lกปปส. คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (มีสถานะตามกฎหมาย : มูลนิธิ)
ผู้ก่อตั้ง : สุเทพ เทือกสุบรรณ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
มูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย
วัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือผู้สนับสนุนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมือง ฯลฯ
lการก่อเกิด : เป็นผลของการต่อสู้ ๒ กระแส คือ
๑.พรรคการเมืองระบบทุนสามานย์ (ระบอบทักษิณ) พรรคเพื่อไทยที่ใช้อำนาจมิชอบ ขัดรัฐธรรมนูญผ่านการบริหารงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และรัฐสภา ที่มีเสียงข้างมาก ที่ใช้อำนาจเพื่อตนเองและพวกพ้อง
ในช่วงที่เป็นฝ่ายค้าน ก็ไม่เคารพกติกาประชาธิปไตยใช้การชุมนุมก่อกวนป่วนประเทศ หวังล้มรัฐบาลเช่น เหตุการณ์ กรณี “บุกล้มการประชุมอาเซียน + ๖ ที่พัทยา ฯลฯ (ปี ๒๕๕๒) กรณีชุมนุมปิดล้อมกรุงเทพฯ ใช้อาวุธร้ายแรง ทำลายบ้านเรือน ทรัพย์สิน และชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้ง การสังหาร และทำลาย นายทหารและกองทัพ ที่มารักษาการณ์ทำหน้าที่ฯ ในปี ๒๕๕๓
และยุคปัจจุบัน มีความคิดอคติ ทั้งทางตรง และทางอ้อม (สนับสนุนให้ท้าย กลุ่มนักศึกษาปลดแอกฯ)
๒.เป็นการสำแดงพลังรักชาติรักประชาธิปไตยของประชาชน ต่อการคัดค้าน “ระบบทักษิณ” มีการรวมตัวของพลังประชาชน แทบทุกวงการ เป็นเรือนแสนเรือนล้าน เป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง (อดีตสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ กองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย กองทัพธรรม สหภาพแรงงาน ฯลฯ โดยมี กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเลขาธิการฯ) มีการค้นคิด เนื้อหา และรูปแบบของการเคลื่อนไหว เพื่อให้ประชาชน มีส่วนร่วมในวงกว้าง และยาวนาน
lการเคลื่อนไหว ที่มีลักษณะประวัติศาสตร์ พิจารณาได้จาก
การยึดหลัก “สันติ อหิงสา” ในช่วงชุมนุม
๑.สถานที่ชุมนุม ที่หลากหลาย ปรับไปตามสภาพความเป็นจริงของสถานการณ์
เริ่มต้นที่ สถานีรถไฟสามเสน ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เพื่อต่อต้านการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม “ฉบับสุดซอย” ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กระทรวงการคลังศูนย์ราชการฯ สนามม้านางเลิ้ง และทำเนียบรัฐบาล
วันเริ่มปฏิบัติการปิดกรุงเทพฯ (Shut Down)๑๓ มกราคม - ๒ มีนาคม ๒๕๕๗
แยกปทุมวัน แยกราชประสงค์ แยกอโศกมนตรี แยกศาลาแดง (สีลม)
ห้าแยกลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และที่แจ้งวัฒนะ (จนถึง ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗)
สวนลุมพินี ๒ มีนาคม-๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗
สะพานมัฆวานรังสรรค์ ๑๒-๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗
๒.การชุมนุมใหญ่
“๒๔ พฤศจิกาฯ มวลมหาประชาชน คนไทยใจเกินล้าน”
๙ ธันวา ๒๕๕๖ เคลื่อนพลไปยังทำเนียบรัฐบาล กปปส.เสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลาออกจากนายกรัฐมนตรีรักษาการและให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง
๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๖ และ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๗ ประกาศปิดกรุงเทพฯ ย่านธุรกิจ
๒๙ มีนาคม ๒๕๕๗ ประกาศเจตนารมณ์ ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ ๗
๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ประกาศสัตยาธิษฐานเพื่อที่จะแสดงความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗ วันเริ่มปฏิบัติการขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ กปปส. ยุติการชุมนุมเมื่อเกิดรัฐประหาร
และกปปส. พร้อมให้ความร่วมมือหาก คสช. จัดการปฏิรูป
๓. วัตถุประสงค์
(๑) ขจัดอิทธิพล (ระบอบทักษิณ) อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร จากการเมืองไทย
(๒) กดดันให้นายกฯยิ่งลักษณ์ และรัฐบาลลาออก เนื่องจากมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ
(๒) จัดตั้งสภาประชาชนเพื่อควบคุมการปฏิรูปประเทศ
l๘ ปี กปปส. ได้เรียนรู้อะไร?
๑.ฐานะ บทบาท คุณค่า ของ กปปส. ต่อประชาชนและประเทศไทย (ดูข้างต้น)
หนึ่ง ผลงานที่สำเร็จ คือ
(๑) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศในบางระดับ คือ
-ยุติความขัดแย้ง การใช้อำนาจรัฐ การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม กระทำต่อประชาชน
-รัฐบาลยิ่งลักษณ์ (ระบอบทักษิณ) จบบทบาทการใช้อำนาจมิชอบ โกงกินมโหฬาร
-ทำให้ประเทศชาติ เดินต่อไปได้
-นายกฯชวน หลีกภัย : “การรัฐประหารครั้งนี้ เป็นความจำเป็นเพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ (นอกจากจะโกงกินมโหฬาร ใช้อำนาจมิชอบ แก้ไขรัฐธรรมนูญฯ) มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ทั้งระบบ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”
-และเราได้รัฐบาลประยุทธ์ ที่ยังสามารถทำงานให้กับประชาชนและบ้านเมืองได้ พอควรดีกว่า “รัฐบาลที่ผ่านมาหลายรัฐบาล”
(๒) ได้เห็น ได้รับรู้ ถึง “พลังของประชาชนหลากหลายที่รักชาติรักประชาธิปไตย อย่างแท้จริง
สอง ผลงานที่ยังไม่สำเร็จ คือ
ยังไม่สามารถปฏิรูป หรือเกิดการปฏิรูปตามเจตนารมณ์ของ กปปส. และประชาชนไทยเพราะ “ทั้งหมดที่ได้ทำไป” ทำได้เพียงบางระดับ ยังไม่มีแนวทางที่เป็นจริง ที่จะสร้างประชาธิปไตยได้ซึ่งเป็น “ความจำกัด ในความรับรู้” ในระดับนำ ทั้งในส่วนของ กปปส. พธม.รวมทั้งพรรคการเมืองที่ปรารถนาดีแต่ก็เป็นการให้ “บทเรียน ที่ผู้มีอุดมคติ และนักประชาธิปไตย” ต้องไปศึกษาวิเคราะห์ต่อไปว่า
ทำไม “ระบบการเลือกตั้งทั่วไป” หรือ “การทำรัฐประหารฯ” จึงไม่สามารถปฏิรูปประเทศได้
l๒.ข้อเสนอปฏิรูปประเทศไทย ก่อนการเลือกตั้ง
(๑) คือ : เจตนาที่หวังดี และหวังการเปลี่ยนแปลง“ไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง”
(๒) การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เป็นการเสนอ “คำขวัญที่ถูกต้อง”เพราะถ้าไม่มีการปฏิรูป “ระบบโครงสร้างของสังคมที่เหลื่อมล้ำให้เป็นธรรม “ระบบการเลือกตั้ง ก็ยังไม่สุจริตเที่ยงธรรม และมาตรการของ กกต.และกระบวนการยุติธรรม ยังไม่สามารถเอาผิด “นักเลือกตั้ง”ที่ทำผิดกฎหมายมากกว่า ๙๐% เราจึงได้ “ผู้นำพรรคการเมือง และ สส.ที่ทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งฯ” ซึ่งเป็นคนส่วนน้อยในสังคมมาเป็นรัฐบาล (ฝ่ายบริหาร) และสมาชิกรัฐสภา (ฝ่ายนิติบัญญัติฯ) รวมทั้งกระบวนการยุติธรรมฯที่มีปัญหา
เป็นการเดินซ้ำรอยความผิด ตลอดเวลา ๘๙ ปี
(๓) แต่ “เจตนาที่ดี” กับ “ความเป็นจริงของสภาพสังคมไทย”ยังอยู่ห่างไกลกันมาก เราต้องการผู้นำภาคส่วนต่างๆ ในสังคม มาสุมหัว “สรุปบทเรียน” หาแนวทางที่จะนำไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง
l๓.ประเมินผลจากการสรุปบทเรียนของตัวเอง
(๑) ในการเข้าร่วมงาน กับ กปปส. : เป็นความเต็มใจมีความสุข ได้บรรลุเป้าหมายขั้นต้น
เป็นผลงาน ในระดับที่น่าภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ อีกครั้งหนึ่งของขบวนการประชาชนฯ
เพราะได้รับรู้ และเข้าใจมาก่อนว่า “เราจะทำอะไรได้บ้าง” และอะไรที่ยังไม่สามารถทำได้ “ฉะนั้น แม้ ไม่บรรลุผลขั้นปลาย หรือเป้าหมายสุดท้าย คือ การได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงจึงไม่มีความเสียใจ หรือผิดหวังฯ
(๒) ได้ทำงานอย่างเต็มความสามารถ ทั้ง แกนนำ กปปส.และภาคส่วนอื่นๆ และส่วนตน
ได้เห็น “ความทุ่มเท ตั้งมั่น แน่วแน่ เอาจริง ของผู้นำหลายท่าน” ตั้งแต่ กำนันสุเทพ ฯลฯ
(๓) ขบวนการของประชาชนที่ได้เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยรวมทั้ง กปปส.อยู่ในขั้นตอนของการสะสมกำลัง บทเรียน และการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพ ยกระดับ ไปสู่ระดับที่สูงขึ้น แต่ยังมิใช่ หรือยังไปไม่ถึง “จุดเปลี่ยนผ่าน”
(๔) ยังต้องใช้เวลาอีกนาน โดยที่สำคัญ นักประชาธิปไตยที่แท้จริง จะต้องสรุปบทเรียนว่าการที่เราใช้เวลา ร่วม ๘๙ ปีแต่ยังไม่สามารถก้าวขึ้นไปสู่ “ประชาธิปไตยที่แท้จริงได้” เพราะอะไร หนทางเก่า ได้ผลหรือไม่ เพราะอะไร และควรที่จะแสวงหา หนทางใหม่หรือไม่
อนึ่ง มีคนข้างนอกบางส่วน “ชี้นิ้วเยาะเย้ย ถางถาก”แกนนำกล่าวหา “ย้อนหลัง” โดยไม่ดูความจริง
ส่วนตัว ไม่ได้ให้ความสำคัญ เพราะคนเหล่านี้ ทำงานเพื่อบ้านเมืองด้วยปากใช้นิ้วชี้ แต่ไม่เคยเข้าร่วมเสียสละในการลงสนามฯ ที่เป็นจริง ที่มีอันตรายและความเสี่ยงสูง (บางส่วนได้กล้าเสียสละชีวิตให้กับแผ่นดิน)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี