รัฐบาลเสียแต้มไปเป็นอันมากหลังจากนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีคลังแล้วไม่กี่วันหลังจากนั้นก็เกิดการลาออก จนเป็นกระแสข่าวสะเทือนสะท้านวงการเมืองและกระทบต่อความเชื่อมั่นอย่างใหญ่หลวง
วันเวลาผ่านไปไม่น้อยจึงมีการทูลเกล้าฯ เสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ คือนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเป็นมืองานเก๋าจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ดังนั้นจึงมีการจับตามองกันโดยทั่วไปว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่จะมีวี่แววหรือบอกแนวทางให้คนทั้งหลายได้เกิดความมั่นใจได้อย่างไรว่าจะแก้ไขฟื้นฟูเศรษฐกิจ การเงิน การคลังของประเทศที่นับวันกำลังดิ่งลงเหวชนิดไปไม่กลับหลับไม่ตื่นว่าจะกลับฟื้นคืนได้อย่างไร
ความสำเร็จหรือล้มเหลวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงเกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับชะตากรรมของประเทศและทุกภาคส่วนโดยเฉพาะประชาชนด้วย ดังนั้นในยามนี้จึงมีแต่ต้องแสดงการต้อนรับและให้กำลังใจหรือนำเสนอข้อคิดเห็นที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนำไปพิจารณาต่อไป
ก็จะได้ดูกันต่อไปว่าแม้จะไม่ใช่เป็นรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งจะฟังเสียงฟังความคิดความเห็นของคนอื่นบ้างหรือไม่ เพราะวิสัยของวีรชนที่จะแก้ไขปัญหาให้กับชาติบ้านเมืองนั้นแม้เสียงจิ้งจกนกร้องท่านก็สอนให้ตั้งใจสดับตรับฟังว่าเป็นนิมิตหรือลางประการใด
ก็ได้เห็นกันแล้วว่าพวกหูหนวกตาบอดที่ไม่ได้ยินเสียงราษฎร ไม่เห็นความเดือดร้อนของปวงชน แม้ยังเป็นคนอยู่แต่ความรู้สึกนึกคิดก็กำลังห่างไกลออกไปจากความเป็นคนมากขึ้นทุกที จนเป็นที่น่าห่วงใยยิ่งแล้ว
ก่อนอื่นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ต้องสังวรที่ไปที่มาหรือภูมิหลังเอาไว้บ้าง เพราะการมีที่มาจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินั้น ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเป็นหน่วยงานที่บางชาติมีบทบาทครอบงำมาหลายสิบปี โครงการจำนวนมากต้องขอความเห็นชอบจากต่างชาติก่อน แม้การใช้เงินในโครงการนั้นๆ ก็ถูกผูกขาดและถูกกลวิธีบังคับให้ต้องใช้แหล่งเงินจากต่างชาตินั้น
แม้จะมีเล่ห์กลทำทีเป็นดอกเบี้ยต่ำ แต่กลับแฝงไว้ด้วยข้อตกลงที่ก่อภาระให้แก่ผู้กู้สูงมากตั้งแต่ 20-30%ของมูลค่าโครงการ กระทั่งอาจมีข้อตกลงที่นอกเหนือจากการให้กู้ยืมธรรมดาที่ปกปิดมิบเม้มกันเอาไว้ เพราะหลายเรื่องก็ขัดกับรัฐธรรมนูญ ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องขึ้นวันไหน แต่ที่แน่ๆ ก็คือประเทศย่อยยับ ประชาชนมีฐานะกลายเป็นทาสมากขึ้นทุกที
ดังนั้นในวันนี้จึงต้องสลัดออกให้พ้นจากกระแสและอิทธิพลทั้งหลายที่อาจเกี่ยวข้องหรือตกทอดมาแต่ก่อนและพึงตั้งตนเป็นไทแก่ตน ถือเอาประโยชน์แผ่นดินและประชาชนเป็นที่ตั้งก็จะบังเกิดความสวัสดีในการทำหน้าที่อันสำคัญนี้
บุคลากรจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินั้นจัดเป็นยอดคนของแผ่นดินอยู่แล้ว เพราะมีปัญญาทัศน์กว้างไกล มีความรอบรู้เท่าทันต่อสถานการณ์ทั้งปวง เมื่อใดก็ตามที่มีความเป็นอิสระทางความคิดและมีความเป็นไทจากการครอบงำแทรกแซงของต่างชาติก็จะสามารถทำการใหญ่ให้กับบ้านเมืองได้
คนไทยพึงให้โอกาสและต้อนรับการทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ซึ่งอย่างไรเสียก็เชื่อว่าจะไม่ด้อยไปกว่าที่ผ่านๆ มา โดยเฉพาะระบบความคิดที่มีฐานจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินั้นเป็นคนละระบบกับนายธนาคาร ซึ่งชั่วชีวิตทำมาหากินอยู่กับการสร้างกำไรจากดอกเบี้ย ซึ่งเป็นสภาพไม่ต่างกับบาบูปล่อยเงินกู้ตามตรอกซอกซอยและสลัมต่างๆ เท่าใดนัก จะต่างกันก็เพียงขนาดและความซับซ้อนมากสักหน่อยเท่านั้น
อันการบริหารเศรษฐกิจ การคลัง และการเงินของบ้านเมืองนั้นเป็นเรื่องใหญ่ของแผ่นดิน จัดเป็นเสาหลักหนึ่งซึ่งมีธรรมเนียมมาแต่โบราณ แม้ในยุคจตุสดมภ์ คือเวียง วัง คลัง นา ก็ต้องถือว่านอกจากการในราชสำนักและการปกครองเกี่ยวกับความมั่นคงแล้วก็ให้ความสำคัญแก่กระทรวงการคลังหรืองานการคลังเป็นลำดับถัดมา ฐานะความสำคัญนี้ปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป
จากนั้นก็เป็นวิธีการทำงานที่หัวหน้ารัฐบาลเมื่อใช้คนแล้วต้องวางใจ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น เพราะวินัยทหารเมื่อใช้ใครก็จะให้เกียรติและวางใจ แต่ระบบวิธีการทำงานนั้นต่างหากที่ก่อเกิดปัญหาใหญ่หลวง นั่นคือระบบคณะกรรมการ
ประเทศไม่ใช่ศาลเจ้าหรือสมาคมที่จะทำแบบกรรมการบริหารศาลเจ้าหรือกรรมการสมาคมได้ จำเป็นจะต้องมีผู้รับผิดชอบหลักที่กล้าหาญชาญชัย มีสติปัญญาความสามารถ ที่จะกล้ารับทั้งผิดและชอบ ดังนี้แล้วการใหญ่ของบ้านเมืองจึงจะสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัญหาใหญ่ที่เผชิญหน้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็คือรายได้แผ่นดินซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศด้วยที่นับวันต่ำเตี้ยลงเหว จำเป็นต้องรีบกอบกู้โดยไวในกรรมอันสำคัญสี่ประการคือ
ต้องเร่งการส่งออก ต้องเร่งฟื้นฟูภาคบริการและท่องเที่ยว ต้องเร่งระดมการลงทุนจากต่างประเทศ และต้องปรับการลงทุนภาครัฐให้ตรงเป้าเข้าจุด มีประสิทธิภาพ ต้องยกเลิกลัทธิกู้มาแจกหรือลัทธิให้ทานแก่ราษฎรในทันที มิฉะนั้นชาติล่มจมแน่
ที่สำคัญ ก็ต้องให้ความสำคัญแก่การดำรงไว้ซึ่งเงินสำรองของประเทศ การสร้างความสมดุลและการปรับเปลี่ยนในเรื่องการใช้สกุลเงินที่จะต้องสอดคล้องกับสภาพการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
แต่ทั้งหมดนี้จะไม่มีวันสำเร็จได้ถ้าหากไม่ทำให้ประเทศไทยเป็นไทแก่ตัว หรือค้อมหัวยอมให้บางชาติบังคับดุจข้าทาสในเรือนเบี้ย! และนี่เป็นประการสำคัญที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต้องยืนหยัดต่อสู้กับพลังอสูรดังกล่าว ซึ่งต้องอวยชัยให้พรให้ท่านทำการสำเร็จดังความปรารถนา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี