นักการเมืองไทยกับนักการเมืองอเมริกันหลายรายเสี่ยงตายและทำให้ประเทศชาติเสียหาย เพราะคิดชั่วมัวแต่เล่นการเมืองว่าด้วยเรื่องโควิด-19
นักการเมืองสองประเทศนี้บางพรรค บางคนมีพฤติกรรมและสันดานเหมือนกันคือเอาแต่โจมตีรัฐบาลว่าล้มเหลวเรื่องป้องกันการระบาดของโรคร้ายแต่ตัวเองกลับเป็นตัวการทำให้โควิดระบาดใหญ่ที่เรียกว่า super speaders เสียเอง
นักการเมืองบางคน ทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชนวางอำนาจบาตรใหญ่ไปที่อโคจรคลับ บาร์ คาราโอเกะกินเหล้าเมายาเคล้านารี เหล่านี้ล้วนมาจากการอ้างชื่อผู้ใหญ่ใช้อิทธิพลคุ้มครอง
ในเมืองไทย การระบาดใหญ่ของโควิดครั้งแรกมาจากสนามมวยซึ่งเป็นแหล่งทำเงินของนายทหารเจ้าพ่อนักพนันผู้ยิ่งใหญ่ ระบาดใหญ่ครั้งต่อมาคือปล่อยให้ลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ ขบวนการนี้ถ้าไม่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หนุนหลังไม่สามารถทำได้
#ระบาดใหญ่ครั้งล่าสุดเกิดจากนักการเมือง เจ้าพ่อบ่อนการพนัน จากผู้ยิ่งใหญ่ จากคนดังนักแสดงดารา มั่วสุมกันในเลานจ์ คลับ บาร์ คาราโอเกะอย่างย่ามใจไม่รับผิดชอบต่อสังคม ทำให้โรคร้ายระบาดทั่วไทยควบคุมไม่ได้
เพราะนักการเมือง นักแสดงดารา นายบ่อนและผู้ยิ่งใหญ่ ทุกคนมีแรงดึงดูดให้คนอยากเข้าใกล้ อยากถ่ายรูปด้วยอยากสัมผัสมือ อยากเสนอหน้าเลยทำให้โรคร้ายระบาดใหญ่ทั่วประเทศไทย
ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้านที่เอาแต่ด่ารัฐบาลว่าล้มเหลว แต่ตัวเองและพรรคที่สังกัดกลับให้การสนับสนุนปัจจัยและกำลังคน ยุยงส่งเสริมให้มีการชุมนุมสุมหัวของขบวนการล้มเจ้า ทั้งๆ ที่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินห้ามการชุมนุมเพื่อป้องกันการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19
นักการเมืองขาดจิตสำนึกพวกนี้ถือว่ามีอภิสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่นำไปใช้ในทางที่ผิด เอาสิทธิตามกฎหมายไปให้ท้ายคนชั่ว นักการเมืองเอาเอกสิทธิ์ สส. ไปประกันตัวผู้ชุมนุมผิดกฎหมาย นักการเมืองชั่วช้าขาประจำ เสนอหน้าไปประกันตัวให้ทุกคราที่มีคนทำผิดกฎหมายทำร้ายบ้านเมือง โดยเฉพาะเรื่องมุ่งร้ายทำลายสถาบันหลักของชาติ
นักการเมืองบางคน บางพรรคอาชีพหลักคือเดินหน้ายุยงส่งเสริมให้เด็กออกชุมนุมสุมหัวด่าเจ้าอย่างชั่วช้าหยาบคายไม่เกรงกลัวกฎหมายและไม่ใส่ใจว่าอาจมีผู้ร่วมชุมนุมบางคนนำโควิดติดตัวมาแพร่กระจายทำให้เกิดระบาดใหญ่ได้
เช่นเดียวกันกับในสหรัฐอเมริกา ที่นักการเมืองและอเมริกันชน ที่ผู้คนและนักการเมืองแบ่งกันเป็นสองฝักสองฝ่าย
ฝ่ายพรรครีพับลิกันต้องการให้เปิดเมืองเสรี มีการค้าการขายเพื่อให้#อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครา#ฝ่ายพรรคเดโมแครตก็ถนัดเรื่องประท้วงโดยอ้างคัมภีร์ อ้างการพูดและการแสดงออกอย่างเสรี แต่แท้จริงแล้วมีเป้าหมายเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
ฉวยโอกาสจับเอาเรื่องตำรวจฆ่าคนผิวสีตายปลุกปั่นให้เป็นเรื่องใหญ่ ยุยงส่งเสริมให้ประท้วงก่อจลาจลทั่วไป ไม่สนใจเรื่องเชื้อโควิดระบาดใหญ่โดยอ้างว่าชีวิตคนผิวสีสำคัญ เลยสร้างวาทกรรมทำลายรัฐบาลด้วยคำว่า “black lives matter” นานเข้าเอาแค่ “black matter”คำว่า life หายไปแล้ว
ผู้ว่าราชการรัฐต่างๆ ที่เป็นเดโมแครตอ้างความสำคัญของชีวิตคนดำ อ้างสิทธิมนุษยชน อ้างเสรีภาพในการแสดงออกนำผู้คนออกประท้วงเสียเองแต่พอนายโจ ไบเดนชนะเลือกตั้งการประท้วงก็หายไปไม่มี “Black lives matter”อีกเลย
รัฐบาลเดโมแครตอ้างความสำคัญรื่องเศรษฐกิจภายในประธานาธิบดีโจ ไบเดน รณรงค์ให้คนใช้สินค้าที่ทำในอเมริกาใช้สโลแกนว่า buy America แต่นายโจ ไบเดน ดันใส่นาฬิกา Rolex ของสวิตเซอร์แลนด์ในวันเริ่มรณรงค์
เรื่องการท่องเที่ยวพรรคเดโมแครตเข้มงวดเรื่องการเดินทาง หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ต้องมีใบรับรองแพทย์ บัตรผ่านการฉีดวัคซีนโควิด
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์รายงานว่า ทางการกำลังไล่จับคนขายบัตรผ่านการฉีดวัคซีนโควิดปลอมที่มีขายแพร่หลายใน ebay twitter และ shopify ซึ่งหาซื้อได้ในราคาตั้งแต่ 20 ถึง 60 ดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นคนที่ไม่ได้วัคซีนโควิดก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมและอีเว้นท์ใหญ่ได้ถ้ามีบัตรผ่านการฉีดวัคซีนปลอม
เพราะความดื้อรั้นความเจ้าเล่ห์ของคนอเมริกันโควิดมันจึงระบาดใหญ่ที่มีคนตายมากที่สุดในโลก ถึงวันนี้มีคนตายแล้ว 5.64 แสนคน ติดเชื้อ 4.39 ล้านคน เพราะอเมริกันดื้อรั้นถือความคิดตัวเป็นใหญ่ เชื่อว่า “คนที่สวมหน้ากากอนามัยคือคนไข้”
อเมริกันชนเสี่ยงเล่นการเมืองกับเรื่องโควิดรายล่าสุดคือผู้ว่าราชการรัฐฟลอริดา นายรอน เดอซานติส ซึ่งเป็นรีพับลิกัน ฟ้องรัฐบาลเดโมแครตของนายโจ ไบเดน ให้เปิดการเดินเรือสำราญที่ถูก “ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด (CDC)” สั่งระงับการเดินเรือทั่วประเทศตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020
CDC สมัยนายทรัมป์ จากพรรคเดโมแครตสั่งระงับการเดินเรือสำราญ เพราะเป็นแหล่งระบาดใหญ่โควิด-19 #เห็นไหมนักการเมืองไม่ว่านักการเมืองอเมริกันหรือนักการเมืองไทย# พอเป็นรัฐบาลก็นั่งอมสากพอเป็นฝ่ายค้านอะไรก็ไม่ได้ แม้แต่มาตรการที่รัฐบาลฝ่ายตนเคยสร้างขึ้นก็คัดค้าน
#เหมือนกับนักการเมืองไทยบางรายที่ไล่งับหางตัวเองอยู่ทุกวันนี้#
นายเดอซานติส ซึ่งเป็นผู้ว่ารัฐฟลอริดาที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากการท่องเที่ยวให้เหตุผลในการฟ้องศาลว่า “ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจ CDC ล็อกดาวน์เศรษฐกิจทั่วประเทศอย่างไม่มีกำหนด...และการฟ้องร้องให้รัฐบาลกลางที่สั่งเปิดการเดินเรือ ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาวฟลอริดา ที่ทำมาหากินกับการท่องเที่ยว เราฟ้องร้องเพื่อปกป้องชาวฟลอริดาที่ถูกรัฐบาลกลางทำเกินเหตุ ทำให้เศรษฐกิจของเราล้มละลาย..” นายเดอซานติสกล่าว ผ่านแถลงการณ์ของรัฐฟลอริดา
นี่คืออเมริกันชนที่ดื้อรั้นและทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่รัฐบาลห้าม ซึ่งต่างกับคนอังกฤษเมื่อเกิดวิกฤติมีเรื่องเศร้ารัฐบาลเอาไงประชาชนเอาอย่างนั้น จากกรณีสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระพระราชสวามีของควีนเอลิซาเบธที่ 2
ในงานพระราชพิธีพระศพเพื่อป้องกันโควิด-19 สำนักพระราชวังกำหนดให้มีผู้เข้าร่วมพิธีได้เพียง 30 คนเท่านั้นนอกจากนั้นสำนักพระราชวังยังแนะนำให้ประชาชนไปทำบุญกับมูลนิธิการกุศลแทนการวางดอกไม้ถวายความอาลัย
ฝ่ายรัฐบาลก็ออกแถลงการณ์แนะนำประชาชนที่มาวางดอกไม้ให้ทิ้งระยะห่างอย่าวางกันเป็นกลุ่มก้อน โดยปัจจุบันคนอังกฤษติดโควิด 4.38 ล้านคน และเสียชีวิต 1.27 ล้านคน
ส่วนประเทศไทยเราเริ่มจากเป็นพระเอกในปีแรกที่มีคนติดเชื้อเพียง 4,161 ราย ตาย 60 คน แต่พอถึงกลางเดือนเม.ย. 2564 ทั้งๆ ที่อากาศร้อนไม่เป็นมิตรกับโควิดเท่าไหร่ แต่ทำไมถึงวันที่ 16 ม.ย. 2564 มีคนป่วยจากโควิดรวม 39,038 ราย ตายรวม 97 คน นี้คงเป็นผลมาจากแอร์เย็นสบาย แต่แออัดยัดเยียดกันในบ่อนการพนัน ในเลานจ์ คลับ บาร์ คาราโอเกะ
จะให้มีคนป่วย มีคนตายเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ เพราะวัฒนธรรมแบบไทยๆ ที่เกรงใจผู้ยิ่งใหญ่ เอาใจนักการเมืองไม่ขัดเคืองนักร้อง ดารา กินสินบาทคาดสินบน บ่อนการพนัน อาบอบนวด คลับ บาร์ หาความมั่งคั่งให้ผู้ยิ่งใหญ่ทำให้คนไทยตายเป็นเบือเหมือนเมื่อคราผีวัดสระเกศเปรตวัดสุทัศน์หรือไง?
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี