การป้องกันการติดต่อและแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 ที่ดีที่สุดคือ สวมหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานเมื่อต้องพบปะกับผู้คน ไม่ว่าจะเป็นคนกันเองที่ใกล้ชิดกัน หรือคนแปลกหน้าก็ตาม แล้วที่สำคัญคือพยายามไม่นำตัวเองเข้าไปอยู่ในระยะประชิดตัวกับผู้สูงอายุ และเด็กอ่อน รวมถึงคนที่มีอาการป่วยด้วยโรคอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคทางเดินหายใจทุกชนิด
นอกจากสวมหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานแล้ว ยังต้องหมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ เป็นเวลาอย่างน้อย 45-60 นาที โดยเฉพาะหลังจากมือไปสัมผัสสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะในหรือนอกบ้าน แล้วที่สำคัญก็คือต้องไม่นำมือที่ยังไม่ได้ผ่านการล้างอย่างสะอาดไปขยี้ตา ไชจมูก ล้วงเข้าไปในปาก เพราะมือสกปรกคือตัวการนำพาเชื้อโรคทุกชนิด ไม่เฉพาะแค่เชื้อโควิด-19 เท่านั้นเข้าสู่ร่างกาย
และประเด็นต่อมาคือการเว้นระยะห่างจากบุคคลทั่วไปอย่างน้อย 1 เมตร ที่หลายคนเรียกจนติดปากว่า Social Distancing เพราะการเว้นระยะห่างประมาณนี้ อย่างน้อยก็ช่วยให้เชื้อโควิด-19 ที่อาจจะฟุ้งกระจายจากคนที่เราอยู่ใกล้ชิดไม่มีโอกาสกระเด็นหรือแพร่มายังตัวของเราได้
สามเรื่องที่กล่าวมานี้เป็นเรื่องที่ทำได้โดยง่ายมาก แต่น่าอัศจรรย์ใจที่คนจำนวนไม่น้อยกลับไม่ยอมทำ แต่มีบางคนดิ้นรนขวนขวายพยายามหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาฉีด แต่กลับไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย แถมเวลาอยู่ใกล้ชิดกับคนในบ้านหรือในที่ทำงานก็กลับเอาแต่พูดๆๆ โดยไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัยอีก โดยอ้างว่าสวมแล้วพูดไม่สะดวก หายใจไม่ออก ซึ่งก็ต้องขอย้ำ ณ ตรงนี้ว่า ต่อให้ใครก็ตามที่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว แต่ไม่ทำสามสิ่งดังที่กล่าวมาข้างต้น ก็ไม่ได้ช่วยให้คนผู้นั้นรอดพ้นจากการติดเชื้อโควิด-19 แต่ก็ยังดีอยู่บ้างตรงที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้มาแล้ว เพราะถ้าหากได้รับเชื้อเข้าไปจริงๆ ก็จะไม่มีอาการเจ็บป่วยรุนแรงวิกฤติเหมือนคนที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 แม้แต่น้อย
ในยามนี้ ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติบ้างแล้ว ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าการเปิดรับคนต่างชาติเข้ามาในยามที่เชื้อโควิด-19 ยังถูกกล่าวขานว่าเป็นเชื้อมรณะ (แต่สามารถรักษาหายได้) ก็คือความเสี่ยงอย่างหนึ่ง แต่ก็จำเป็นต้องเสี่ยง เพราะประเทศของเราจำเป็นต้องพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยว และจากนักธุรกิจต่างชาติ
ล่าสุดเมื่อต้นเดือนเมษายน การบินไทยได้นำนักธุรกิจต่างชาติจำนวน 16 ราย จากนครแฟรงค์เฟิร์ต เยอรมนี บินตรงไปยังเกาะภูเก็ต ซึ่งเที่ยวบินดังกล่าวนับเป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์เชิงพาณิชย์ของการบินไทยและของประเทศไทยในยุคที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยผู้มาเยือนประเทศไทยทุกรายล้วนต้องมีใบแสดงว่าตนเองปลอดจากเชื้อโควิด-19 และมีสุขภาพแข็งแรงดี และเมื่อมาถึงแล้วก็ยังต้องถูกตรวจร่างกายตามขั้นตอนของการสาธารณสุขของบ้านเราอย่างเข้มงวดอีกด้วย เพื่อความมั่นใจของทุกฝ่ายว่าจะไม่มีการนำเชื้อโรคนี้เข้ามาในบ้านของเรา
แต่น่าอัศจรรย์ใจที่บ้านเมืองของเรามีความเข้มงวดกับชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในบ้านเรา แต่ทว่าคนไทยจำนวนหนึ่งกลับเพิกเฉยละเลยการดูแลตัวเองให้รอดพ้นจากเชื้อมรณะนี้ดังยังปรากฏข่าวว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในผับ บาร์ สถานบันเทิงหลายแห่งในเขตกรุงเทพฯ หลังจากเคยมีข่าวครึกโครมว่าเชื้อนี้ได้แพร่กระจายในบ่อนการพนัน และเวทีมวยมาแล้ว ซึ่งสุดท้ายคนจากบ่อน และจากผับ บาร์ ก็นำเอาเชื้อนี้ไปแพร่กระจายต่อๆ ไปในสังคมไทย
ขอย้ำว่า แม้เราจะต้องเปิดประเทศเพื่อให้ธุรกิจของบ้านเราก้าวหน้าขึ้น แต่ตัวของเราทุกคนก็ยังต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่างต่อไป หากเราไม่ต้องการให้ประเทศไทยเกิดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ระลอกสามระลอกสี่ หรือระลอกใดๆ ก็ตาม ทุกคนโปรดสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาด และเว้นระยะห่าง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี