การจะบอกว่าบ้านเมืองมีเสถียรภาพหรือไร้เสถียรภาพนั้น คงต้องแยกแยะระหว่างเสถียรภาพของรัฐประเทศกับเสถียรภาพของรัฐบาลในขณะนั้นเสียก่อน เพราะทั้ง 2 อย่างเป็นคนละเรื่องกัน หากแต่ก็มีความเกี่ยวโยงกัน ซึ่งในหลายๆ ประเทศ ฝ่ายที่เป็นรัฐบาลมักจะเหมาคิด (หรือสำคัญตน) ไปว่า เสถียรภาพของรัฐบาล ก็คือเสถียรภาพของประเทศ ของรัฐประเทศ หรือของบ้านเมือง
ในหลายๆ กรณีก็มิได้คำนึงว่า การยังคงบริหารราชการของตนต่อไปนั้น ได้ส่งผลกระทบที่เลวร้ายต่อเสถียรภาพของทั้งตนเอง และต่อรัฐประเทศ แล้วก็มาตู่ว่า ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองที่ทำลายเสถียรภาพรัฐบาลนั้น ก็คือการสร้างสภาวะไร้เสถียรภาพให้กับบ้านเมืองโดยอัตโนมัติ แล้วก็ทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเสถียรภาพรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการใช้กฎหมายเข้าจัดการโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อข่มขู่ผู้เห็นต่าง โดยลืมไปว่าต้นเหตุคือตัวรัฐบาลเองรวมทั้งไม่ควรจะเอาเรื่องเสถียรภาพของบ้านเมืองกับเสถียรภาพของตนเองมาปะปนกัน
รัฐบาลชุดปัจจุบันของไทยภายใต้การนำพาของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งได้ครองอำนาจมาร่วม 7 ปีกว่าแล้ว เมื่อมองด้วยจำนวนตัวเลขก็ถือว่ามีเสถียรภาพเป็นอย่างยิ่ง เพราะประกอบไปด้วยเสียง สว. เสียง สส. เสียงทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน เสียงรัฐวิสาหกิจ ไปจนถึงเสียงแซ่ซ้องจากวงการธุรกิจระดับสูง เสียงของแวดวงสื่อพาณิชย์ และบรรดาผู้มีอันจะกินเป็นการทั่วไป เรียกว่าปัจจุบันนั้นเป็นฐานเสียงทางการเมืองของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งทำให้สถานะ นายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชามีความมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง
อีกทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะปฏิวัติ คสช. สั่งเขียนขึ้นมาก็เอื้ออำนวยให้ พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา อยู่ในตำแหน่งต่อไป ซึ่งหมายถึงกฎหมายรัฐธรรมนูญมีความลักลั่นทางความเป็นประชาธิปไตย รวมทั้งมีการผูกปมให้การแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความแสนยากแสนเข็ญ ชนิดแทบจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มีปาฏิหาริย์
ฉะนั้น กล่าวได้ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะรัฐบาล มีความมั่นคง และมีเสถียรภาพ ทั้งด้วยตัวเลขและเนื้อหากฎหมายรัฐธรรมนูญดังกล่าว ชนิดคงจะไม่มีผู้ใดไปโค่นล้ม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ ทั้งจะด้วยวิถีทางทางรัฐสภา หรือด้วยวิถีทางทางภาคการเมือง ภาคประชาชน
แต่อย่าลืมว่า โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เพราะการไร้เสถียรภาพที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด ซึ่งหากจะเกิด ต้นเหตุต้นตอ ก็คงมิได้มาจากที่อื่นใด นอกจากตัว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เองด้วยว่า
1.ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง เพราะมัวแต่ทำตัวเป็น (ลูก) น้องแสนรักของ พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา
2.แวดล้อมด้วยนักการเมืองคร่ำหวอด ที่ฝักใฝ่แนวคิดอำนาจนิยม และใฝ่หาผลประโยชน์
3.ทีมงานมิใช่ผู้ร่วมคิด แต่มีลักษณะเป็นลูกน้อง ลูกคู่ หรือกองเชียร์
4.ผู้ร่วมคิดก็มีไม่กี่คน สะท้อนขีดความสามารถในการรับฟังผู้อื่นที่อยู่นอกกลุ่มของตน และสะท้อนความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจผู้ใด และสะท้อนการเอาตนเองเป็นที่ตั้ง
5.การโยนภาระรับผิดชอบไปที่บุคคลและหน่วยงานต่างๆ ทั้งที่ประเด็นปัญหาและคำถามที่ประดังเข้ามานั้น เกี่ยวกับตัวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และวิธีการบริหารราชการเป็นสำคัญ
6.การพูดจาต่อสาธารณชนที่เต็มไปด้วยคำวิงวอน ขอความเห็นอกเห็นใจ เรียกร้องให้ผู้คนประพฤติดี มีความสามัคคี มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต แต่ พลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา กลับแวดล้อมไปด้วยผู้คนที่ประพฤติตรงกันข้ามกับที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวร้องขอซ้ำซากจากประชาชนพลเมือง
7.การไม่คำนึงว่า การมีโครงสร้างประเทศที่ไม่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงนั้น ก็คือความขัดแย้งทางการเมือง
ฉะนั้น ผู้ที่ทำให้เสถียรภาพของคณะรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีความมั่นคงนั้นก็คือตัวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เอง
และการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐบาลไร้เสถียรภาพก็ทำให้เสถียรภาพของบ้านเมือง หรือรัฐชาติของไทยก็สั่นคลอนไปด้วย
สิ่งเดียวที่ทำให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถปกป้องเสริมสร้างเสถียรภาพของบ้านเมืองได้ก็คือสร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาลของตน ด้วยการทำงานที่ซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส และตอบสนองความต้องการของสังคมเท่านั้น
จะมาอ้างว่าการเรียกร้องจากกลุ่มคนต่างๆ นั้น ทำให้บ้านเมืองไร้เสถียรภาพนั้นไม่ได้ เพราะไม่เป็นความจริง และไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการเรียกร้องต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐบาลว่าไร้เสถียรภาพ และไร้ฝีมือ ยิ่งเป็นเรื่องที่ต้องรีบแก้ไข
อย่างไรก็ดี เรื่องที่ประชาชนไทยคาดหวังจะให้รัฐบาลประยุทธ์ทำนั้นคงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นวิธีเดียวที่น่าจะเหมาะสม ก็คือการตัดช่องน้อยแต่พอตัว ยอมอำลาจากตำแหน่งนายกฯ ไปเสีย แล้วปล่อยให้สังคมไทยไปว่ากันเองต่อไปว่าจะให้ใครขึ้นมานำประเทศแทน
เพื่อที่สังคมไทยจะได้ตั้งหลักใหม่ ให้คนอื่นที่พอจะมีความหวังมาบริหารประเทศ ซึ่งอย่างน้อยเสถียรภาพที่คนไทยคาดหวัง อาจจะกลับมาสู่สังคมไทยได้ในระดับหนึ่ง
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี