ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤติโคบ้าเป็นเวลา 16 เดือนเต็มแล้วสมควรจะได้ประเมินผลการรับมือกับโคบ้าว่าได้ผลเป็นประการใด ทั้งในการเปรียบเทียบเชิงเดี่ยวและการเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ที่ประสบชะตากรรมด้วยกัน อย่างน้อยก็เพื่อเป็นข้อเตือนจิตสะกิดใจให้กับผู้มีอำนาจหน้าที่ได้พิจารณา
ถ้าหากใจกว้างและยอมรับความจริงการประเมินนี้ก็จะมีฐานะเป็นการติง เป็นการเตือน ด้วยจิตใจแห่งกัลยาณมิตร ที่คำนึงถึงประโยชน์แห่งชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยอคติใด
ในรอบ 16 เดือนมานี้เป็นห้วงเวลาที่โคบ้าระบาดไปทั่วโลก โดยแรกเริ่มเดิมทีประเทศจีนระบาดก่อนใคร มีผู้ป่วยมากที่สุดในโลก และแรกเริ่มเดิมทีเช่นเดียวกัน ประเทศไทยก็มีผู้ป่วยนอกประเทศจีนมากที่สุดในโลก โดยในขณะนั้นจีนมีผู้ป่วยสูงสุด 80,000 คน ไทยมีผู้ป่วยสูงสุด 3,000 คน
ในขณะนั้นประเทศทั้งหลายในโลกยังอยู่ในห้วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด และยังคงระบาดต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ และโคบ้าได้กลายเป็นโรคระบาดที่แพร่หลายตามแบบอย่างของไข้หวัดใหญ่ที่จะระบาดหนักในแต่ละปี โดยเฉพาะในประเทศที่มีอากาศหนาวและมีคนผิวขาวอยู่ในอากาศเช่นนั้น
16 เดือนผ่านไป ประเทศจีนประสบความสำเร็จในการรับมือกับโคบ้าอย่างยอดเยี่ยมของโลก ประชากรจีน 1,400 ล้านคนได้กลับคืนสู่ความเป็นปกติโดยทั่วไป ในเทศกาลหยวนเซียวเมื่อต้นปีมีผู้คนเข้าร่วมฉลองอย่างล้นหลาม แม้ที่เมืองอู่ฮั่นที่เป็นจุดแรกเริ่มการระบาดก็มีการเข้าร่วมการเฉลิมฉลองร่วม 1 ล้านคน ด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส
ตามมาด้วยอิหร่านและอิตาลีและรัสเซีย ซึ่งในระยะถัดจากระยะเริ่มแรกก็มีการแพร่ระบาดชนิดระเบิดเถิดเทิง แต่ได้รับการช่วยเหลือจากจีนและรัสเซีย จึงกลับคืนสู่ความเป็นปกติโดยไว เฉพาะอิตาลีนั้นได้รู้เช่นเห็นชาติพวกฝรั่งด้วยกันที่ไม่มีใครช่วยเหลือใครในยามยาก จึงต้องลดธงสหภาพยุโรปลงแล้วชักธงจีนขึ้นแทน เพราะประจักษ์ใจในความเป็นมิตรแท้ในยามยาก
ขณะนี้ประเทศที่ถือว่าล้มเหลวมากที่สุดในการรับมือกับโคบ้าก็คือสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อต่อเนื่องจำนวนสูงสุดของโลกและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการนำเอาตัวเลขผู้ป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม ปอดอักเสบและวัณโรค ซึ่งแต่ละปีมีผู้ป่วยรวมกันกว่า 4 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตร่วม 500,000 คน มาตีคลุมเหมาเอาเป็นผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโคบ้า ซึ่งกลายเป็นแบบอย่างในการมั่วรายงานการลวงโลกให้แก่ประเทศบริษัทบริวารทั้งหลายด้วย
ในบรรดาประเทศอาเซียน 10 ประเทศ ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิกด้วยนั้นก็ปรากฏว่ามีแต่ประเทศไทยเรานั้นที่ยังมีเหตุระบาดระเบิดเถิดเทิงและบ้านเมืองอยู่ในวิกฤติมากที่สุด ในขณะที่ประเทศอาเซียนอื่นส่วนใหญ่กลับคืนสู่ภาวะปกติ แม้ว่าจะต้องใช้ความระมัดระวังหรือระบาดเป็นครั้งคราวก็ตาม แต่ก็ถือได้ว่าประเทศเหล่านั้นสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโคบ้าได้เป็นอย่างดียิ่ง
สาเหตุที่ประเทศอาเซียนอื่นสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโคบ้าทั้งในส่วนของโรคระบาดและในส่วนของการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจ สรุปได้ประการเดียวเท่านั้นคือไม่เดินตามการชักใยของขบวนการค้าวัคซีนโลก ตั้งตนเป็นไทแก่ตนเอง และใช้ความปรีชาสามารถของรัฐบาลตนเองในการรับมือกับโคบ้าอย่างได้ผล
สำหรับประเทศไทยในรอบ 16 เดือนที่ผ่านมา มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อขนานใหญ่ถึง 5 ครั้ง คือการรับคนไทยจากเมืองอู่ฮั่นกลับประเทศไทย และการรับคนไทยจากเกาหลีใต้กลับประเทศไทยแต่เดชะบุญด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคุ้มครองป้องกันและช่วยเหลือ เหตุการณ์ทั้งสองนี้จึงไม่ก่อให้เกิดการระบาดขึ้นในประเทศไทย ยกเว้นผู้ที่กลับมาจากเกาหลีใต้ได้ก่อให้เกิดการระบาดเพียงเล็กน้อย แต่สามารถควบคุมได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เหตุการณ์ระบาดใหญ่ในประเทศไทยคือการระบาด 3 ครั้ง จากการแพร่ระบาดที่สนามมวยลุมพินี จากการขนแรงงานเถื่อนไปแพร่เชื้อให้ระบาดที่สมุทรสาครแล้วกระจายไปทั่วประเทศ และจากการแพร่ระบาดที่ผับมหาอิทธิพลที่ทองหล่อ ซึ่งทั้งสามครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดหายนะและความพินาศวายวอดแก่ทุกภาคส่วน จนกระทั่งมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดกว่าทั้ง 4 ครั้งที่ผ่านมา
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว อำนาจทั้งหลายในประเทศไทยรวมศูนย์ไปอยู่ที่นายกรัฐมนตรีผู้เดียว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายอำนาจนี้แก่ ศบค. ซึ่งประกอบด้วย หมอ ปลัดกระทรวง และรัฐมนตรีจำนวนหนึ่ง ใช้การประชุมสัปดาห์ละครั้งในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
ดังนั้นนับแต่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงต้องถือว่าความรับผิดชอบทั้งหมดในเรื่องนี้อยู่ที่นายกรัฐมนตรี โดย ศบค. เป็นผู้รับผิดชอบลำดับถัดมา ในฐานะที่เป็นผู้ชงเรื่องและกำหนดมาตรการต่างๆ ในการรับมือ ดังนั้นความสำเร็จหรือความล้มเหลว ความรุ่งเรืองหรือหายนะจึงเป็นผลได้ผลเสียของนายกรัฐมนตรีและ ศบค. โดยเฉพาะที่จะต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์แห่งชาติ
ใน 16 เดือนที่มีการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน สรุปได้ว่า
ประการแรก การประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโคบ้าได้ จนกระทั่งเกิดการระบาดใหญ่ในครั้งที่ 5 ซึ่งเกิดขึ้นจากการกระทำและละเว้นการทำหน้าที่ของผู้มีอำนาจหน้าที่ และโดยไม่มีผู้ใดรับผิดชอบแม้แต่คนเดียว ในขณะที่เกิดหายนะแก่ประเทศชาติและประชาชน
ประการที่สอง มีการปล่อยให้ปั่นกระแสให้ประชาชนตื่นตระหนกตกใจกลัวจนเกินความเป็นจริง ซึ่งเนื้อแท้ก็คือการบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ ซึ่งไม่มีประเทศไหนเขาทำกันเช่นนี้ และเห็นได้ชัดว่าที่ปั่นกระแสให้ตกใจกลัวนั้นก็เพื่อทำให้คนไทยต้องตัดสินใจเลือกฉีดวัคซีนที่มีการผูกขาดไว้อย่างแยบยล คณะหมออำมหิต 5 คนที่สมรู้การปั่นกระแสนี้คือจำเลยของชาติที่จะต้องถูกชำระสะสางในสักวันหนึ่ง
ประการที่สาม เกิดกระบวนการผูกขาดที่ใช้ชีวิตคนไทยทั้งชาติเป็นตัวประกัน ตั้งแต่การผูกขาดวัคซีน ผูกขาดชุดตรวจเชื้อโคบ้า ผูกขาดการกักตัวผู้ป่วย และผูกขาดการรักษา ซึ่งทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เพียงพอ ขาดแคลน และซ้ำเติมภัยพิบัติแก่ประชาชาติไทยทั้งปวง ซ้ำเติมเพิ่มภาระรายจ่ายของรัฐและประชาชนซึ่งไม่มีรายได้อย่างอำมหิตที่สุด
ถึงวันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าการผูกขาดวัคซีนนั้นล้มเหลว ไม่สามารถเทียบกับประเทศอื่นใดได้เลยแม้กับประเทศลาว การผูกขาดชุดตรวจเชื้อทำให้ราคาชุดตรวจประมาณ 200 บาท แต่ประชาชนถูกเรียกค่าตรวจระหว่าง 1,800-8,000 บาท และต้องตรวจถึง 2 ครั้ง ทำให้ประชาชนไม่สามารถกักตัวรักษาตัวเองที่บ้านได้ ต้องไปเข้ากักตัวในที่ที่กำหนด ซึ่งก่อให้เกิดภาระรายจ่ายแก่รัฐอย่างมหาศาล และสร้างความทุกข์เข็ญให้กับผู้ป่วย
การผูกขาดการรักษา กีดกันการใช้ยาแผนโบราณและแผนไทยไม่ให้ประชาชนได้ใช้สอย ปกปิดไม่บอกให้ประชาชนทราบว่าผู้ติดเชื้อโคบ้าที่ไม่มีโรคประจำตัวสามารถรักษาให้หายได้ตามอาการในชั่วเวลาเพียง 3-8 วัน ไม่ต่างกับไข้หวัดใหญ่
ปกปิดไม่บอกให้ประชาชนทราบว่าผู้ติดเชื้อโคบ้าที่มีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน หัวใจ ความดัน โรคเกี่ยวกับเลือด โรคไตและมะเร็ง เมื่อติดเชื้อโคบ้าแล้วทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน เป็นเหตุให้เสียชีวิตในระยะ 1-5 วัน ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้มีจำนวนไม่เกิน 1% ของผู้ป่วยทั้งหมด และไม่หาทางป้องกันแก้ไข เช่น การใช้ยาแอสไพรินกินทันทีเมื่อผู้ป่วยประเภทนี้ติดเชื้อ ก็จะป้องกันการเกิดลิ่มเลือดได้ ดังที่คณะแพทย์อิตาลีได้ประกาศการใช้เรื่องนี้แล้ว
ปล่อยให้มีการมั่วข้อมูลการเสียชีวิตโดยไม่เคยตรวจพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตว่าสาเหตุแท้จริงเกิดจากอะไร เหมารวมเป็นการเสียชีวิตเพราะโคบ้าทั้งหมด ซึ่งถือเป็นการหลอกลวงโดยปกปิดความจริงที่ควรบอกให้แจ้ง ก็แลเมื่อไม่เคยพิสูจน์ผู้เสียชีวิตแม้แต่คนเดียว จะเหมารวมว่าจะเสียชีวิตเพราะโคบ้าได้อย่างไร
ผลการตรวจพิสูจน์ศพของแพทย์อิตาลีพบว่า ผู้เสียชีวิตที่ถูกอ้างว่าเสียชีวิตเพราะโคบ้าเกือบทั้งหมดไม่ได้เสียชีวิตเพราะโคบ้า แต่เสียชีวิตเพราะเกิดลิ่มเลือดอุดตันและแบคทีเรียซึ่งเป็นผลมาจากปอดอักเสบ แต่ถูกเหมารวมในลักษณะลวงโลกเพื่อสร้างความตกใจกลัว
ไม่มีมาตรการในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยเลยแม้แต่มาตรการเดียว มีแต่มาตรการกู้เงินมาแจกแก่คนบางกลุ่ม ซึ่งถูกติเตียนตลอดมาว่าก้อนเงินจะไหลไปอยู่ที่เจ้าสัวทั้งนั้น
ดังนั้นถ้าจะปรับปรุงแก้ไขเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ความเดือดร้อนเสียหายจากการแพร่ระบาดครั้งนี้ก็ต้องทบทวนมาตรการที่ผิดพลาดและบกพร่อง รวมทั้งเพิ่มมาตรการที่จำเป็นที่ยังไม่เคยกำหนดขึ้นใช้เลย
แต่ดูไปแล้วก็เกินกำลังสติปัญญาความสามารถของศบค. ชุดปัจจุบัน จึงเป็นภาระรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องคิดอ่านแก้ไขปรับปรุงในเรื่องนี้ให้ทันท่วงที
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี