สังเกตว่าในระยะหลังนี้สัมภเวสีหนีคุกตกต่ำสุดๆ เพราะสื่อต่างประเทศไม่เอ่ยชื่อถึงเลย ไม่เหมือนกับเมื่อคราวที่เคยไปจ้างล็อบบี้ยิสต์และบริษัทประชาสัมพันธ์ในสหรัฐฯ จัดการวิ่งเต้นหาสื่อฝรั่งจ้างลงข่าวเชียร์ให้พร้อมๆ กับปั่นกระแสข่าวทำร้ายประเทศไทย
มาวันนี้สื่อฝรั่งรับจ้างไม่ให้ความสนใจไม่เอ่ยถึงไม่เสนอข่าวให้ เท่าที่เราติดตามข่าวจากสื่อต่างประเทศตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมา แทบจะไม่มีข่าวสัมภเวสีหนีคุกแม้แต่ข่าวเดียว
วันนี้ล็อบบี้ยิสต์และบริษัทประชาสัมพันธ์ในอเมริกา ตลอดถึงฝรั่งขี้นกตกรถอยู่ในเมืองไทยมีเหยื่อตัวใหม่โอชะกว่าหลอกได้ง่ายกว่า คือเหยื่อที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าคณะสามสัสมาแทะกิน พวกอีแร้งตะวันตกเลยเทสัมภเวสีหันมาหากินกับคณะสามสัส
ข่าวสัมภเวสีหนีคุกก็เงียบหายไปในสื่อฝรั่ง ที่พอมีข่าวอยู่บ้างก็ประเภทผลัดกันเขียนเวียนกันอ่านผ่านกันชมอยู่ในเมืองไทย พูดง่ายๆ มันไร้ค่าในสายตาชาวโลกแล้ว นี่คือสาเหตุใหญ่ว่าทำไมสัมภเวสีหนีคุกจึงหิวแสงแรงกว่ากระสืออยากกินของโสโครก
จึงไม่แปลกใจที่เห็นมันโหนทุกอย่างที่ขวางหน้าเมื่อเห็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงพาไล่ให้ลุงลาออกให้ลุงยุบสภา มันก็เตี๊ยมกับสมุนบริวารให้ถามมันในคลับเฮ้าส์ว่าควรทำอย่างไร
สัมภเวสีหนีคุกที่ใช้ชื่อในคลับเฮ้าส์ว่าโทนี่ แต่พี่ เปลว สีเงิน แห่ง นสพ.ไทยโพสต์เรียกว่าโทนาฟ ซึ่งพ้องกับยาแก้น้ำกัดเท้ายี่ห้อหนึ่ง..กระแอมก่อนตอบว่า
“...วันนี้ถ้าเป็นระบอบประชาธิปไตย ถ้าศรัทธาประชาชนไม่มี จะต้องยุบสภาให้ประชาชนตัดสินใจ แล้วรัฐธรรมนูญแบบนี้ที่มี 250 สว. ยกมือสร้างความแข็งแกร่งให้นายกรัฐมนตรี แต่สร้างความอ่อนแอให้ประเทศ...
“ต้องถามว่าตู่เบื่อหรือยัง ปกติศรัทธาไม่มีต้องยุบสภาแล้ว แต่กลไกที่มาไม่เป็นอย่างนั้น...”
ขอตอบแทนลุงตู่ว่า..เบื่อมากๆ...เป็นการเบื่อพวกปากหมา...แต่จะยุบสภาหนีปัญหาหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเหมือนที่สัมภเวสีคุกเคยลุกขึ้นทำนั้นทำไม่ได้
เป็นผู้นำประเทศเมื่อชาติเกิดวิกฤติต้องอยู่เผชิญหน้าแก้ปัญหาไปร่วมกับประชาชน จะละทิ้งหน้าที่หนีเอาตัวรอดไม่ได้ หรือจะยุบสภาเมื่อเข้าตาจนพราะประชาชนนับล้านๆคนออกมาขับไล่แล้วยุบสภาเพื่อหาทางกลับมาใหม่เหมือนที่น้องสาวสัมภเวสีเคยทำนั้นก็ไม่ได้อีก
มุขเรียกร้องให้ยุบสภาจึงเป็นมุขแป้กไปไม่มีใครสนใจ เอาล่ะหามาเล่นมุขใหม่วันนี้มีข่าวว่าในคุกมีผู้ต้องขังติดโควิดเป็นหมื่นคน โหนกระแสคุกดีกว่าโทนาฟ เลยสำรอกออกมาในคลับเฮ้าส์ว่า
“ในคุก ในเรือนจำมีสนามฟุตบอล มีโรงอาหารดัดแปลงสถานที่เหล่านั้นมาทำเป็น รพ.สนามรักษาคนป่วยได้.#”.ถ้าตั้ง รพ.สนามแพงก็ไปขอให้พิมรี่พายตั้งให้#
“พิมรี่พาย” เป็นชื่อจัดตั้งของสาวนักขายออนไลน์ที่ชอบโวโอ้อวดเรื่องทำบุญเอาหน้าโฆษณาตัวเอง พอโทนาฟเอ่ยถึงเพียงห้าวินาที ก็ฉวยโอกาสสร้างความดังด้วยการแสร้งด่าโทนาฟ ว่าพูดพาดพิงทำให้เสียหายถึงกับอยู่เมืองไทยไม่ได้กลัวถูกด่าและก็ไม่อยากไปตายต่างประเทศ เช้าด่าโทนาฟตกบ่ายออกลายขออภัยสัมภเวสีหนีคุกแล้วลุกขึ้นมาแว้งกัดหมอวรงค์หาว่า#หมอเลียเธอ
“หมอวรงค์” ซึ่งก็เป็นหนึ่งในบรรดานักการเมืองหิวแสงพอเห็นพิมรี่พาย แสดงบทด่าสัมภเวสีก็ได้ทีชื่นชมสรรเสริญว่านางเป็นผู้กล้าหาญโดยไม่รู้เท่าทันมารยาหญิง 500 เล่มเกวียนเรียนไม่จบ
เลยโดนนางย้อนศรเอาเจ็บแสบว่า “หมอไม่เขินหรือที่ “เลียหนู” ท่านเป็นหมอจริงหรือคะ หรือเรียนเป็นหมอแต่แก่เป็น....คะ ท่านเลียดิฉันเก่งมาก..ฯ ถ้าจะสรรเสริญดิฉันทำไมไม่พูดตอนที่ดิฉันทำโซลาร์เซลล์ ฯลฯ
เรื่องผู้ต้องติดเชื้อโควิดในคุกเลยกลายเป็นเรื่องคนหิวแสงแสดงอาการอยากดังกันทั้งสามคน พากันโหนพากันปั่นกระแส แต่ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่คิดจะช่วยแก้ปัญหาที่คาราคาซังอย่างแท้จริง
นอกนั้นรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมซึ่งเป็นหนึ่งในมิตรชิดใกล้กับนายโทนาฟ กลับเพิ่มปัญหาด้วยการขู่ว่าจะจัดการกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ จนมีคนออกมาทัดทานดังที่คุณศุภมาส เสนะเวส เขียนในเฟซบุ๊คว่า
ระหว่าง รมว. กับ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ดร.อายุตม์ สินธพพันธุ์ ดิฉันเชื่อมั่นในคุณภาพและความรับผิดชอบของอธิบดีมากกว่า
ดร.อายุตม์ ชื่อเล่นๆ ว่าโต้ ย่อมาจาก ซีอาโต้ เติบโตมาตามวิถีการรับราชการเป็นคนมีความรู้ดี มีความสามารถ เป็นคนเก่งและเป็นสุภาพบุรุษ
#ความเป็นสุภาพบุรุษนี้สำคัญมาก
เราเคยเป็นอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติร่วมกัน ในชุดของพล.ต.อ.วันชัย ศรีนวลนัด
ดร.อายุตม์เป็นนักวิชาการแต่ก็มีความชัดเจน เด็ดขาด คิดอ่านรอบคอบ ยอมรับความเป็นจริง มีไอเดียในการบริหารและพัฒนาเรือนจำตลอดจนระบบต่างๆ อย่างดีตั้งแต่ไหนแต่ไรมา
เคยทำงานใกล้ชิดกับ ดร.นัทธี จิตสว่าง อดีตอธิบดี ลูกหม้อกรมราชทัณฑ์ อธิบดีที่ดีมากๆ คนหนึ่งของกรมตะรางแห่งนี้ ที่แม้จะโดนการเมืองเสียบร่วง แต่ก็ยังไปช่วยงาน สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย หรือ Thailand Institute of Justice (TIJ) จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศ ด้านการวิจัยและการพัฒนากระบวนการยุติธรรม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประเทศไทยในกรอบความร่วมมือกับสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกัน อาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา เชื่อมโยงแนวคิดตามหลักสากลสู่การปฏิบัติในระดับประเทศ และในภูมิภาคอาเซียน
และอันที่จริงดิฉันคิดว่ากรณีโควิด-19 ระบาดในเรือนจำนั้นคนที่ต้องประกาศความรับผิดชอบ ต้องเป็นผู้บริหารสูงสุด คือรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม นั่นแหละ
คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน แสดงความรับผิดชอบอะไรบ้างหรือยัง? นอกจากซัดทอดข้าราชการประจำ
คุณสมศักดิ์นั้นมีแผลลายพร้อยไปทั้งตัว สร้างความปวดกบาลให้กับข้าราชการประจำมากๆ ทั้งเรื่องกำไล EM ด้อยประสิทธิภาพ และมีแต่ของ ขาดระบบและบุคลากรรองรับอย่างเพียงพอ ดิฉันว่าคุณสมศักดิ์นั้น แทนที่จะไปคาดโทษท่านอธิบดี ลาออกเสียที จะยินดีมากๆ ค่ะ
ประเด็นระหว่าง รมว.ยุติธรรมกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์เราเห็นพ้องกับคุณศุภมาส ว่า รมว.ยุติธรรม มีข้อครหาข้อบกพร่องมากกว่าจริงๆ ไม่ว่าเรื่อง กำไล EM ด้อยประสิทธิภาพ หรือกรณีผู้ต้องขังคดีสำคัญและนักโทษชายที่รัฐมนตรีให้ท้ายจนผู้ต้องขังเหลิงคิดว่าเป็นใหญ่ทำอะไรได้ตามความพอใจ
ในกรณีนักโทษชายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ได้อภิสิทธิ์ใส่เสื้อนอกออกไปโชว์พรรคพวกในงานศพพ่อของ น.ช.ชาย ซึ่งรมว. ยุติธรรมสาบานได้ไหมว่าไม่ได้รับคำบัญชามาจากมิตรที่เคยชิดใกล้แต่อยู่แดนไกล ให้แก้ระเบียบเพียงหนึ่งวันก่อนปล่อยให้นักโทษชายใส่เสื้อนอกออกมาโชว์
กรณีจำเลยคดีอาญามาตรา 112 จำเลยระดับแกนนำ จะเหลิงถึงขั้นยืนอ่านแถลงการณ์ด่าศาลหน้าบัลลังก์ไม่ได้ ถ้ารัฐมนตรียุติธรรมไม่เคยเข้าไปให้กำลังใจให้ความมั่นใจพวกเขาถึงในเรือนจำ
และหลังจากจำเลยเหล่านั้นได้รับสิทธิ์ให้ใกล้ชิดกับแม่กับญาติมิตร พรรคพวกสหายได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดในห้องพิจารณาคดี และในขณะที่พวกพ้องห้อมล้อมนายเพนกวิน ตอนที่อ่านแถลงการณ์โจมตีศาล และระหว่างที่พูดคุยสัมผัสกันในวันที่ศาลอนุญาต
ไม่มีใครรู้ได้ว่าวันนั้น เวลานั้นใครเป็นคนนำพาหะเชื้อโควิดไปติดจำเลยคนใดคนหนึ่งบ้าง นอกนั้นระหว่างอยู่ในเรือนจำเลยในคดี 112 ยังขัดขืนไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่พาไปตรวจหาเชื้อไวรัส โดยอ้างว่ากลัวจะพาไปฆ่าหรือไปทำร้ายร่างกาย ถึงกับเขียนจดหมายเปิดผนึกออกมาประจานด้านนอกคุก
จนศาลต้องนำจดหมายขึ้นมาพิจารณาไต่สวนและอนุญาตให้เจ้าหน้าที่นำตัวจำเลยไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ตามระเบียบ คิดสิระหว่างจำเลยอยู่ในศาล ระหว่างเดินทางไปกลับจากศาลระหว่างที่จำเลยขัดขืนการตรวจเชื้อโควิดอาจติดไปแล้วก็ได้แต่ยังไม่แสดงอาการ โดยธรรมชาติผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำไม่มีวันจองหองขัดขืนผู้คุมหรือเจ้าหน้าที่ได้หากไม่มีผู้ใหญ่ระดับรัฐมนตรีให้ท้าย
ผู้ต้องขังที่คนระดับรัฐมนตรีเข้าไปให้กำลังใจถึงในคุกถ้าไม่ใช่ลูกหลานของผู้ยิ่งใหญ่ก็ต้องมีใครสั่งการมา จึงมีคนสงสัยว่าน่าจะสัมพันธ์กับคนแดนไกล นอกจากให้ท้ายจำเลยในคดีสำคัญแล้ว รัฐมนตรีท่านนี้ยังเลินเล่อทำให้เกิดติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ ในวันที่รัฐมนตรีปล่อยให้ฝูงชนเข้ารดน้ำดำหัวในเทศกาลสงกรานต์วันนั้นมีคนติดเชื้อถึง 55 รายตายไปสองคน
เรื่องนี้เราจึงเห็นพ้องกับคุณศุภมาส ว่าเรื่องติดเชื้อในเรือนจำเราโทษรัฐมนตรีมากกว่าจะลงโทษผู้บัญชาการเรือนจำ
ที่ทำแต่ความดีตลอดชีวิตของการทำงาน
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี