วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นับแต่รัฐธรรมนูญ 2560 ยกร่างขึ้นเป็นต้นมาจนกระทั่งถึงขั้นประกาศใช้ และนับเนื่องมาถึงปัจจุบันนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มีปัญหามากที่สุด และเป็นต้นเหตุวิกฤติร้ายแรงของบ้านเมืองอย่างหนึ่ง ซึ่งถึงวันนี้ก็ไม่รู้ที่จะแก้ไขกันอย่างไร
ก็ไม่รู้ว่าคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญจะรู้สึกสำนึกผิดบาปกันบ้างหรือไม่ และไม่เพียงแต่คณะผู้ร่างเท่านั้น ยังมีคณะปู่โสมเฝ้ารัฐธรรมนูญที่มีการเสกไว้เพื่อคุ้มครองรัฐธรรมนูญจำนวนหนึ่ง ซึ่งต้องถือว่าเป็นมืออาชีพที่รู้ช่องว่างหรืออ้างเหตุอ้างผลที่ทำให้คนหลงเชื่อได้ง่ายๆ ดังนั้นคณะปู่โสมเฝ้ารัฐธรรมนูญนี้ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญอีกส่วนหนึ่งของปัญหารัฐธรรมนูญ
ทุกครั้งที่มีการปฏิวัติรัฐประหารก็จะมีคณะบุคคลเข้าไปเสนอตัวเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประมาณ 25 คน ล้วนแต่เป็นผู้ชำนาญการที่อยู่ในวงการนี้มาทั้งชีวิต โดยอาสาทำหน้าที่กำกับงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อทำการให้เป็นไปตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ ดังนั้นกระบวนการในการร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวและการดำเนินงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งถูกชี้นำโดยคณะบุคคลเหล่านี้จึงเป็นเหตุปัจจัยสำคัญที่ทำให้การตรากฎหมายทั้งหลาย รวมทั้งรัฐธรรมนูญเป็นประการใด
ครั้นมีการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา เครือข่ายของคณะดังกล่าวก็จะหาช่องทางที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาอย่างน้อย 25 คน ทุกครั้งไป และประมาณ 25 คนนี้ นี่แหละที่จะมีบทบาทหรือฐานะที่จะเป็น “วิป” ในการกำกับงานของวุฒิสภา
รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นในลักษณะพิเศษกว่าทุกฉบับ ดังที่ประธานคณะร่างรัฐธรรมนูญได้เคยให้สัมภาษณ์ยอมรับแล้วว่าได้ร่างขึ้นตามคำสั่งของผู้มีอำนาจ ในขณะที่ผู้เกี่ยวข้องคนสำคัญอีกคนหนึ่งก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าคณะผู้มีอำนาจประสงค์จะอยู่ยาว
รวมความแล้วก็คือคณะผู้มีอำนาจต้องการจะอยู่ในอำนาจยาวนานที่สุดเท่าที่จะอยู่ได้ และคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญก็รับคำสั่งและร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตาม
คำสั่งนั้น และเพราะเหตุนี้จึงเป็นรากเหง้าของปัญหาวิกฤติที่ลุกลามใหญ่โตอยู่ในทุกวันนี้
ปัญหาสำคัญที่ร้ายแรงของรัฐธรรมนูญนี้อาจจะประมวลได้ดังนี้
ข้อแรก เป็นรัฐธรรมนูญที่มีความสับสนซับซ้อนมากที่สุด เอาเฉพาะแค่คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. สว. รัฐมนตรี และคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ อีกจิปาถะก็สับสนวุ่นวายจนมีปัญหาใหญ่โตอยู่ในขณะนี้ ซึ่งถ้าหากไม่มีการใช้อำนาจพิเศษเข้าช่วยแล้ว ป่านฉะนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นคงระเบิดเถิดเทิงไปนานแล้ว
ข้อสอง เป็นรัฐธรรมนูญที่ลิดรอนพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์มากที่สุด ซึ่งมีการดำเนินการในลักษณะนี้ต่อเนื่องมาหลายสิบปีแล้ว ดังจะเห็นได้จากการลิดรอนสิทธิส่วนพระองค์ถึงขั้นที่จะมีจดหมายหรือพระราชหัตถเลขาถึงใครก็ไม่ได้ และพระราชอำนาจอื่นๆ นั้นก็ร่างรัฐธรรมนูญกันจนพระมหากษัตริย์ใกล้จะเป็นตรายางเต็มทีแล้ว ซึ่งผิดจารีตธรรมเนียมประเพณีของการมีรัฐธรรมนูญของประเทศที่ปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ข้อสาม เป็นรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจนักการเมืองที่จะยึดครองอำนาจทั้งในลักษณะการเลือกตั้งและการอยู่ในอำนาจ จนกลายเป็นการผูกขาดหรือลัทธิ “อ๋อง” ขึ้นในจังหวัดต่างๆ ดังนั้นในแต่ละจังหวัดจึงเกิดลักษณะอิทธิพลที่เรียกว่า “บ้านใหญ่” ขึ้นในเกือบทุกจังหวัด ซึ่งทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
ข้อสี่ เป็นการตรารัฐธรรมนูญโดยไม่เคารพหลักเกณฑ์แห่งรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะคือวุฒิสภาซึ่งเป็นกลไกในการกำกับตรวจสอบการทำงานของทั้งสภาล่างและรัฐบาล แต่เขียนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญให้กลายเป็นองค์กรค้ำยันรัฐบาล คือสมาชิกวุฒิสภาจากการแต่งตั้ง 250 คนหรือเท่ากับครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีได้ จึงทำให้วุฒิสภาเสื่อมศักดิ์เสียศรี แทนที่จะเป็นองค์กรกำกับตรวจสอบก็กลายเป็นองค์กรเทกระโถนหรือคอยรับคำสั่งผู้มีอำนาจจนกลายเป็นที่หยามหยันของผู้คนอยู่เนืองๆ
ข้อห้า เป็นการสร้างเงื่อนไขในการบ่อนทำลายความยุติธรรมและการบิดเบือนการใช้อำนาจอย่างกว้างขวางที่สุด เพราะเหตุที่ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระและตำแหน่งสำคัญในบ้านเมืองจำนวนมากถูกบัญญัติให้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา แต่เมื่อวุฒิสภากลายเป็นองค์กรค้ำยันอำนาจของนักการเมืองไปเสียแล้ว ใครจะดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระหรือองค์กรทั้งหลายก็จะต้องมีการประสานงานเพื่อได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสภา อันเป็นจุดตั้งตนการบิดเบือนอำนาจและทำให้นักการเมืองมีอำนาจครอบงำองค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย
ดังที่จะเห็นได้ในขณะนี้ว่ามีใครสักกี่คนที่จะเชื่อถือองค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม และต้องถือว่าได้ก่อดอกออกผลที่ทำให้บ้านเมืองไร้ความยุติธรรมมากที่สุดกว่าทุกระยะที่ผ่านมา
ข้อหก เป็นรัฐธรรมนูญที่แก้ไขยากที่สุด เว้นแต่พวกปู่โสมเฝ้ารัฐธรรมนูญจะเออออห่อหมกด้วย ซึ่งเหลือวิสัยที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญใดที่จะกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของปู่โสมเฝ้ารัฐธรรมนูญแล้วก็ไม่มีทางที่จะได้รับความเห็นชอบ ซึ่งหมายความว่ายากที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้
โดยสภาพเช่นนี้ปัญหายิ่งหนักหน่วงขึ้นทุกวัน จะแก้ไขก็ไม่ได้ จะทำอะไรก็ไม่ได้ จึงมีแต่อนาคตที่อาจต้องมีการฉีกรัฐธรรมนูญก็เป็นไปได้ แต่ขอภาวนา
ว่าอย่าให้นักร่างรัฐธรรมนูญซึ่งขณะนี้อาจจะร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับใหม่อยู่แล้วก็ได้ เข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้อีกเลย
บ้านเมืองฉิบหายวายวอดขนาดนี้แล้ว พอได้แล้ว!

กำปั้นไทยไร้พ่าย! ลิ่ว 7 รุ่นต่อยซีเกมส์
เลขาวุฒิสภา แจ้ง สว. ยกเลิกประชุมวุฒิสภา 15- 16 ธ.ค.นี้ หลังยุบสภาแล้ว
ดร.จักษ์ ชม อนุทิน ตัดสินใจระดับรัฐบุรุษ ยุบสภาครั้งนี้ เผาพรรคส้มเหลือแต่ขี้เถ้า
กกต. กางแนวทาง ค่าใช้จ่าย สส. ช่วงเลือกตั้ง พรรคการเมืองหาเสียงได้ตั้งแต่วัน ยุบสภา
ปูติน ยกระดับชีวิตพลเมืองรัสเซีย อัตราความยากจนลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี