การแก้ปัญหาโคขวิดของประเทศไทยถูกตั้งข้อสังเกตมาตั้งแต่ต้นแล้วว่ามีขบวนการทำมาหากินที่อาศัยชีวิตและความเจ็บป่วยของราษฎรอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต มีการเสกสรรปั้นแต่งข่าวสาร สร้างกระแสแห่งความหวาดกลัวภัยเพื่อเปิดทางให้แก่การโกงบ้านกินเมือง ดังนั้น เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ติดพันกันมาถึงปัจจุบันนี้
เพราะถึงเวลานี้ได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินกันไปเท่าใดก็มืดงำและไม่มีใครรู้จำนวนที่แน่นอน ทั้งรายการที่ใช้จ่ายไปก็ล้วนมีปัญหาข้อสงสัยให้ผู้คนจับตามองกันทั้งสิ้น เพราะปรากฏร่องรอยของการโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวงครึกโครมแทบทุกโครงการ
เริ่มตั้งแต่เครื่องมือในการตรวจหาไวรัส ตามมาด้วยเครื่องพ่นยาฆ่าไวรัส อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์นานาชนิด และกระทั่งยาที่ใช้ ที่ซื้อกันแบบรักษาประชากรโลกได้ค่อนทวีป จนเป็นที่ห่วงใยว่าหลังรัฐบาลนี้ไปแล้วจะมีการรื้อฟื้นการโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวงที่เป็นมหกรรมที่ใหญ่ที่สุดยิ่งกว่าโครงการรับจำนำข้าวก็เป็นไปได้
มีการตั้งข้อสังเกตมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าการระบาดของโคขวิดนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ แต่มีขบวนการโคขวิดระดับโลกเสกสรรปั้นแต่งขึ้น โดยตั้งเป้าหมายเริ่มแรกว่าภายในปี 2563 จะมีผู้ป่วยทั้งโลกถึง 650 ล้านคน จะมีผู้เสียชีวิตถึง 250 ล้านคน แค่นี้ผู้คนก็ตื่นตระหนกตกใจกลัวจนไม่เป็นอันทำงานกันทั้งโลกแล้ว
ประเทศไทยของเราก็มีการรับลูกปั่นกระแสให้คนไทยตื่นตระหนกตกใจกลัวมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ว่าภายในเดือนเมษายน 2563 จะมีผู้ป่วยเป็นจำนวนถึง 350,000 คน และจะมีผู้เสียชีวิตถึง 25,000 คนแล้วปั่นกระแสให้ตื่นตระหนกตกใจกลัวกันทุกวันวันละ 6 เวลา ตั้งแต่ตื่นนอนจนก่อนเวลาหลับก็ได้ยินแต่เรื่องการสร้างความหวาดกลัวเหล่านี้
ซึ่งเป็นเรื่องโกหกยกเมฆทั้งสิ้น บัดนี้เวลาผ่านมาย่างเข้าเดือนที่สิบแล้ว ชาวโลกป่วยทั้งสิ้นระดับ 36 ล้านคนเสียชีวิตระดับ 1.2 ล้านคน สำหรับประเทศไทยมีผู้ป่วยรวมทั้งที่นำเข้ามาจากต่างประเทศแล้วอยู่ที่ระดับ 3,500 คน จะเร่งยอดเท่าไรก็เพิ่มช้าไม่ทันใจเสียที
ส่วนผู้เสียชีวิตก็อยู่ที่ระดับ 59 คน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยใกล้ตายมาจากต่างประเทศเกือบ 20 คน และป่วยด้วยโรคอื่นมาก่อน พอติดเชื้อก็พาลตายไปนับสิบคน จะเร่งยอดเท่าใดก็ไม่ตายเพิ่มเสียที
แม้การโกหกยกเมฆดังกล่าวจะไม่เป็นไปดังตัวเลขเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่ต้น แต่ขบวนการโคขวิดที่ทำมาหากินกับการโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวงก็ยังไม่ลดราวาศอก ทุกวันสองวันก็จะมีหมอโคขวิดออกมาปั่นกระแสให้ตระหนกตกใจกลัว จนผู้คนสาปแช่งเป็นคนชั่วของแผ่นดินก็ยังไม่สำนึกตัว
อันโรคระบาดทั้งหลายนั้นแม้ระบาดในประเทศหนึ่งหรือภูมิภาคหนึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีสภาพเหมือนกันทั่วทั้งโลก เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น ดิน ฟ้า อากาศ ภูมิต้านทานของประชาชาติและอาหารการกิน ตลอดจนหยูกยาและระบบสาธารณสุข ซึ่งทั้งหมดนี้ประเทศไทยเป็นเลิศและไม่เอื้ออำนวยต่อการแพร่ระบาดแต่อย่างใด แต่ขบวนการโคขวิดก็ยังไม่วายที่จะเอารองเท้าฝรั่งมาใส่ให้กับเท้าคนไทยซึ่งใส่กันไม่ลงตัว
ทำให้มีการยืดการใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินติดต่อมาหลายเดือนแล้ว เป็นการทำลายความเชื่อมั่นของประเทศชาติและทำให้ราชการแผ่นดินวิปริตไปหมด
เพราะเป็นกฎหมายที่โอนอำนาจของรัฐมนตรีทุกกระทรวงมาไว้ที่นายกรัฐมนตรี แล้วโอนต่อให้กับ ศบค. แต่ในการบริหารราชการนั้นก็ไม่สามารถบริหารสั่งการ
กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ได้ บ้านเมืองของเราจึงกลายเป็นเช่นนี้
การปั่นกระแสโคขวิดจึงถูกตั้งข้อกล่าวหามาตั้งแต่ต้นว่าเป็นการสร้างสงครามชีวภาพ โดยมีเป้าหมายที่แท้จริงคือการผลิตวัคซีนขายชาวโลก 7,000 ล้านคน ซึ่งหลักฐานก็มีอยู่พร้อมมูล ไม่ว่าการจดทะเบียนเป็นเจ้าของสิทธิบัตรไวรัส การเตรียมจดทะเบียนเป็นเจ้าของสิทธิบัตรวัคซีน ข่าวการประชุมเพื่อวางตลาดวัคซีน
แต่ทุกอย่างกลับผิดคาด เพราะการผลิตวัคซีนล้มเหลว ศาลสูงสหรัฐก็ไม่เอาด้วย จนบัดนี้ขบวนการวัคซีนของโลกก็ยังไม่สามารถผลิตวัคซีนออกใช้ได้เลย
แม้ว่าคนมีอำนาจหน้าที่ในบ้านเมืองของเราขยับมือขยับไม้หลายหนแล้วที่จะร่วมมือในการผลิตบ้าง ร่วมมือกันใช้วัคซีนบ้าง แต่เมื่อต้นตอล้มเหลวความล้มเหลวนั้นก็ตกทอดมาถึงบ้านเมืองของเราด้วย
พระเจ้าไม่เข้าข้างคนชั่ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม ทั้งจีน รัสเซีย และอิหร่าน ประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีนและกำลังใช้กับประชาชาติของตน เมื่อพอใช้แล้วก็ส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ ดังเช่นรัสเซียได้ส่งวัคซีนโคขวิดไปช่วยเหลือประเทศเวเนซุเอลาอันเป็นข่าวครึกโครมทั่วโลกไปแล้ว
ส่วนจีนก็ประกาศให้การช่วยเหลือทุกประเทศทั่วโลก หรือถ้าจำหน่ายก็จะจำหน่ายในราคาทุน โดยเฉพาะจะให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง
รวมทั้งประเทศไทยก่อนเพื่อน
ปรากฏว่าไม่มีเสียงขานรับจากผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ของประเทศไทยเลย แล้วจู่ๆ ก็มีข่าวว่าจะมีการตั้งโครงการจัดซื้อวัคซีนเป็นวงเงินถึง 22,000 ล้านบาท แต่กลับไม่มีรายละเอียดให้ประชาชนรับทราบเลย จึงเป็นที่สงสัยกันว่าจะซื้อจากที่ไหน จะซื้อเมื่อใด และจะไม่ให้ความสนใจกับวัคซีนที่เขาผลิตสำเร็จและใช้กันแล้วทั้งจากจีนและรัสเซียบ้างเลยหรือ
แต่เรื่องนี้เป็นชีวิตและชะตากรรมของคนไทย เพราะถ้าหากหาวัคซีนที่เป็นพิษหรือไม่มีผลก็คนไทยนั่นแหละที่จะต้องรับเคราะห์กรรม จึงอย่าลำพองนักว่าภายใต้รัฐบาลนี้จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี