ประเทศไทยอยู่ในลำดับต้นๆ ของโลกในการเพิ่มพูนเศษขยะพลาสติก โดยเฉพาะการส่งออกไปล่องลอยอยู่กลางทะเล และมหาสมุทร ซึ่งต่างก็มีการรณรงค์กันทั่วโลกโดยในประเทศไทยมีการลดการใช้ภาชนะบรรจุหีบห่อที่เป็นพลาสติก ซึ่งก็เริ่มได้รับการตอบสนองดีขึ้นเป็นลำดับจากสาธารณชน และผู้ประกอบการ อีกทั้งยังนำไปสู่การวิจัยค้นคว้าและสิ่งประดิษฐ์ ภาชนะบรรจุหีบห่อที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ เพื่อมาทดแทนการใช้วัสดุพลาสติก แต่ก็คงทดแทนไม่ได้หมด และไม่ทันทีทันใดก็เลยมีมาตรการคู่ขนาน คือการนำกลับไปใช้อีก และการแปรเปลี่ยนไปใช้การอื่น โดยรวมคือ Reduce, Replace,Reuse, Recycle
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องถือโอกาสแสดงความชื่นชมกับผู้ประกอบการซาเล้งเก็บของเก่ามาขาย ด้วยรถจักรยานยนต์3 ล้อ ที่เป็นกิจการที่ล้ำหน้านำโลก แต่ถูกมองข้ามไปหรือเพิกเฉยมาช้านาน
แต่มาบัดนี้ทั่วโลกเผชิญกับโรคระบาดโควิด-19 วิถีการบริโภคอาหารก็เปลี่ยนแปลงไปมาก จากการต้องออกไปจ่ายตลาดเพื่อทำกับข้าวที่บ้าน จากการออกไปนอกบ้านเพื่อรับประทานอาหาร จากการมีรถเข็นมาขายหน้าบ้านก็เป็นการบริโภคด้วยการสั่งอาหาร แล้วให้นำมาส่งที่บ้านเป็นระบบการรับ-ส่ง (Delivery System) ซึ่งก็ไม่ต้องใช้โทรศัพท์บ้าน แต่ทำการสั่งแถมจ่ายเงินได้ด้วยมือถือ ทั้งต่อค่าอาหารและค่าบริการรับส่งด้วย ก็สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดเวลา หากแต่อย่าลืมว่า อาหารที่นำมาส่งนั้นต้องถูกบรรจุ และบรรจุภัณฑ์ก็มักจะเป็นพลาสติกรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะถุง และกล่อง
เมื่อเป็นวิถีชีวิตใหม่ยุคโควิด-19 ปริมาณการใช้พลาสติกก็เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และด้วยจำนวนมากๆ ด้วย และฉะนั้น ก็เป็นการสวนทางกับเป้าหมายการลดการใช้พลาสติกดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
แต่ความจำเป็นของสภาพชีวิตมันบังคับเสียแล้วซึ่งในวันนี้แม้จะมีการห้ามการใช้พลาสติกบรรจุอาหารก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะยังไม่มีสิ่งทดแทนเพียงพอแล้วหากมีก็อาจเป็นเรื่องของราคาว่า จะแพงมากแค่ไหนกว่าพลาสติก ซึ่งแนวโน้มก็คงจะแพงกว่า และฉะนั้น ก็จะเป็นต้นทุนที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายของผู้รับบริการก็จะตามมาด้วยราคาที่สูงขึ้น
ก็มีแนวคิดว่า แทนที่จะใช้ถุง และกล่องพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งไปเป็นเศษขยะ (One use and throw away) แล้ว ก็น่าจะมีแนวคิดและมาตรการ ว่าด้วยการใช้แบบหมุนเวียน เสมือนทำปิ่นโตพลาสติกแบบชั้นเดียว หรือ 2 ชั้น หรือชั้นเดียวแต่ 2 ช่อง
เมื่อผู้รับบริการรับประทานอาหารเสร็จก็มีหน้าที่ทำความสะอาด “ปิ่นโตพลาสติก” หรือกล่องพลาสติกอาหาร แล้วนำมาวางไว้ที่หน้าบ้าน แล้วกระบวนการซาเล้งก็จะมีหน้าที่มารับไปส่ง ณ ศูนย์กลาง รวบรวมและทำความสะอาดที่ถูกต้องตามหลักสุขภาพ จากศูนย์กลาง (ต่างๆ/หลายศูนย์กลางจากมุมเมือง) ก็จะมีระบบนำเอาปิ่นโตพลาสติกไปกระจายส่งมอบให้กับร้านอาหาร และผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อย ผ่านกระบวนการซาเล้ง หรือระบบส่งมอบ (delivery) ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ผลคือการลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวจบและลดปริมาณขยะและลดค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยเฉพาะการทำลายขยะ ก็เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายของฝ่ายเทศบาล ซึ่งก็สามารถนำเอาเงินจำนวนที่ประหยัดไปจัดทำศูนย์ทำความสะอาด และระบบรับ-ส่งได้
การออกแบบ “ปิ่นโต” และการวางโปรแกรมระบบการรับ เก็บทำความสะอาด และกระจายส่งในยุคสมัยนี้ไม่เกินความสามารถ เพราะเครื่องมือกลไกทางเทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ และมันสมองอันเลิศของเยาวชนคนหนุ่มคนสาวไทย
ก็ขึ้นอยู่กับการรับฟัง วิสัยทัศน์ การคิดอ่าน เพื่อลดปัญหา เพิ่มความสะดวกและความสะอาดปลอดภัย
งานนี้ใกล้คน ฉะนั้น บรรดาเทศบาลและระดับจังหวัด ทั้งผู้ว่าฯ และนายก อบจ. น่าจะลองไปคิดอ่านกันได้
รัฐบาลเห็นประโยชน์เรื่องนี้ ก็สามารถสนับสนุนโดยเอางบส่วนหนึ่งไปอุดหนุนจุนเจือได
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี