ความตายจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของประชาชนคนไทย จน คนไร้อารยะขาดจิตสำนึกออกมาเคลื่อนไหวหลังจากพยายามด้อยค่า “วัคซีนโควิด-19” ที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีจัดหามาฉีดให้แก่ประชาชนคนไทยโดยคำแนะนำของผู้รู้และกระทรวงสาธารณสุข และตามสถานการณ์โลกที่มีความเป็นไปได้ กระทั่งได้วัคซีน “ซิโนแวค และ ซิโนฟาร์ม” ของสาธารณรัฐประชาชนจีน และ “แอสตราเซเนกา”ที่ผลิตในประเทศไทย ตามความร่วมมือร่วมกับ “บริษัทแอสตราเซเนกาสหราชอาณาจักรและมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด” เจ้าของงานวิจัย “วัคซีน” ที่ถ่ายทอดเทคนิคอลโนว์ฮาวมาให้ “บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์” เป็นผู้ผลิตวัคซีน
แต่ผู้ไร้อารยะขาดจิตสำนึกกลับด้อยค่า “วัคซีน”และปัดสวะความตายนี้ให้เป็นฝีมือรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขเป็น “ฆาตกร” โดยคนที่ออกมา Call Out เหล่านี้ลืมตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูหน้าฆาตกรที่สังหารประชาชนอย่างแยบยลที่แท้จริง
คุณ(สังคมไทย)จำได้หรือไม่ เหตุการณ์เมื่อครั้งที่นางนวลจันทร์ ญาติประทุง เกษตรกรหญิงอายุ 52 ปีชาวต.ทุ่งใหญ่ อ.โพธิ์ประทับช้าง ที่ขึ้นเวที กปปส.คร่ำครวญวิงวอนขอความเห็นใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ช่วยจ่ายเงินค่าข้าวเปลือกที่นางละเมอหลงใหลได้ปลื้มเข้าร่วมโครงการเพราะคิดว่าจะทำให้นางลืมตาอ้าปากได้ มีเงินมาเป็นค่าเทอม ค่าอาหารกลางวันสำหรับลูกชายของนาง เพื่อจักได้เติบโตอย่างมีคุณภาพเป็นอย่าง “มดงาน” ในการพัฒนาประเทศวันข้างหน้า เพราะเมื่อไม่จ่ายค่าข้าวนางก็ไม่มีกินลูกก็อดตามไปด้วย ไม่ใช่แค่นางนวลจันทร์เพียงคนเดียวที่เจอเล่ห์จากโครงการนี้โครงการที่เขียนไว้ว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ”จนเกิดความเสียหายต่อตนเองและครอบครัว ชาวนาจำนวนไม่น้อยที่ต้องผูกคอตายเพราะโครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ดที่ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เนื่องจากเข้าร่วมโครงการแล้วไม่ได้รับเงินค่าข้าวเปลือก กี่ครอบครัวที่ต้องขาดผู้นำครอบครัวบ้าง สมาชิกในครอบครัวบ้าง
สังคมไทยคงไม่ลืมว่า “ฆาตกร” ในวันนั้น“คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย”ที่กล่าวหา “ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ก็อยู่ร่วมเป็นติ่งเป็นลิ่วล้อค้ำบัลลังก์ให้ “ฆาตกร” ได้ยื้ออำนาจทางการเมืองบริหารประเทศ กระทั่งออกกฎหมายอัปยศลักหลับประชาชน “นิรโทษกรรมสุดซอย”ให้คนในครอบครัวและพวกพ้องก่อนที่จะหลบหนีออกนอกประเทศไม่ดูดำดูดีเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ดำเนินการตามนโยบายที่ได้มีการดำเนินการ
คุณจำ “น้องโบว์-อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ”1 ในประชาชนผู้ร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภาด้วยสารระเบิด 2 ชนิด คือ C4 และ R.D.X. แก๊สน้ำตาที่ผลิตในสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2551 สมัยรัฐบาลนายสมชายวงศ์สวัสดิ์ คนที่ “เจ๊หน่อย-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” น่าจะสนิทคุ้นเคยดี ด้วยวัยเพียง 28 ปีเศษ วัยที่ยังอยู่เป็นความหวังเป็นอนาคตที่ดีของชาติได้อีกนาน เพราะอย่างน้อยนางจบปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
คุณเห็นหรือไม่ว่า ฆาตกรประเทศไทยยังเวียนว่ายอยู่รอบประเทศเพื่อขยี้ประชาชนในแผ่นดินแม่ที่สร้างความร่ำรวยอย่างฉ้อฉลให้แก่ตระกูลของตนเอง, พวกพ้อง และเครือญาติ
ฆาตกรที่คุณไม่เคยตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูหน้าพวกมัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี