วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / อ่านระหว่างบรรทัด
อ่านระหว่างบรรทัด

อ่านระหว่างบรรทัด

สันติสุข มะโรงศรี
วันจันทร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2564, 02.00 น.
ทรัพย์สินกิจการดาวเทียม และขยะที่อยู่ใต้พรม

ดูทั้งหมด

  •  

สัญญาสัมปทานกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ระหว่างกระทรวงคมนาคม และบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ลงนามตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2534 อายุสัมปทาน 30 ปี สิ้นสุดสัญญาเมื่อ 10 กันยายนที่ผ่านมา


ในช่วงรัฐบาลก่อนหน้านี้ (โดยเฉพาะยุคทักษิณและยิ่งลักษณ์) ได้เกิดกรณีเอื้อประโยชน์แก่บริษัทเอกชนคู่สัญญากลายกรณี รวมถึงการถ่ายโอนทรัพย์สินกิจการดาวเทียม
ข้างต้นมาเป็นของรัฐหลังหมดสัญญาในยุครัฐบาลปัจจุบัน ก็ถูกจับตาว่าจะดำเนินการอย่างครบถ้วน หรือจะเอื้อประโยชน์แก่เจ้าของกิจการดาวเทียมคนใหม่หรือไม่ (ปัจจุบัน มีการขายหุ้นอินทัชไปให้คนอื่นแล้ว)

1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ

ชุดที่มี พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานกรรมการ มีบุคคลที่น่าเชื่อถือระดับอธิบดีกรมสรรพากร นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ และเลขาธิการ ก.ล.ต. นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล ร่วมเป็นกรรมการ ฯลฯ โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาฯ

ขอบเขตอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบ ตามคำสั่งนายกฯ ระบุว่า

“...เพื่อให้การตรวจสอบการดำเนินการต่างๆ ตามสัญญา และการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐเมื่อสิ้นสุดสัญญา เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชนในการรักษาไว้ซึ่งคลื่นความถี่และสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมอันเป็นสมบัติของชาติ ประกอบกับได้มีข้อร้องเรียนหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติเสนอแนะคณะรัฐมนตรีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว...

...ให้คณะกรรมการตามข้อ 1 มีอำนาจในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ความเป็นมา และการดำเนินการต่างๆ ตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ระหว่างกระทรวงคมนาคมและบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด รวมถึงนิติสัมพันธ์อื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสัญญาดังกล่าวในสมัยรัฐบาลต่างๆ ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบัน การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เสนอมายังคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ตลอดจนให้คำแนะนำแก่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการเจรจาและดำเนินการในเรื่องดังกล่าว และการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 การหาผู้ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่รัฐและประชาชนได้รับ และการแก้ไขปัญหาการดำเนินการภายหลังสัญญาสิ้นสุดโดยกำหนดกรอบในการเจรจาระหว่างคู่สัญญาให้ได้ข้อยุติที่เป็นธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยให้รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากบุคคลภายนอกได้...”

เท่ากับว่า สามารถตรวจสอบได้ครอบคลุมทั้งหมด เพียงแต่ไม่มีอำนาจลงโทษใคร มีหน้าที่รายงานนายกฯ และแนะนำกระทรวงดีอีเอส ล่าสุด ทราบว่า นัดประชุมกันวันจันทร์ที่ 13 ก.ย.นี้

2. กรณีดาวเทียมไอพีสตาร์ (ไทยคม4)

ปัจจุบัน ดาวเทียมไอพีสตาร์ยังใช้งานอยู่ (แม้จะเกินอายุใช้งานตามการออกแบบมาแล้ว)

แต่ปมสำคัญ คือ การที่รัฐบาลทักษิณปล่อยให้บริษัทเอกชนดำเนินกิจการดาวเทียมไอพีสตาร์ โดยไม่ต้องประมูลเป็นโครงการใหม่ ด้วยการสวมรอยเป็นไทยคม 4 (อ้างเป็นดาวเทียมสำรอง) อ้างเป็นดาวเทียมภายใต้สัญญาสัมปทานดาวเทียมสื่อสารในประเทศ ทั้งๆ ที่ ไอพีสตาร์ใช้ทำมาหากินกับลูกค้าต่างประเทศเป็นหลัก และมีเทคนิคแตกต่างจากดาวเทียมไทยคม 3

ลองคิดง่ายๆ สมมุติว่า บริษัทของนายก อบต.ได้สัมปทานเรือข้ามฟาก แต่ดันไปทำเรือโดยสารขนส่งคนตามลำน้ำ โดยอ้างว่าเป็นเรือสำรองของเรือข้ามฟาก อ้างเป็นส่วนหนึ่งของสัมปทานกิจการเรือข้ามฟาก ได้หรือไม่? แล้วการที่ไม่มีเรือข้ามฟากสำรองจริงๆ ก็ทำให้เกิดความเสียหายด้วย

ลองคิดดู... ในเมื่อไอพีสตาร์มีเทคโนโลยีแตกต่างจากดาวเทียมไทยคม 3 อย่างสิ้นเชิง แถมใช้แสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจในต่างประเทศเป็นหลัก ไม่สามารถอ้างว่าเป็นดาวเทียมสำรองของไทยคม 3 ซึ่งเป็นดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ

คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีทักษิณร่ำรวยผิดปกติ ชี้ชัดว่า ไอพีสตาร์เป็นดาวเทียมนอกสัญญาสัมปทาน เพราะเป็นดาวเทียมหลักดวงใหม่ ไม่ใช่ดาวเทียมสำรองของไทยคม 3

น่าคิดว่า ในเมื่อเป็นดาวเทียมคนละประเภท อยู่นอกกรอบสัญญาสัมปทานดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศที่บริษัทของทักษิณได้สัมปทานมาในยุครัฐบาล รสช.ปี 2534 ดังนั้น ก่อนจะประกอบกิจการ ภาครัฐย่อมจะต้องเปิดให้มีการประมูลแข่งขันตามกฎหมาย เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนเสนอโครงการใหม่อย่างเสรีและเป็นธรรม ทั้งในด้านการบริหารงาน และอัตราการจ่าย
ผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่รัฐ

เท่ากับว่า ประเทศชาติเสียหาย เพราะขาดดาวเทียมสำรองของไทยคม 3 ไปหนึ่งดวง จากการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทของทักษิณในขณะนั้นได้ยิงดาวเทียม “ไอพีสตาร์” ได้ประกอบธุรกิจดาวเทียมสื่อสารระหว่างประเทศไปโดยไม่ต้องมีการประมูล

ยิ่งกว่านั้น ในการไต่สวนพิจารณาคดีของศาลฎีกาฯ พบพฤติกรรมการกระทำอย่างอุกอาจ ทั้งใช้วิธีกระทำการลัดขั้นตอนในการปฏิบัติราชการ ในลักษณะที่รวบรัดและรีบเร่ง ผิดปกติวิสัย รัฐมนตรีคมนาคมขณะนั้นถึงกับอนุมัติคุณสมบัติดาวเทียมไอพีสตาร์เป็นดาวเทียมสำรองไปก่อน แล้วจึงมีการจัดทำหนังสือเวียนให้คณะกรรมการรับรองรายงานการประชุมภายหลัง เป็นต้น ศาลฎีกาฯ ชี้ว่า เป็นการกระทำที่เป็นการลัดขั้นตอนในการปฏิบัติราชการในลักษณะรวบรัด และรีบเร่ง เป็นการกระทำที่ผิดปกติวิสัย

ปัจจุบัน ยังไม่ปรากฏว่า ฝ่ายนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐรวมถึงเอกชนที่เกี่ยวข้องกับสัมปทานดาวเทียมพ่วงไอพีสตาร์ จะได้มีการชดใช้ ชดเชยผลประโยชน์แก่แผ่นดิน หรือถูกลงโทษจากกรณีนี้

3. ประเด็นเรื่องดาวเทียมไอพีสตาร์ ในมุมของบริษัทไทยคม

บริษัทไทยคมฯ ได้ยืนยันไว้ในรายงานประจำปีว่า ตนได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

“อีกทั้ง ในการดำเนินโครงการดาวเทียมไทยคม 4 บริษัทได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของวิธีปฏิบัติในทางสัญญาและกฎหมาย และได้รับอนุมัติจากกระทรวงฯ แล้ว ในภายหลังกระทรวงฯ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางที่เหมาะสม ซึ่งบริษัทได้มีการประสานงานกับกระทรวงฯ และคณะกรรมการฯ เพื่อดำเนินการต่างๆ ต่อไป”

4. การส่งมอบทรัพย์สินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ

ตามสัญญาสัมปทานข้อ 15 เรื่อง การโอนกรรมสิทธิ์ การส่งมอบ และรับมอบทรัพย์สิน

กำหนดไว้ชัดเจน สรุป คือ

บริษัทจะต้องยกกรรมสิทธิ์ของดาวเทียมทุกดวงให้เป็นของกระทรวงฯ หลังจากส่งดาวเทียมเข้าสู่ตำแหน่งวงโคจรและผ่านการทดสอบการใช้งานเรียบร้อยแล้ว

ส่วนสถานีควบคุมดาวเทียมและอุปกรณ์ต่างๆ ตกเป็นของกระทรวงฯ ทันทีหลังการจัดตั้ง และทดสอบประสิทธิภาพ โดยกระทรวงฯ จะมอบทรัพย์สินดังกล่าวให้บริษัทครอบครองเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการต่อไป

เมื่อสัญญาสิ้นสุดลง บริษัทต้องส่งมอบทรัพย์สิน สถานีควบคุมดาวเทียม และอุปกรณ์ต่างๆ ต้องอยู่ในสภาพใช้งานได้ดีส่วนดาวเทียมต้องอยู่ในสภาพใช้งานได้ ณ ตำแหน่งวงโคจร และบริษัทต้องส่งมอบสัญญาและเอกสารหลักฐานหรือเอกสารใดๆ ที่เกี่ยวกับการตกลงใช้บริการวงจรดาวเทียมของผู้ใช้วงจรดาวเทียมทุกรายให้แก่กระทรวงโดยทันทีด้วย

อย่าอ้อยอิ่ง อย่าปล่อยให้ใครอมของหลวง

อย่าปล่อยให้ใครครอบครองแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินของหลวงโดยมิชอบ อย่างไม่เป็นธรรม

มิฉะนั้น รัฐบาลปัจจุบันเอง ก็จะต้องรับผิดชอบ

5. ปมอื่นๆ ซุกใต้พรมกิจการดาวเทียม

สำหรับดาวเทียมไทยคม 1-6 บริษัทไทยคมยืนยันว่าเป็นดาวเทียมในสัญญาสัมปทานดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ เพราะฉะนั้น ก็ควรจะต้องส่งมอบทรัพย์สินให้ครบถ้วนตามสัญญา

ส่วนดาวเทียมไทยคม 7-8 อีกสองดวง บริษัทยืนยันว่าเป็นดาวเทียมนอกสัญญาสัมปทาน แต่ดำเนินการตามใบอนุญาตที่ได้มาในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์

อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2560 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เคยแจ้งไปยังบริษัทแล้วว่า ดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 เป็นดาวเทียมภายใต้สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ลงนามเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2534 ทั้งนี้ หนังสือจากกระทรวงดิจิทัลฯ ระบุให้ปฏิบัติตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารฯ ให้ครบถ้วนโดยด่วน อาทิ การโอนกรรมสิทธ์ิและส่งมอบทรัพย์สิน การจัดสร้างดาวเทียมสำรอง การชำระเงินผลประโยชน์ตอบแทน และการประกันภัยทรัพย์สิน

ขณะนี้ บริษัทไทยคมยื่นข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการเพื่อพิจารณาชี้ขาด เป็นข้อพิพาทหมายเลขดำ ที่ 97/2560 ขณะนี้ข้อพิพาทดังกล่าวอยู่ในกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ

กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้วินิจฉัยว่า คณะอนุญาโตตุลาการไม่มีอำนาจพิจารณาข้อเรียกร้องของบริษัทในข้อพิพาทดังกล่าวด้วย

ยิ่งกว่านั้น ล่าสุด นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปราบโกง เอาผิดกับบุคคลในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย

สันติสุข มะโรงศรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
23:00 น. รวบโจรเมียนมา สะเดาะกุญแจขโมยทองเพื่อน เผยได้วิชาจากบ้านเกิด
22:49 น. 'น้าหงา'แซะนักการเมือง 'ยึดสภาหากิน' หวังให้ลูกหลานสืบทอด แต่เพื่อนกลับ'ลักตีกิน'กันเอง
22:39 น. 'กาญจนบุรี'เจ้าภาพ จัดฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่51
22:17 น. ทนแรงกดดันไม่ไหว! 'รมว.แรงงานคิวบา'ประกาศลาออก เซ่นคำพูด'ประเทศนี้ไม่มีคนขอทาน'
22:11 น. แต่งตั้ง ‘พระรัตนโมลี’ เป็น ‘ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก’
ดูทั้งหมด
'สีกากอล์ฟ'ฟาดเรียบ ทั้งเจ้าอาวาส ทั้งคนขับรถ สารภาพถูกชวนมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง
ชุดทหารพรานก็ไม่รอด!! เขมรแต่งเครื่องแบบคล้ายชุดทหารพรานไทย สวนสนามต้อนรับ'ฮุน มาเนต'
‘ไพศาล’ปูดตั้ง‘วิษณุ’หัวหน้าทีมแก้ต่างคดี‘คลิปเสียง’ เปรียบรัฐบาลใช้ช่างทำรองเท้าไปทำฟัน
สุดทน!‘สุทิน’จี้ผู้รักษากฎหมายต้องขยับ ปล่อยให้‘สทร.’ย่ำยีประเทศไม่ได้อีกแล้ว
อดีตผู้พิพากษาเลคเชอร์ 6 ข้อ ‘ทักษิณ’ทำอย่างน้อย 4 ครั้ง เสี่ยงครอบงำ-‘พท.’อาจถูกยุบพรรค
ดูทั้งหมด
ศึกสองพ่อมด
คดีชั้น 14 โค้งสุดท้าย ใครส่อเค้าอาการวิกฤต
บุคคลแนวหน้า : 17 กรกฎาคม 2568
แก้รัฐธรรมนูญเพื่อขยายอายุผู้แทนราษฎร
รถไฟฟ้า 20 บาท : ทางลัดของประชานิยม หรือทางออกของปัญหา?
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รวบโจรเมียนมา สะเดาะกุญแจขโมยทองเพื่อน เผยได้วิชาจากบ้านเกิด

'กาญจนบุรี'เจ้าภาพ จัดฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่51

'บิ๊กเต่า'ซัดสำนักพุทธฯ ไม่จริงใจ-ปกปิดปัญหา หวั่นปล่อยไว้เป็นมะเร็งร้าย ทำพระพุทธศาสนาเสื่อม

'เพื่อไทย' ชี้นิรโทษกรรม ปลดบ่วงพันธนาการ 3,254 ชีวิต ทั้งเสื้อเหลือง-เสื้อแดง ยกเว้นคดี 112

ทนแรงกดดันไม่ไหว! 'รมว.แรงงานคิวบา'ประกาศลาออก เซ่นคำพูด'ประเทศนี้ไม่มีคนขอทาน'

แต่งตั้ง ‘พระรัตนโมลี’ เป็น ‘ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก’

  • Breaking News
  • รวบโจรเมียนมา สะเดาะกุญแจขโมยทองเพื่อน เผยได้วิชาจากบ้านเกิด รวบโจรเมียนมา สะเดาะกุญแจขโมยทองเพื่อน เผยได้วิชาจากบ้านเกิด
  • \'น้าหงา\'แซะนักการเมือง \'ยึดสภาหากิน\' หวังให้ลูกหลานสืบทอด แต่เพื่อนกลับ\'ลักตีกิน\'กันเอง 'น้าหงา'แซะนักการเมือง 'ยึดสภาหากิน' หวังให้ลูกหลานสืบทอด แต่เพื่อนกลับ'ลักตีกิน'กันเอง
  • \'กาญจนบุรี\'เจ้าภาพ จัดฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่51 'กาญจนบุรี'เจ้าภาพ จัดฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่51
  • ทนแรงกดดันไม่ไหว! \'รมว.แรงงานคิวบา\'ประกาศลาออก เซ่นคำพูด\'ประเทศนี้ไม่มีคนขอทาน\' ทนแรงกดดันไม่ไหว! 'รมว.แรงงานคิวบา'ประกาศลาออก เซ่นคำพูด'ประเทศนี้ไม่มีคนขอทาน'
  • แต่งตั้ง ‘พระรัตนโมลี’ เป็น ‘ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก’ แต่งตั้ง ‘พระรัตนโมลี’ เป็น ‘ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก’
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ประเทศชาติมีทางออก  อย่าเห็นแก่ตัว

ประเทศชาติมีทางออก อย่าเห็นแก่ตัว

14 ก.ค. 2568

ทางออกที่ไม่มีใครได้อะไรเต็ม 100% แต่ประเทศชาติไม่ตกหุบเหววิกฤต

ทางออกที่ไม่มีใครได้อะไรเต็ม 100% แต่ประเทศชาติไม่ตกหุบเหววิกฤต

7 ก.ค. 2568

คนไทยแสดงพลัง ตุลาการถึงเวลาทำหน้าที่

คนไทยแสดงพลัง ตุลาการถึงเวลาทำหน้าที่

30 มิ.ย. 2568

ราคาที่ต้องจ่าย

ราคาที่ต้องจ่าย

23 มิ.ย. 2568

ผู้นำเขมรลักไก่  รัฐบาลไทยอย่าแกล้งตีโง่

ผู้นำเขมรลักไก่ รัฐบาลไทยอย่าแกล้งตีโง่

16 มิ.ย. 2568

เถลิงประเทศชาติไทยทวี มีชัยชโย

เถลิงประเทศชาติไทยทวี มีชัยชโย

9 มิ.ย. 2568

ทักษิณเข้าคุก หรือไม่  ทุกฝ่ายต้องเคารพศาล

ทักษิณเข้าคุก หรือไม่ ทุกฝ่ายต้องเคารพศาล

2 มิ.ย. 2568

กรรม จากการปล่อยให้โกงข้าวจีทูจีเก๊

กรรม จากการปล่อยให้โกงข้าวจีทูจีเก๊

26 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved