ปัจจุบัน สารพัดปัญหารุมเร้าประเทศไทย
ตั้งแต่สึนามึจากภาษีทรัมป์ เศรษฐกิจในประเทศ การเมืองไร้ประสิทธิภาพ รัฐบาลขาดเสถียรภาพ นายกฯติดคดีหยุดปฏิบัติหน้าที่ ภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ ฯลฯ
1. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประกาศออกสื่อว่า การเมืองไทยไปต่อ มี 3 แนวทาง
(1) แพทองธารรอดพ้นคดีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมในศาลรัฐธรรมนูญ จากกรณีคลิปเสียงคุยกับฮุนเซน กลับมาทำหน้าที่นายกฯ รัฐบาลไปต่อยาวๆ
(2) ชัยเกษมเป็นนายกฯ
และ (3) ยุบสภา
2. ในความเป็นจริง... โอกาสที่นายกฯอุ๊งอิ๊งค์จะรอดจากคดีในศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะมีไม่ถึงครึ่ง
แม้รัฐบาลไทยจะยังไม่มีการเปิดด่านให้ตามที่ฮุนเซนต้องการ แต่คดีนี้คือเรื่องฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ไม่ใช่คดีอาญาที่จะต้องพิสูจน์เจตนาและความเสียหาย
ยกตัวอย่าง ถ้ามีคลิปเสียงนายกฯประเทศใดก็ตาม ลองไปคุยกับผู้นำชาติคู่ปรปักษ์ว่าจะถอนทหาร ว่าจะเอื้อประโยชน์ ต่อให้ยังไม่ได้กระทำจริง แต่เมื่อพูด แสดงออก แสดงท่าทีตกลงจะเอื้อประโยชน์ แถมด้อยค่าแม่ทัพนายทหารชาติตนเองต่อศัตรูผู้คุกคามอธิปไตยของชาติ มันก็ไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรง และนั่นเองคือความผิดทางจริยธรรมร้ายแรง เสื่อมเสียเกียรติภูมิของชาติแล้ว
กรณีนี้ แพทองธารมีโอกาสสูงที่จะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ
แต่ยังสามารถต่อสู้ในคดีอาญา ว่าไม่มีเจตนา ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายตามคำพูด
น่าคิดว่า ถ้าหากแพทองธารตัดสินใจลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย ก็อาจเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญจำหน่ายคดี เพราะไม่มีตำแหน่งให้วินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งตามคำร้องแล้ว
ผลที่ตามมา คือ จะไม่มีคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญตีตรา บันทึกในราชกิจจาฯ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นสารตั้งต้นประกอบการดำเนินคดีขยายผลต่อไปยังพรรคการเมืองที่แพทองธารมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค การปรับตำแหน่งรัฐมนตรีวัฒนธรรมให้ตัวเองก่อนศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดเพื่อหลบเลี่ยงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ ฯลฯ
ถ้าแพทองธารลาออก พรรคเพื่อไทยก็ยังมีอำนาจต่อรองไม่น้อยในการเลือกนายกฯคนใหม่
3. ผ่าทางตีบตัน เพื่อพาบ้านเมืองพ้นปากเหว
ถ้านายกฯอุ๊งอิ๊งค์ออก ผ่าทางตัน ไม่ต้องมีคำวินิจฉัยตีตรา คดีอาญาโอกาสรอดสูง สภาผู้แทนราษฎรเลือกนายกฯใหม่จากรายชื่อบุคคลบัญชีพรรคการเมือง
คุณทักษิณยืนยันจะต้องเป็นชัยเกษมนายกฯ นั่นคือทางที่คุณทักษิณเลือก
แต่ละทางเลือกของประเทศไทย ภายใต้เงื่อนไขจริงในปัจจุบัน เป็นอย่างไรบ้าง?
(1) ชัยเกษมนายกฯ โดยพรรคเพื่อไทยหันไปจับมือพรรคส้ม
แต่เงื่อนไขของพรรคส้ม คือ ต้องแก้รธน. ต้องยุบสภา โดยพรรคส้มไม่ร่วมบริหารในรัฐบาล
ทางเลือกนี้ สส. เพื่อไทยบางคนอาจฝันหวาน ฝันเห็นเก้าอี้รัฐมนตรีเพียบ แต่ถ้าไม่ไร้เดียงสาทางการเมืองก็ต้องรู้ว่านี่มันคือภาพลวงตาหลอกเด็ก
เพราะต่อให้ได้เก้าอี้จริง ในทางการเมืองรัฐบาลก็จะถูกส้มขี่คอ จะบีบเมื่อไหร่ก็ตายทันที จะให้ทำอะไรก็ต้องทำ จะต้องนิรโทษคดี 112 (ทักษิณ ธนาธร สส. พรรคส้ม ได้ประโยชน์ด้วย) แล้วจะทำได้อย่างไร เพราะ สว.สีน้ำเงินยืนยันไม่ปล่อยผ่านแน่ (คดีสว.ก็ยังอีกยาว) แถม สส. พรรคส้มก็กำลังจะถูกกกต.สอยอีกหลายสิบคน วุ่นวายแน่ คดีฝ่ายทักษิณก็เพียบ ถ้ายุบสภาเมื่อไหร่ โอกาสวุ่นวายฝุ่นตลบ อาจไม่ได้เลือกตั้งยาว อาจได้ไปอยู่ต่างประเทศกันทั้งตระกูล
ทางเลือกนี้ มีโอกาสน้อย มีไม่เกิน 10%
(2) ชัยเกษมนายกฯ โดยพรรคเพื่อไทยจับมือพรรคร่วมรัฐบาลเดิม รวมภูมิใจไทยด้วย เสียงกลับมาเสถียรภาพ
แม้คุณทักษิณจะประกาศผ่านสื่อล่าสุด ว่าไม่ปิดทางกลับมาจับมือร่วมงานกับภูมิใจไทย ถึงขนาดบอกว่า ถ้าจำเป็นต้องกลืนเลือดอีกหลายปี๊บก็ต้องทำ
คุณชัยเกษมก็ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า คิดจะดึงพรรคภูมิใจไทยกลับมาร่วมรัฐบาลด้วย
แต่เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยจะยอมมาร่วม ก็เมื่อ “สทร.” ยอมถอย และหนทางนี้จะต้องไม่มีนิรโทษ 112 กาสิโน แก้รธน. ฯลฯ
ข้อดี คือ รัฐบาลมีอำนาจเต็ม กำหนดนโยบายใหม่ตอบโจทย์วิกฤตในปัจจุบัน เร่งสร้างผลงาน ไม่มีเงื่อนไขกำหนดยุบสภา (แต่อยู่ได้ตามวาระ เหลือเวลาไม่ถึง 2 ปี)
ทางเลือกนี้ มีโอกาสเป็นไปได้ 25% สูงกว่าทางแรก
(3) อนุทินเป็นนายกฯ โดยพรรคภูมิใจไทยจับมือพรรคส้ม และพรรคร่วมเดิมบางส่วน
แต่รัฐบาลใหม่ก็จะมีเงื่อนไขของพรรคส้ม เหมือนข้อ (1) ซึ่งโอกาสที่พรรคภูมิใจไทยยอมรับได้ เป็นไป
ได้น้อย และรัฐบาลก็จะถูกส้มขี่คอเหมือน (1)
ทางเลือกนี้ จึงมีโอกาสเป็นไปได้น้อยที่สุด ไม่เกิน 5%
(4) ลุงตู่ เป็นนายกฯ ตามบัญชีของพรรค รทสช. ซึ่งเป็นพันธมิตรร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยในปัจจุบัน โดยพรรคร่วมเดิมจับมือกันหนุน
การยอมรับในตัวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (ลุงตู่) มีสูงมาก มีศักยภาพ มีบารมี ประสบการณ์สูง (แต่จะต้องพ้นจากองคมนตรีก่อน)
ที่สำคัญ ลุงตู่ไม่ใช่คู่แข่งการเมืองของพรรคอื่นๆ ในการเลือกตั้งสมัยหน้า
สทร. ต้องเกรงใจ (ยิ่งหากคดีชั้น 14 คดี 112 คดีศาลรัฐธรรมนูญของอุ๊งอิ๊งค์ คดีครอบงำพรรค ฯลฯ ไม่เป็นใจ สถานการณ์ในอนาคตก็จะบีบให้พรรคเพื่อไทยขาดเสาหลัก สส.อาจแตกรัง)
อนุทิน ก็นับถือ
กองทัพ คารวะ
เสียงประชาชนในโพลล์ต่างๆ เลือกให้มาอันดับหนึ่งในบัญชีนายกฯของพรรคการเมือง
ส่วนคุณพีระพันธุ์ มีคดีคาใน ป.ป.ช. และยังมีปัญหาในพรรค รทสช. อยู่ด้วย มีความเสี่ยง
หนทางนี้ รัฐบาลใหม่ไม่มีข้อจำกัดว่าต้องยุบสภาปลายปี สามารถเดินหน้าทำงาน ถอดสลักระเบิด แก้วิกฤต ฟื้นเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน ดับไฟปัญหาความมั่นคง ฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชน พาประเทศออกจากปากเหว ขึ้นจากการติดหล่ม ไม่มีแก้รัฐธรรมนูญ ไม่มีบ่อนกาสิโน (ถ้าจะมีก็ทำประชามติหรือพรรคการเมืองหาเสียงเอาสมัยหน้า) ไม่นิรโทษ 112 +คดีทุจริต เมื่อหมดสมัยก็ไปเลือกตั้ง พรรคการเมืองทุกพรรคก็แข่งขันต่อไป (อาจจะเหลือไม่กี่พรรค)
ทางเลือกนี้ จึงมีโอกาสเป็นไปได้กว่า 60%
3. “การเมืองไทย ไปต่อแบบไหนดี” สะท้อนอะไร?
ล่าสุด ผลสำรวจ “นิด้าโพล” เรื่อง “การเมืองไทย ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2568 ตอกย้ำทิศทางการเมืองไทย พบว่า
อันดับหนึ่ง ร้อยละ 42.37 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ควรประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อหานายกฯ คนใหม่
รองลงมา ร้อยละ 39.92 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ควรยุบสภาผู้แทนราษฎร
ร้อยละ 15.04 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ควรบริหารประเทศต่อไปเหมือนเดิม
ร้อยละ 1.37 ระบุว่า เรียกร้องให้มีการรัฐประหาร
นอกจากนี้ ในกรณีที่นายกฯแพทองธารพ้นจากตำแหน่ง บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯคนต่อไปตามรายชื่อผู้มีสิทธิเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ?
พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 32.82 สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (องคมนตรี -แต่เป็นแคนดิเดตจากพรรครวมไทยสร้างชาติ)
รองลงมา ร้อยละ 27.94 ระบุว่า ไม่สนับสนุนใครเลยตามรายชื่อผู้มีสิทธิเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ
ร้อยละ 11.53 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย)
ร้อยละ 10.92 ระบุว่าเป็น นายชัยเกษม นิติสิริ (พรรคเพื่อไทย)
ร้อยละ 9.77 ระบุว่า ใครก็ได้ตามรายชื่อผู้มีสิทธิเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ
ร้อยละ 3.82 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ)
ร้อยละ 1.83 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์)
ร้อยละ 0.84 ระบุว่าเป็น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ)
และเมื่อถามถึงว่าพรรคประชาชนควรร่วมลงชื่อกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อขอเปิดอภิปรายและลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ/หรือรัฐมนตรี หรือไม่
พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 64.43 ระบุว่า ควรลงชื่อเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และ/หรือ รัฐมนตรี
ผลโพลล์ทั้งหมดนี้ สะท้อนสถานการณ์ ICU ของพรรคเพื่อไทยและทักษิณ เพราะประชาชนต้องการให้พ้นจากอำนาจรัฐไปมากกว่า 80% (ลาออก 42.37% + ยุบสภา 39.92%) และหากเลือกนายกฯใหม่ คะแนนนิยมของคนในบัญชีพรรคเพื่อไทยก็มาอันดับที่ 4 แค่ 10.92% เป็นรองคุณอนุทิน พรรคภูมิใจไทย
ขณะที่พรรคส้มก็กำลังทำงานการเมืองสวนทางกับความคาดหวังของประชาชน ชื่อพรรคประชาชนแต่กำลังทำตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับ “ความต้องการของประชาชน” ละเว้นละเลยหน้าที่ฝ่ายค้าน ไม่ยอมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ยิ่งตอกย้ำข้อครหาดีลลับ คอยแอบเอื้ออำนวยช่วยเหลือพรรคเพื่อไทย หวังพึ่งพาอาศัยได้เป็นรัฐบาลในสมัยหน้า
จากโพลล์ล่าสุดนี้ คาดว่า เพื่อไทยยิ่งจะถอยห่างการยุบสภา เพราะสุ่มเสี่ยงทั้งกฎหมาย และประโยชน์ที่จะได้รับ
และถ้าอุ๊งอิ๊งค์พ้นตำแหน่ง โอกาสที่เพื่อไทยจะไปจับมือกับพรรคส้มตั้งรัฐบาลชั่วคราว เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ และยุบสภาก็น่าจะน้อยลงไปอีกด้วย จากสถานการณ์ทางการเมือง และคดีต่างๆ ที่จะบีบรัดมากยิ่งขึ้นหลังจากวันนี้
ประเทศชาติมีทางออก อย่าเห็นแก่ตัว
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี