การบังคับให้ผู้ติดเชื้อโคขวิดแสดงไทม์ไลน์หรือตารางเวลาว่าไปไหนมาไหนบ้างในห้วงเวลาที่ตั้งแต่คาดหมายว่าจะติดเชื้อ จนถึงเวลาที่ตรวจพบเชื้อ กำลังกลายเป็นต้นเหตุใหญ่ของวิบัติอีกประเภทหนึ่งในชาติบ้านเมืองของเรา
ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นจากความคิดความเห็นของใครและเพื่อประสงค์สิ่งใด หรือว่ามีวาระซ่อนเร้นอะไรอยู่ในใจหรือไม่อย่างไร แต่ก็เกิดหายนะใหญ่หลวงขึ้นในบ้านเมืองดังจะได้แสดงต่อไป
ทุกวันนี้อย่าว่าแต่ไทม์ไลน์เลย แม้ตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตทั้งรายวันและสะสมก็แทบไม่มีชาติใดในโลกเขาทำกันแล้ว เพราะประเทศทั้งหลายได้ตื่นรู้ว่าเป็นกุศโลบายลวงโลก โกหกหลอกลวงชาวโลก กระทั่งแหล่งการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวก็เป็นแค่เว็บไซต์เถื่อนที่เปิดเป็นห้องแถวสองห้องที่อิตาลี
ประเทศไทยของเราหลังจากเอาข้อมูลลวงโลกดังกล่าวมารายงานปลุกปั่นให้ประชาชนตกใจกลัวหลายเดือน ในที่สุดเมื่อ ดร.อัครเวช โชตินฤมล นำความจริงเรื่องนี้มาตีแผ่ก็ได้ยกเลิกการนำข้อมูลลวงโลกนี้มาประกาศ ซึ่งขณะนี้ก็ผ่านไปหลายเดือนแล้ว แต่หามีใครรับผิดชอบหรือขอโทษขอโพยต่อประชาชนที่เอาข้อมูลลวงโลกมาบอกแก่คนไทย ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือถูกหลอกมาก็ตามที
เพราะเมื่อมีความผิดพลาดขึ้นเช่นนี้ วิญญูชนที่รับผิดชอบต่อประชาชนก็มีหน้าที่และจริยธรรมที่จะต้องบอกความจริงและขออภัยโทษแก่ประชาชน แต่ก็หามีหน้าไหนแสดงความรับผิดชอบไม่ อันสะท้อนให้เห็นว่ามีแต่พวกหน้าตัวเมียที่ไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อประเทศชาติและราษฎร
ไทม์ไลน์ก็เช่นเดียวกัน ขณะนี้แทบไม่มีประเทศใดในโลกที่เขาทำกัน ไม่ว่าประเทศที่มีประชากรมากอย่างประเทศจีนหรืออินเดีย มาถึงประเทศที่มีประชากรขนาดกลางอย่างสหรัฐ รัสเซีย และประเทศที่มีประชากรขนาดย่อมเช่นในยุโรปและอาเซียนก็ไม่มีชาติไหนบ้าบอคอแตกบังคับให้ต้องแสดงไทม์ไลน์
เพราะไม่เห็นประโยชน์อันใด ที่สำคัญคือจะมีใครสักกี่คนที่บันทึกไทม์ไลน์ของตนเองและทรงจำหรือเก็บหลักฐานไว้ในระยะเวลาที่ผ่านมา ดังนั้นไทม์ไลน์ทั้งปวงจึงไม่ตรงต่อความเป็นจริงไปทั้งหมดและเชื่อถือไม่ได้
ถามใจคนไทยทั้งประเทศดูก็ได้ว่ามีใครเชื่อถือไทม์ไลน์บ้าง แม้กระทั่งไทม์ไลน์ของรัฐมนตรี หรือของรองนายกรัฐมนตรี หรือบุคคลสำคัญๆ ในวงราชการที่มีข่าวคราวฉาวโฉ่และโกหกปกปิดกันอยู่เป็นพัลวันนั่นก็ไม่มีใครเชื่อถือเลย สำมะหาอะไรกับราษฎรตาสีตาสา ดังนั้นจึงหาประโยชน์ใดจากไทม์ไลน์ไม่ได้และเชื่อถือไม่ได้ เพราะมีเรื่องโกหกปกปิดบิดเบือน กระทั่งอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงขึ้น
ยกตัวอย่างรูปธรรมที่สุดในไทม์ไลน์ของผู้ป่วยบางรายระบุว่า ในห้วงเวลาที่สงสัยว่าจะติดเชื้อจนถึงวันตรวจพบอาจจะ 5-8 วัน ได้ไปที่ไหนบ้าง ซึ่งรายการหนึ่งระบุว่าได้ไปที่ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีหลายชั้น มีพื้นที่กว้างขวาง ทั้งพื้นที่ของห้างสรรพสินค้านั้นเองและพื้นที่ที่แบ่งเช่าอันเป็นอีกส่วนหนึ่ง
ทันทีที่ข่าวจากไทม์ไลน์นี้ปรากฏขึ้นต่อสาธารณะก็สร้างความตระหนกตกใจกลัวแก่ประชาชนเป็นวงกว้างและเกิดความเสียหายใหญ่หลวงเกิดขึ้นทันที
ประการแรก ห้างสรรพสินค้านั้นต้องปิดชั่วคราวเพื่อฉีดฆ่าเชื้อ 1-3 วัน เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจทั้งๆ ที่พื้นที่ผู้ติดเชื้อไปที่ห้างสรรพสินค้านั้นก็แค่ไปที่พื้นที่ร้านแบ่งเช่าไม่ถึงชั่วโมงก็กลับ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่ห้างสรรพสินค้าทั้งห้าง รวมทั้งผู้เช่าพื้นที่ประกอบการทั้งหมดด้วย
ประการที่สอง ทำให้ประชาชนซึ่งไปที่ห้างสรรพสินค้านั้นไม่ว่าจะไปส่วนไหนของห้างหรือร้านแบ่งเช่าภายนอกห้างพากันตระหนกตกใจกลัว ทำให้ประชาชนที่ไปที่ห้างสรรพสินค้าในวันนั้นตั้งแต่เช้ายันค่ำนับจำนวนเกือบ 5,000 คน ต้องแห่กันไปตรวจเชื้อเกิดการโกลาหลขึ้นในบ้านเมือง จนไม่สามารถทำการงานได้ตามปกติ ทั้งๆ ที่คนส่วนใหญ่อาจจะกว่า 90% ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่ผู้ติดเชื้อไปเลย
ประการที่สาม นอกจากผู้ไปที่ห้างสรรพสินค้าในวันนั้นจำนวนมากและต้องไปตรวจเชื้อแล้วก็ต้องพาผู้คนในครอบครัวทั้งหมดไปตรวจเชื้ออีกด้วย เฉลี่ยครอบครัวหนึ่ง 3 คน ก็จะเป็นจำนวนถึง 15,000 คนแล้ว
ช่างเป็นเวรกรรมของบ้านเมืองที่มีขบวนการผูกขาดชุดตรวจเชื้อ ซึ่งถ้าหากเปิดเสรีให้นำเข้าได้ต้นทุนชุดตรวจเชื้อก็ตกราวชุดละ 200 บาท แต่เพราะเหตุผูกขาดนำเข้าเสรีไม่ได้ต้องขออนุญาตจากท่านผู้วิเศษเสียก่อน ดังนั้นจึงทำให้การคิดค่าตรวจแพงลิบลิ่ว ชนิดขี้หมากาไก่ก็คนละ 1,800 บาทและอาจสูงถึง 8,000 บาท มิหนำซ้ำการตรวจครั้งเดียวก็ยังมีความเสี่ยง จะต้องตรวจซ้ำสอง ประชาชนจึงต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นสองเท่า ซึ่งถ้าใครคิดวางแผนเรื่องนี้ก็ต้องถือว่าใจสัตว์นรกที่จะต้องตกนรกหมกไหม้ในที่สุด เพราะมีความอำมหิตต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ร่วมชาติที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ดังนั้นไทม์ไลน์นอกจากที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในการผูกขาดนำเข้าชุดตรวจแล้วก็ไม่เห็นประโยชน์ทางไหนอีก
และเรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบต่อประเทศชาติและราษฎรทั้งผอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี