วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันอังคาร ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2564, 02.00 น.
คดีไร่ส้ม ยังมีคนอยู่ในคุก

ดูทั้งหมด

  •  

นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรข่าวและนักธุรกิจเจ้าของบริษัทไร่ส้มที่อื้อฉาว เข้าหลักเกณฑ์การพักโทษเป็นกรณีพิเศษ และได้ออกจากเรือนจำแล้ว หลังติดคุก 1 ปี 2 เดือน กับอีก 6 วัน


เห็นมีแต่ข่าวนายสรยุทธออกมาคนเดียว

หลายคนอาจลืมไปแล้วว่า คดีทุจริตเงินโฆษณา อสมท หรือที่สื่อเรียกว่าคดีไร่ส้ม ยังมีจำเลยที่ถูกศาลปราบโกงพิพากษาว่ามีความผิดอีก 2 คน (นอกจากนี้ตัวบริษัทไร่ส้มเองก็มีความผิดด้วย)

1. นายสรยุทธต้องโทษจำคุก 6 ปี 24 เดือน

ล่าสุด ได้พักโทษ หลังได้รับการลดโทษจากพระราชทานอภัยโทษทั่วไป 2 รอบ จนเหลือโทษจำคุกหลังสุด 3 ปี 6 เดือน 20 วัน เมื่อหักวันที่รับโทษจำคุกมาระยะหนึ่งแล้ว จึงเหลือโทษที่ต้องจำต่อไปอีก 2 ปี 4 เดือน 14 วัน เข้าเกณฑ์พักโทษโดยเหตุพิเศษ ได้ออกมาอยู่นอกเรือนจำ แต่ยังไม่พ้นโทษ ยังต้องติดอุปกรณ์ “กำไลอีเอ็ม” และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ตลอดจนรายงานตัวต่อพนักงานควบคุมความประพฤติจนกว่าจะพ้นโทษ

2. ไม่เห็นข่าวว่า จำเลยอีก 2 คน ชะตากรรมเป็นอย่างไร

คดีนี้ ลำดับเรื่องที่น่าสนใจ มีดังนี้

2.1 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.313/2558

จำเลย ได้แก่ นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือนางชนาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท, บริษัท ไร่ส้ม จำกัด, นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมการผู้จัดการ บจก.ไร่ส้ม, น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงาน บจก.ไร่ส้ม เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นพนักงานเรียกรับทรัพย์สินฯ, เป็นพนักงานใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์กร, เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และสนับสนุนพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6, 8, 11

พฤติการณ์ตามฟ้อง คือ คำช่วง 4 ก.พ. 2548 - 28 เม.ย. 2549 ต่อเนื่องกัน นางพิชชาภา จำเลยที่ 1 ได้จัดทำคิวโฆษณารวม ในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” นางพิชชาภาใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาเกินเวลา จากบจก.ไร่ส้ม จำนวน 17 ครั้ง ทำให้ บมจ.อสมท เสียหาย 138,790,000 บาท และยังได้เรียกรับเอาเงิน 658,996 บาท จากจำเลยที่ 2-4 เพื่อเป็นการตอบแทนที่นางพิชชาภาไม่รายงานการโฆษณา ซึ่งเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ บมจ.อสมท

จำเลยที่ 2-4 ถูกดำเนินคดีฐานเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือ ให้ความสะดวกในการกระทำผิด และมอบเช็คธนาคารธนชาตสาขาพระราม 4 สั่งจ่ายเงินให้นางพิชชาภา

จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

2.2 ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2559 ให้จำคุกนางพิชชาภา จำเลยที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ 6 กระทง กระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 30 ปี, ปรับ บจก.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 กระทงละ 20,000 บาท รวม 6 กระทง ปรับทั้งสิ้น 120,000 บาท นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา จำคุก 6 กระทง กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวมจำคุกคนละ 20 ปี แต่ทางนำสืบเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3

จึงให้จำคุกนางพิชชาภา เป็นเวลา 20 ปี ส่วนนายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา จำคุกคนละ 13 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญาจำเลยทั้งสาม สำหรับ บจก.ไร่ส้ม เหลือค่าปรับ 80,000 บาท

2.3 ศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษาเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2560 ยืนลงโทษจำเลยทั้งสี่ ตามศาลชั้นต้น

2.4 นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา สู้จนถึงชั้นศาลฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกา มีดังนี้

ศาลฎีกาฟังได้ว่า เงินตามเช็คจำนวน 744,659 บาท ที่จ่ายให้นางพิชชาภา เป็นเงินที่จ่ายจากค่าโฆษณาที่คิดคำนวณในอัตรา 2 เปอร์เซ็นต์ พยานหลักฐานของจำเลยที่ 2-4 ที่นำสืบถึงที่มาจำเลยเงินตามเช็ค 6 ฉบับว่าคิดคำนวณในอัตรา 2 เปอร์เซ็นต์ของเงินค่าโฆษณาสินค้าจากผู้สั่งซื้อโฆษณาจึงฟังขึ้นบางส่วน โดยพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนยังไม่พอฟังว่าการรับเช็คนั้นเป็นค่าตอบแทนในการไม่รายงานโฆษณาเกินเวลา

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อวินิจฉัยแล้วว่า เช็ค 6 ฉบับที่ บ.ไร่ส้ม สั่งจ่ายให้จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ค่าตอบแทน ที่ไม่รายงานโฆษณาเกินเวลา ดังนั้น การที่จำเลยที่ 1 รับเช็ค 6 ฉบับตามฟ้องจึงไม่เป็นความผิดฐานเป็นพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินฯ สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ และจำเลยที่ 2-4 จึงไม่ได้กระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในความผิดฐานนี้ด้วยเช่นกัน

แต่สำหรับฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ข้อเท็จจริงได้ความจากการไต่สวนพยานโจทก์ว่า ก่อนที่ อสมท ออกอากาศคิวโฆษณาของ บ.ไร่ส้ม ซึ่งเกินส่วนแบ่งเวลาตามข้อตกลง นางพิชชาภา จำเลยที่ 1 ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาให้ผู้บังคับบัญชาทราบและหลังจากออกอากาศแล้ว บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 ไม่ได้ชำระเงินค่าโฆษณาเกินเวลาให้ อสมท เพิ่งชำระให้ อสมท เมื่อเรียกให้ บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 ชำระหลังจากที่มีการตรวจสอบรายงานจนพบว่ามีการโฆษณาเกินเวลาตามข้อตกลง โดยเมื่อเรียกนางพิชชาภา จำเลยที่ 1 มาสอบถามก็ยอมรับว่าโฆษณาเกินเวลาจริงและได้แก้ไขข้อความใบคิวโฆษณาด้วยนำยาลบคำผิด ลบโฆษณาส่วนเกินและยอมรับว่าได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าจ้างประสานงานโฆษณาตามจำนวนเวลาที่โฆษณาเกิน

ศาลฎีกาเห็นว่า อสมท ได้รับชำระเงินค่าโฆษณาส่วนเกินจำนวน 138,790,000 บาท จาก บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 ครบถ้วนในวันที่ 29 ธ.ค. 2549 อันเป็นเวลาหลังจากที่มีการออกอากาศคิวโฆษณาส่วนเกินครั้งแรกในเดือน ก.พ.2548 เป็นเวลาเกือบ 2 ปี และยังได้ความจากรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงกับรายงานผลการสอบสวนทางวินัยด้วยว่า นางพิชชาภา จำเลยที่ 1 หาโฆษณาให้ บ.ไร่ส้ม และรับ “เงินค่านำเข้ายอดขายโฆษณา” หรือค่าประสานงานโฆษณาจาก บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 เป็นการตอบแทน และจัดทำคิวโฆษณาผีที่ไม่ใช่โฆษณาของ อสมท และ บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 โดยนางพิชชาภา จำเลยที่ 1 ได้แก้ไขลบข้อความในใบคิวโฆษณาของ บ.ไร่ส้ม ในวันที่มีโฆษณาเกินเวลา

พยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนจึงรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า นางพิชชาภา จำเลยที่ 1 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ อสมท หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ส่วนจำเลยที่ 2-4 นั้น การที่ นางพิชชาภา จำเลยที่ 1ไม่รายงานโฆษณาเกินเวลาให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามหน้าที่นั้น ก่อให้เกิดประโยชน์กับ บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 เพราะไม่ต้องจ่ายเงินค่าโฆษณาส่วนเกินในทันทีหลังจากวันสิ้นเดือนที่ออกอากาศ 30 วันตามหลักปฏิบัติในสัญญาโฆษณา ซึ่ง บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 สามารถนำเงินนั้นไปหาประโยชน์อย่างอื่นได้และหากไม่มีผู้ใดตรวจพบเชื่อว่า จำเลยที่ 2 คงไม่ชำระค่าโฆษณาเกินเวลาดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังได้ความจากทางนำสืบพยานโจทก์และสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของ อนุ ป.ป.ช.และคำให้การของนางพิชชาภา จำเลยที่ 1 ในชั้นอนุ ป.ป.ช.ด้วยว่า จำเลยที่ 1 ทำการลบรายการโฆษณาเกินเวลาในใบคิวตามที่ น.ส.มณฑา จำเลยที่ 4 ใช้ให้กระทำโดยบอกว่านายสรยุทธ จำเลยที่ 3 ขอร้องให้ช่วยเหลือ จึงยิ่งเป็นเหตุผลสนับสนุนให้
รับฟังว่า บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 ได้รับผลประโยชน์จากการกระทำของนางพิชชาภา จำเลยที่ 1 เพราะไม่มีเหตุผลใดที่จำเลยที่ 
1 จะต้องลบรายการโฆษณาเกินเวลา เพราะยืนยันมาตลอดว่าตนเองไม่มีหน้าที่รายงานโฆษณาเกินเวลา

และยังได้ความอีกว่าจำเลยที่ 3 พูดคุยโทรศัพท์กับจำเลยที่ 1 ขอให้ไม่ต้องแจ้งโฆษณาเกินเวลา โดยรับปากว่าจะจ่ายค่าตอบแทนให้ 2 เปอร์เซ็นต์ของค่าโฆษณาเกินเวลาที่ บ.ไร่ส้ม ไม่ต้องจ่ายให้ อสมท ซึ่งจำเลยที่ 1 ช่วยเหลือตามที่ จำเลยที่ 3-4 ขอร้องแล้วก็สั่งจ่ายเช็คมอบให้ แต่เงินที่จ่ายไม่ได้ให้อย่างสม่ำเสมอ หรือตามที่รับปากไว้และเหตุที่จำเลยที่ 1 ไม่ได้เรียกร้องให้จ่ายตามจำนวนที่ตกลงกันเพราะเห็นว่า ตกกระไดพลอยโจน จึงยอมๆ กันไปนั้น ยิ่งแสดงให้เห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เกิดจากการที่ จำเลยที่ 3 -4 เสนอเงื่อนไขให้ผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งช่วงเวลาที่ไม่รายงานโฆษณาเกินเวลานั้นก็เป็นช่วงเดียวกับที่จำเลยที่ 1 ได้รับค่าประสานงานโฆษณาเป็นเช็ค 6 ฉบับ แม้เช็คนั้นไม่ใช่การตอบแทนที่ไม่รายงานโฆษณาเกินเวลา แต่ บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 คงไม่จ่ายเช็คค่าประสานโฆษณานั้นให้ หากจำเลยที่ 1 ไม่สามารถหาช่องทางให้ออกอากาศโฆษณาเกินเวลาได้

และตามคำให้การของจำเลยที่ 1 ยังระบุอีกว่า นอกจากเช็ค 6 ฉบับ ยังเคยได้รับเช็คจาก บ.ไร่ส้ม อีกหลายฉบับด้วย ยิ่งแสดงให้เห็นแน่ชัดว่าได้รับประโยชน์จากการไม่รายงานโฆษณาเกินเวลา ส่วนที่จำเลยที่ 1 เบิกความอ้างว่าจำเลยที่ 4 ไม่ได้สั่งให้ลบคิวโฆษณา แต่ทำไปเพราะตกใจกลัวว่าจะต้องรับผิดชอบนั้น เป็นคำเบิกความปฏิเสธเพียงอย่างเดียว ไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง

ดังนั้น จากพฤติการณ์ถือว่า จำเลยที่ 3-4 ก่อให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นพนักงานอสมท ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 84 วรรคแรก แต่เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2-4 ฐานเป็นผู้สนับสนุน ตาม ป.อ.มาตรา 86 ดังนั้น ศาลจึงมีอำนาจลงโทษเป็นผู้สนับสนุน ตามมาตรา 86 เท่านั้น ฎีกาของจำเลยที่ 1-4 ฟังขึ้นบางส่วน

ศาลฎีกา จึงพิพากษาแก้เป็นว่า นางพิชชาภา จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 ส่วนจำเลยที่ 2-4 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนโดยให้ลงโทษทุกกระทงความผิดรวม 6 กระทง ซึ่งนางพิชชาภา จำเลยที่ 1 ให้จำคุก 6 กระทง กระทงละ 3 ปี (จากเดิมกระทงละ 5 ปี) เป็นจำคุก 18 ปี, ปรับ บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 กระทงละ 18,000 บาท (เดิมปรับกระทงละ
20,000 บาท) รวมปรับ 
108,000 บาท ให้จำคุกนายสรยุทธกับ น.ส.มณฑา จำเลยที่ 3-4 กระทงละ 2 ปี (จากเดิมกระทงละ 3 ปี 4 เดือน) เป็นจำคุกคนละ 12 ปี

ซึ่งทางนำสืบของจำเลยทั้ง 4 เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้กระทงละ 1 ใน 3

สรุป พิพากษาเป็นจำคุก นางพิชชาภา จำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น 12 ปี ปรับ บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 เป็นเงิน 72,000 บาท

นายสรยุทธกับ น.ส.มณฑา จำเลยที่ 3-4 จำคุกคนละ 6 ปี 24 เดือน

3. แต่ล่าสุด ที่ได้เห็นข่าวว่าออกมาจากคุก มีเพียงนายสรยุทธ

ส่วนน.ส.มณฑา และนางพิชชาภา ยังไม่ทราบชะตากรรม น่าจะยังติดคุกอยู่ต่อไปหรือไม่

 

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
11:32 น. ‘ประเสริฐ’ฉะคนปล่อยข่าว‘ภท.’คว่ำงบ69 มุ่งเสี้ยมรัฐบาลระแวงกันเอง
11:24 น. ‘อนุสรณ์’ชี้ไม่มีเหตุที่พรรคไหน จะคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ทำประเทศเสียโอกาส
11:11 น. ‘อนุสรณ์’ขอบคุณชาวเทศบาลนครเชียงใหม่ หนุน‘อัศนี’เพื่อไทยเป็นนายกฯอีกสมัย
11:03 น. ‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ติงหลังรู้ผลเลือกตั้งเทศบาล อย่าแดกดันคนในพื้นที่เป็นเมือง‘ทานหญ้าบุรี’
10:47 น. ‘หมอยง’ชี้โควิดเปลี่ยนสายพันธุ์เร็ว ยากจะป้องกันการติดเชื้อด้วยวัคซีน-ภูมิคุ้มกันดั้งเดิม
ดูทั้งหมด
ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
'ภูมิใจไทย' แตกหัก 'เพื่อไทย' คดีฮั้ว สว.เป็นเหตุ ส่อคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 - ยุบสภา
'สมชาย'เคลียร์ชัดๆ ไขกระจ่าง'วิษณุ'ไปศาลอาญาทำไม?
(คลิป) หลอกหลอน 'โฆษกพรรคเพื่อไทย' ไปตลอดชีวิต
ดูทั้งหมด
‘อุ๊งอิ๊งค์-ทวี สอดส่อง’ก็อาจไม่รอดคดี‘ป่วยทิพย์’
แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
เหนือความอาลัยใด ณ ลำปาง บ้านเกิด ส่งพี่ชายสู่สรวงสวรรค์
คุกนรก (3)
รบจริง ไม่เหมือนในหนังฮอลลีวู้ด
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ประเสริฐ’ฉะคนปล่อยข่าว‘ภท.’คว่ำงบ69 มุ่งเสี้ยมรัฐบาลระแวงกันเอง

‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ติงหลังรู้ผลเลือกตั้งเทศบาล อย่าแดกดันคนในพื้นที่เป็นเมือง‘ทานหญ้าบุรี’

สุดยอด! 'ชมพู่ พรพรรณ'แชมป์วอลเลย์ลีกอเมริกา

'วินัย อินทร์พิทักษ์'ประกาศชัยชนะ นั่งนายกเล็กเมืองหนองปรือ ควบ2สมัย กินส้มโชว์ยกทีม

‘จีโน่’แชมป์! คว้า15ล้านกอล์ฟหญิงโลก

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน' ประจำวันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม 2568

  • Breaking News
  • ‘ประเสริฐ’ฉะคนปล่อยข่าว‘ภท.’คว่ำงบ69 มุ่งเสี้ยมรัฐบาลระแวงกันเอง ‘ประเสริฐ’ฉะคนปล่อยข่าว‘ภท.’คว่ำงบ69 มุ่งเสี้ยมรัฐบาลระแวงกันเอง
  • ‘อนุสรณ์’ชี้ไม่มีเหตุที่พรรคไหน จะคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ทำประเทศเสียโอกาส ‘อนุสรณ์’ชี้ไม่มีเหตุที่พรรคไหน จะคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ทำประเทศเสียโอกาส
  • ‘อนุสรณ์’ขอบคุณชาวเทศบาลนครเชียงใหม่ หนุน‘อัศนี’เพื่อไทยเป็นนายกฯอีกสมัย ‘อนุสรณ์’ขอบคุณชาวเทศบาลนครเชียงใหม่ หนุน‘อัศนี’เพื่อไทยเป็นนายกฯอีกสมัย
  • ‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ติงหลังรู้ผลเลือกตั้งเทศบาล อย่าแดกดันคนในพื้นที่เป็นเมือง‘ทานหญ้าบุรี’ ‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ติงหลังรู้ผลเลือกตั้งเทศบาล อย่าแดกดันคนในพื้นที่เป็นเมือง‘ทานหญ้าบุรี’
  • ‘หมอยง’ชี้โควิดเปลี่ยนสายพันธุ์เร็ว ยากจะป้องกันการติดเชื้อด้วยวัคซีน-ภูมิคุ้มกันดั้งเดิม ‘หมอยง’ชี้โควิดเปลี่ยนสายพันธุ์เร็ว ยากจะป้องกันการติดเชื้อด้วยวัคซีน-ภูมิคุ้มกันดั้งเดิม
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

รบจริง ไม่เหมือนในหนังฮอลลีวู้ด

รบจริง ไม่เหมือนในหนังฮอลลีวู้ด

12 พ.ค. 2568

นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’

นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’

9 พ.ค. 2568

\'จิตป่วย\' ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เร่งป้องกันและรักษากันเถอะ

'จิตป่วย' ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เร่งป้องกันและรักษากันเถอะ

8 พ.ค. 2568

ผู้ว่าฯชัชชาติ อย่าทำลายโครงการบ้านมั่นคง

ผู้ว่าฯชัชชาติ อย่าทำลายโครงการบ้านมั่นคง

7 พ.ค. 2568

ถ้าศึกษา แล้วไม่กล้าตัดสินใจ  เปลืองเงิน เปล่าประโยชน์

ถ้าศึกษา แล้วไม่กล้าตัดสินใจ เปลืองเงิน เปล่าประโยชน์

6 พ.ค. 2568

คำโม้คุมกาสิโน กับความจริงของการบังคับใช้กฎหมาย

คำโม้คุมกาสิโน กับความจริงของการบังคับใช้กฎหมาย

5 พ.ค. 2568

ความจริงตึก สตง.ถล่ม  อย่าอคติโดยสัญชาติ

ความจริงตึก สตง.ถล่ม อย่าอคติโดยสัญชาติ

2 พ.ค. 2568

นายกฯคุณหนู เอาอยู่?  ศก.ไทย จากมีเสถียรภาพ สู่มุมมองเชิงลบ

นายกฯคุณหนู เอาอยู่? ศก.ไทย จากมีเสถียรภาพ สู่มุมมองเชิงลบ

1 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved