วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” แสดงให้เห็นสันดานของคนหลายกลุ่มทีเดียว แต่ก็เวียนว่ายอยู่กับบุคคลเดิมๆ ทั้งนั้น กลุ่มแรก พวกฉกฉวยผลประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่สำนึกถึงสังคมโดยรวม กลุ่มที่สอง พวกไร้สาระมือไม่พายเอาเท้าราน้ำไปวันๆ กลุ่มที่สาม “สัมภเวสี-โอปปาติกะ”เที่ยวสำรอกสำรากหาอำนาจทางการเมือง โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์และดั้นเมฆอันเป็นความถนัดและเชี่ยวชาญมาเหมือนเมื่อครั้ง “สับขาหลอกขึ้นทะเบียนคนจน” อย่างที่“ผู้เฒ่าเสนาะ เทียนทอง” เคยเขียนไว้ในหนังสือเรื่อง “รู้ทันทักษิณ”กับ “วาทกรรมคนตาบอดมันกลัวเสือเหรอ”
ล่าสุด “ทักษิณ”ปล่อยข่าวจอมปลอมผ่านทางโซเชียลเนตเวิร์ก “คลับเฮ้าส์” ที่ช่ำชองอีกครั้งว่าการฉีดวัคซีนแม้จะเสี่ยงไม่มาก แต่ก็มีความเสี่ยง เพราะทุกยี่ห้อเป็นแบบฉุกเฉิน การเลือกซื้อวัคซีนของไทย 2 ยี่ห้อ โดยผมงงว่าทำไมเลือกวัคซีนเลือก 2 ยี่ห้อนี้ ในเมื่อทั้งโลกรู้ว่าต้องไฟเซอร์ กับ โมเดอร์นา ถ้าจีนต้องซิโนฟาร์ม ทำไมไทยเลือก 2 อันนี้ และทุกคนต้องไปซื้อจากองค์การเภสัชกรรม ให้โรงพยาบาลไปซื้อต่อ วันนี้ไฟเซอร์หากเข้าไปดูเว็บไซต์ประเทศไทยมีเอาเข้ามาแล้ว แต่ว่าเอาเข้ามาไม่มาก
วันนี้วัคซีนยังไงก็ต้องใช้ รัฐบาลต้องเปิดเสรี นำเข้าวัคซีนได้แล้ว ภาคเอกชนจะออกเงินเองอะไรเองจะห้ามเขาทำไม อยากใช้งบหรือไง วันนี้ต้องใจกว้างอย่าเป็นคนมีปัญหา อาจมที่ขย้อนออกมาอย่างไม่สุดทั้งกรณีแซะว่าใจแคบไม่ปล่อยให้เอกชนนำเข้าเสรี “วัคซีนโควิด-19” แต่เลือกใช้ “งบประมาณ” ในการจัดซื้อ ทั้งที่แต่ต้นก็พล่ามว่า “วัคซีนทุกยี่ห้อเป็นแบบฉุกเฉิน ซึ่งทุกบริษัทจะจำหน่ายผ่านให้รัฐบาลอย่างเดียวเท่านั้น
ยัง“ทักษิณ”ยังถาโถมโหมไฟประเด็นการเมืองว่าการไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 ซึ่งสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหาร และทำลายความชอบธรรมทุกอย่าง แต่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีกลับมั่นคง เพราะมีเสียงสมาชิกวุฒิสภา 250 เสียงเป็นฐานหนุน เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะไม่มีพรรคการเมืองได้เสียงแบบหัวแตกเช่นนี้ แต่จะมีพรรคการเมืองที่ได้เสียงแบบถล่มทลายจนสมาชิกวุฒิสภาไม่กล้าเล่นบทฝักถั่ว
นี่คงไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นพฤติกรรมที่สำเหนียกข้อเท็จจริงแต่ไม่สำนึกหลอกลวงเอาศรัทธาประชาชนที่มองว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ไปสร้างกระแสแซะโจมตีรัฐบาลหวังผลทางการเมืองอีกครั้ง โดยมีลิ่วล้อทาสผู้สัตย์ซื่อใน “แอนิมอล ฟาร์ม” คอยส่งเสียงตอบรับประสาน ทว่า เมื่อมีข้อพิสูจน์จากหน่วยงานราชการก็ดี จากเอกชนต่างชาติก็ดี เสียงโหยหวนของสัมภเวสีและโอปปาติกะกลับเงียบหายไม่อธิบายความให้ชัดแจ้ง
เขียนอีกครั้งเผื่อผลบุญแห่งความจริงนี้จะมี อานิสงส์ถึงสัมภเวสีและโอปปาติกะนี้ว่า “ถ้าคิดได้ให้ช่วยคิด ถ้าคิดไม่ได้ให้ช่วยทำ ถ้าทำไม่ได้ให้ร่วมมือถ้าร่วมมือไม่ได้ให้กำลังใจ แม้ให้กำลังใจก็ไม่ได้ให้สงบนิ่ง”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี