจหาข้อมูล
Teerachai Tuppasarndumrong บอกว่า สัมมาวาจา การพูดจาชอบคือไม่พูดเท็จ ไม่พูด เพ้อเจ้อ ไม่พูดส่อเสียด และไม่พูดคำหยาบ เป็นมรรคองค์ที่ 3 ในมรรคมีองค์ 8ฯลฯ
6. พระมหาชูชาติจิรสุทฺโธ (ธรรมมุทิศ) Phramaha Chuchai Cirasuttho (Dhammutis) เคยเสนองานวิจัยเรื่อง “วจนโวหารเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ไทย Thai Monks’ Rhetoric for Buddhism Propagate”
วิเคราะห์ถึง วจนโวหารเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์
ระบุว่า โวหารเป็นสิ่งสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาขึ้นอยู่กับว่าผู้พูด(ผู้ส่งสาร) จะเลือกใช้วิธีการใด ความสำคัญของวาจาอยู่ที่ว่า(ผู้พูด) ผู้ส่งสาร นั้นใช้ความระมัดระวังในการใช้คําพูดมากน้อยเพียงใดพูดด้วยเจตนาที่เป็นกุศล (เจตนาดี) หรืออกุศล (เจตนาไม่ดี) หากพูดดีการใช้วาจาที่ดีเป็นสัมมาวาจา พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ผู้อื่นและสังคม ย่อมนำประโยชน์สุขมาให้ หากพูดชั่วหรือการใช้วาจาที่ไม่ดีย่อมนําซึ่งความเดือดร้อนมาสู่ตัวเองและสังคม ซึ่งอาจก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ จนกระทบต่อการดำเนินชีวิตต่อสังคมส่วนรวมได้
ท่านเคยวิเคราะห์ถึงพระมหาสมปอง (เมื่อหลายปีก่อน) ในเชิงชื่นชมไว้ด้วยว่า การใช้ภาษาในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในระยะเริ่มแรกกลยุทธ์ในการเผยแผ่ธรรมะของพระมหาสมปองเป็นการสื่อสารแบบปากต่อปาก ในระยะหลังจึงได้นำเอาแนวคิดสมัยใหม่ในรูปแบบของทอล์กโชว์เข้ามาใช้ โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและวัยรุ่นที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับประถมและมัธยม เป็นรูปแบบการสนทนาในหัวข้อที่หลากหลาย มีการแทรกหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และการซักถามผู้เข้าร่วมรายการ ใช้ภาษาที่ทันสมัย ทันสถานการณ์ในปัจจุบัน บางครั้งใช้ภาษาวัยรุ่นแบบอินเทรนด์อ้างชื่อดาราวัยรุ่นเกาหลีที่วัยรุ่นชื่นชอบ บางครั้งใช้ภาษาที่ลึกซึ้งกินใจ หรือที่เรียกว่า คำคม ซึ่งพูดในลักษณะเชิงบวกสร้างสรรค์สังคม และกิจกรรมธรรมะดิลิเวอรี่ ได้จัดแสดงธรรมตามโรงเรียนต่างๆ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากเป็นรูปแบบของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแบบใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่วัดเป็นการแสดงธรรมถึงสถานที่ของกลุ่มเป้าหมาย หรืออีกนัยหนึ่ง “ธรรมะสัญจร”
น่าคิดว่า ปัจจุบัน วิธีการที่พระมหาสมปองนำมาใช้ถี่ขึ้น ว่าด้วยการเสียดสี เหน็บแหนม ทำเป็นตลกบูลลี่ ในเรื่องการเมือง ในเรื่องที่ควรถกเถียงกันด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง แต่ไปเอาเฟคนิวส์มาผสมปนเปเพื่อด้อยค่ารัฐบาล
ยังจะนับเป็น “ธรรมะดิลิเวอรี่” ที่สร้างสรรค์อยู่ไหม?
หรือล้ำเส้นไปไกลแค่ไหนแล้ว?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี