วันจันทร์ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / อ่านระหว่างบรรทัด
อ่านระหว่างบรรทัด

อ่านระหว่างบรรทัด

สันติสุข มะโรงศรี
วันจันทร์ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
หนึ่งหมื่นคำแก้ตัว ไม่สู้ ‘กรรมชี้เจตนา’

ดูทั้งหมด

  •  

คดีนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ ประพฤติฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ดังปรากฏในคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย 29 สิงหาคมนี้

“อยากได้อะไรจะจัดการให้” – “ขอลุงเห็นใจว่าโดนคนไทยไล่ไปเป็นนายกฯเขมรแล้ว” - “ไม่อยากให้อังเคิลไปฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา อย่างแม่ทัพภาค 2 เป็นคนฝั่งตรงข้ามหมดเลย” ฯลฯ


ถึงวันนี้ มีประเด็นน่าสนใจ.. นายกฯอุ๊งอิ๊งค์จะไปให้ศาลไต่สวนด้วยตนเองหรือไม่? จะลาออกก่อนศาลวินิจฉัยชี้ขาดหรือไม่? และจะมีโอกาสรอดพ้นจากข้อกล่าวหามากน้อยแค่ไหนอย่างไร?

1. นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ จะไปให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน หรือไม่?

ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคล จำนวน 2 ปาก คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เวลา 10.30 น.

คดีนี้ ฝ่ายผู้ถูกร้อง นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ ขออนุญาตศาลรัฐธรรมนูญให้ไต่สวนพยานบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 ปาก 

แต่ศาลให้ไต่สวน 1 ปาก คือ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) 

ประการสำคัญ ศาลยังให้ไต่สวนตัวผู้ถูกร้องเอง คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพื่อให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ด้วย

หากนายกฯอุ๊งอิ๊งค์มั่นใจในความสุจริตของตนเอง มั่นใจว่าสามารถตอบคำซักถามได้ครบถ้วน ไม่หลุดจากคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร(ที่ทีมงานอาจประพันธ์ให้) เมื่อศาลนัดเช่นนี้ ก็น่าจะไปด้วยตนเอง

ขณะนี้ ตัวนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ยังไม่ยืนยันหรือปฏิเสธว่าจะไป ทั้งๆ ที่ หากจะไป ก็สามารถยืนยันได้ทันที

ถ้าไป ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นมืออาชีพ ย่อมซักถามเจาะลึกทั้งประเด็นที่ปรากฏในหนังสือชี้แจงของเจ้าตัว และประเด็นที่ตุลาการแต่ละท่านข้องใจสงสัย

อุปมา หนังสือชี้แจงของนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ เปรียบเหมือนตัวต่อเลโก้ที่ประกอบสำเร็จแล้ว โดยใช้ทีมงานมืออาชีพ หากนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ไปให้การเองก็จะถูกซักถาม เสมือนต้องประกอบเลโก้ขึ้นมาเอง ซึ่งหากมีความสุจริตใจจริง มีความรู้ความเข้าใจที่ดี หรือเขียนหนังสือชี้แจงเอง หรือเข้าใจในหนังสือชี้แจงของตนเองอย่างครบถ้วนจริง ย่อมไม่มีปัญหาที่จะชี้แจงให้การให้เป็นไปตามรูปการณ์ที่วางแผนไว้ แต่ถ้าผิดไปจากนั้น ก็คงบรรลัย

ผมเชื่อว่า นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ คงจะไม่ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนตนเอง

2. โอกาสของนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ ต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

คำชี้แจงของ น.ส.แพทองธาร ที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า การกระทำของตนเองตามข้อกล่าวหาของผู้ร้อง ไม่เป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการการเมือง พ.ศ. 2564 แต่อย่างใด 

อีกทั้ง การกระทำของตนเองก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนในความสุจริตและเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งแต่ประการใด ถ้อยคำที่ปรากฏ ก็เป็นการใช้เทคนิคการเจรจาพูดคุย เพื่อรักษาสันติภาพ และผลประโยชน์ของประเทศ ฯลฯ

หนังสือชี้แจงของนายกฯ มีเนื้อหายาวถึงหนึ่งหมื่นกว่าคำ!!!

2.1 ข้อเท็จจริง กับข้อขัดแย้ง

หนังสือชี้แจงของนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ อ้างว่า “ในช่วงเย็นวันดังกล่าว หลังข้าพเจ้าแยกย้ายกันคณะทํางานและอยู่เพียงลําพัง นายฮวดได้ติดต่อทางโทรศัพท์กลับมายังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นนายฮวดที่ติดต่อเข้ามาจึงรับโทรศัพท์ โดยไม่ทราบมาก่อนว่าจะต้องพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน แต่เมื่อข้าพเจ้าได้รับโทรศัพท์นายฮวดแล้ว นายฮวดได้แจ้งว่าจะเชิญสมเด็จฮุนเซน เข้ามาร่วมสนทนาด้วยในลักษณะการสนทนาทางโทรศัพท์ร่วม (Conference Call) ข้าพเจ้าจึงได้ตัดสินใจตอบรับที่จะสนทนาทางโทรศัพท์ร่วมดังกล่าวแม้จะอยู่เพียงลําพัง แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้พูดคุยกันเพื่อโน้มน้าวสมเด็จฮุนเซน ให้ช่วยเหลือในการร้องขอหรือประสานกับผู้นํารัฐบาล และกองทัพกัมพูชาให้หันหน้าเข้าสู่การเจรจาตามแบบพิธีการระหว่างประเทศเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนไทย –กัมพูชา...”

การชี้แจงแบบนี้ เป็นเพียงความพยายามลบล้างข้อครหาว่ามีการแอบสนทนาตกลงลับๆ กับฮุนเซน

ข้อเท็จจริงที่ปรากฏสิ้นสงสัย คือ คลิปเสียงสนทนานั้น ฝ่ายนายกฯอุ๊งอิ๊งค์จำยอมรับเนื้อหาตามคลิปเสียงว่าได้พูดคุยเช่นนั้นจริง

ส่วนเหตุการณ์ก่อนและหลัง ล้วนเป็นเรื่องเล่าเพิ่มเติมภายหลัง เพื่อประโยชน์ในทางคดีของผู้ร้อง ตามที่ สทร.นำไปเล่าปูทางไว้ก่อนนี้

บุคคลที่ถูกอ้างถึง ก็ล้วนแต่เป็นลูกน้องหรือผู้มีผลประโยชน์ร่วมกับผู้ถูกร้องทั้งสิ้น จึงต้องรับฟังอย่างระมัดระวัง

ความจริงที่ประจักษ์ คือ บัดนี้ ปมขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาลุกลาม ขยายตัว เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ คนไทย ทหารไทย เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

พี่น้องคนไทยต้องอพยพ เดือดร้อนมากกว่าแสนคน บ้านเรือนเสียหาย โรงพยาบาลถูกยิงถล่ม

ฝ่ายกัมพูชาบังอาจรุกรานคุกคามประเทศไทย โจมตีพื้นที่พลเรือน รุนแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เหมือนเล็งเห็นจุดอ่อนบางอย่าง

ในความเป็นจริง คดีของนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ เป็นประเด็นเรื่องฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง มิใช่คดีความผิดทางอาญาที่จะต้องพิสูจน์เจตนาเล็งเห็นผลและความเสียหายจากการกระทำโดยตรง

ยกตัวอย่าง คดีอดีตนายกฯเศรษฐา แต่งตั้งบุคคลที่มีปัญหาเป็นรัฐมนตรี โดยที่คนนั้นยังไม่ได้ใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีไปทำอะไรเสียหายอีก แต่ก็ถือว่าการกระทำของนายกฯเศรษฐาสำเร็จแล้ว แต่งตั้งแล้ว

หรือ ถ้ามีคลิปเสียงนายกฯประเทศใดก็ตาม ไปคุยกับผู้นำชาติคู่ปรปักษ์ว่าจะเอื้อประโยชน์ ต่อให้ยังไม่ได้กระทำจริง แต่เมื่อพูด แสดงออก แสดงท่าทีอ่อนข้อหรือเข้าเป็นพวกกับฝ่ายปรปักษ์ แถมด้อยค่าแม่ทัพนายทหารชาติของตนเองต่อศัตรูผู้คุกคามอธิปไตยของชาติว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรา ย่อมเป็นการกระทำไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรง การกระทำนั้นสำเร็จในตัวเองแล้ว

การพูด ท่าที การกระทำใดๆ ที่ไม่เหมาะสมร้ายแรงนั่นเอง คือ ความผิดทางจริยธรรมร้ายแรง ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งต่อไป เสื่อมเสียเกียรติภูมิของชาติ

การกระทำนั้น เกิดขึ้นสำเร็จไปแล้ว ตามคลิปเสียง

ไม่ว่าคลิปเสียงนั้น จะถูกแอบบันทึก แต่ความจริง คือ มีการกระทำเช่นนั้นเกิดขึ้นจริง

ตรงกันข้าม ลองคิดดูว่า หากไม่มีคลิปเสียงหลุด จะมีคำอธิบายว่าเป็นเทคนิคการเจรจาต่างๆ นานา แบบที่ปรากฏในขณะนี้หรือไม่

อดีตผู้พิพากษา อดีตตุลาการผู้ใหญ่ ให้ความเห็นว่า “เรื่องนี้ ไม่ใช่ว่ายังไม่เกิดความเสียหาย ประเทศเสียหาย มีผู้นำที่ทำท่ายอมเขาหมด ขนาดเอาตัวเป็นพวกกับปรปักษ์ เอาทหารผู้ใหญ่เป็นฝ่ายตรงข้าม ทำตัวเป็นพวกเดียวกันกับผู้นำชาติที่เป็นปรปักษ์ และกำลังคุกคามประเทศไทย ถ้าบอกว่าเป็นการโกหกในการเจรจา ในภาษาการทูตเขาก็มีวิธีพูดที่ไม่ใช่โกหกตอแหล”

2.2 อ้างเทคนิคการเจรจา ฟังไม่ขึ้น

หนังสือชี้แจงของนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ พยายามอ้างทำนองว่า คำพูดที่ไม่เหมาะสมนั้น เป็นเทคนิคการเจรจา เช่น

การเรียกผู้นําประเทศที่กําลังมีการปะทะกันทางการทหาร มีความขัดแย้งกันทางบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยว่า uncle (แปลว่า คุณลุง) และแจ้งว่า “จริงๆ แล้ว ถ้าท่านอยากได้อะไรก็ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้” รวมทั้งเรียกแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยซึ่งเป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อย่างเข้มแข็งเพื่อประเทศชาติและประชาชนว่า “ฝั่งตรงข้ามกับเรา”

หนังสือชี้แจงของนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ อธิบายว่า “...การใช้สรรพนามดังกล่าวสอดคล้องกับขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของสังคมไทย ดังนั้น การเรียกสมเด็จฮุนเซน ว่า “uncle” จึงไม่ได้เจตนาแอบแฝงอื่นนอกจากมารยาททางสังคมและความพยายามในการสร้างความไว้วางใจ”.... สําหรับถ้อยคําว่า “อยากได้อะไรก็ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้” ข้าพเจ้ามีแต่เพียงเจตนาที่ต้องการให้คู่เจรจาได้เสนอเงื่อนไขหรือความต้องการออกมาก่อน ซึ่งเป็นหลักการสําคัญของการเจรจาเชิงผลประโยชน์ (Principled Negotiation) โดยการใช้เทคนิคสําคัญคือการตั้งคําถามเพื่อค้นหาความต้องการที่แท้จริง (Interest-Based)...”

ส่วนถ้อยคําที่กล่าวถึงแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโทบุญสิน พาดกลาง) ว่าเป็น “ฝั่งตรงข้ามกับเรา” นั้น หนังสือชี้แจงของนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์อธิบายว่า“...นายฮวด คนสนิทของสมเด็จฮุนเซน พยายามอธิบายมูลเหตุของการที่สมเด็จฮุนเซน สั่งการให้มีการปิดด่านชายแดนของฝ่ายกัมพูชา เนื่องมาจากความไม่พอใจของสมเด็จฮุนเซน ที่มีต่อแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโทบุญสิน พาดกลาง) เป็นการเฉพาะเจาะจง ข้าพเจ้าจึงจําต้องใช้เทคนิคการเจรจาที่ แบ่งแยกปัญหาออกจากตัวบุคคล ไม่ได้เป็นการตําหนิติเตียนในทางลบหรือแสดงให้เห็นว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลไทยแต่อย่างใด... อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดความเข้าใจผิดขึ้น ข้าพเจ้าก็ได้มีการชี้แจงและกล่าวคําขอโทษต่อแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโทบุญสิน พาดกลาง) แล้ว และแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโทบุญสิน พาดกลาง) ยืนยันต่อสาธารณชน ว่าไม่ติดใจคลิปเสียงของข้าพเจ้าและไม่ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโทบุญสิน พาดกลาง)และไม่ได้มีผลกระทบต่อการทํางานของกองทัพแต่อย่างใด...”

น่าคิดว่า คำชี้แจงข้างต้น เป็นความพยายามอธิบายแก้ตัว หลังจาก “เสียลับ” หรือคำพูดหลุดออกมาสู่สาธารณะมากกว่า หรือไม่

คำพูดในคลิปเสียง ชัดเจนในตัวเอง แทบไม่ต้องตีความเป็นอื่น

ในคลิปเสียง นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ใช้คำว่า “ฝั่งตรงข้ามกับเรา” มิใช่เพียง “ฝ่ายตรงข้าม” เหมือนที่พยายามตัดคำว่า “เรา” ออกในหนังสือคำชี้แจง

แถมการกระทำของฝ่ายการเมืองรัฐบาลหลายประการ ยังมีลักษณะท่าที ทำให้สังคมคลางแคลงใจ ขัดแย้งกับกองทัพด้วยซ้ำ (เวลาเปิด-ปิดด่าน ท่าทีเย้ยหยันสื่อมวลชน ฯลฯ)

วิญญูชนย่อมคิดได้ว่า หากไม่มีคลิปเสียงหลุด จะมีคำอธิบายว่าเป็นเทคนิคการเจรจาต่างๆ นานา แบบที่ปรากฏในขณะนี้หรือไม่

หรือว่า หมายความตามที่คุยนั้นจริงๆ เพื่อเอาใจผู้มีอำนาจชาติคู่ปรปักษ์ แลกกับการกระทำอันใดที่อาจจะเกิดขึ้น หากไม่เสียลับครั้งนี้เสียก่อน หรือไม่?

2.3 อ้างว่า ไม่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของตำแหน่งนายกฯ หรือบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนฯ ฟังไม่ขึ้น

น่าคิดว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2568 ประชาชนคนไทยก้าวเท้าออกมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนืองแน่น เนืองนอง ล้นทะลัก ฝนตกหนักก็ไม่ถอย

เพราะปรากฏหลักฐาน ตำตา-ตำใจ ว่าผู้นำรัฐบาลประพฤติตนไม่เหมาะสมร้ายแรง สมควรลาออกจากตำแหน่งนั่นเอง

น่าสังเกตว่า ผลสำรวจนิด้าโพล “การเมืองไทยไปต่อแบบไหนดี” ตอกย้ำว่า ประชาชนต้องการให้แพทองธารพ้นจากอำนาจรัฐไปมากกว่า 80% (ลาออก 42.37% + ยุบสภา 39.92%)

ยิ่งกว่านั้น ผลสำรวจ “นิด้าโพล” เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ยังตอกย้ำว่า ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ไว้เนื้อเชื่อใจกองทัพมากกว่า

โดยกองทัพ มีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมาร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ

ซึ่งหากรวมที่ไว้ใจกองทัพมากและค่อนข้างไว้ใจ จะไว้ใจสูงถึง 95% !!!!

ขณะที่รัฐบาลไทย มีตัวอย่างเพียงร้อยละ 11.45 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 4.66 ระบุว่า ไว้วางใจมาก

แต่ร้อยละ 54.58 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 29.01 ระบุว่าไม่ค่อยไว้วางใจ

ซึ่งหากรวมที่ไม่ไว้ใจรัฐบาลเลยและไม่ค่อยไว้ใจ จะสูงถึง 84% !!!!

เรียกว่า ประชาชนไม่มีความไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งรวมถึงตัวนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์เอง ต่อการจะกลับมาแก้ปัญหาความมั่นคงนี้

เพราะฉะนั้น การอ้างว่าต้องการกลับมาบริหารประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริหารราชการแผ่นดินใดๆ ย่อมมีน้ำหนักเบาหวิว

น่าสงสัยด้วยซ้ำว่า หากได้กลับมาเป็นนายกฯ จะบริหารราชการแผ่นดิน ท่ามกลางวิกฤตศรัทธาและความเชื่อมั่นได้อย่างไร

2.4 อ้างพยานหลักฐานที่นําเสนอ ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฟังไม่ขึ้น

คลิปเสียงแอบอัด กรณีคดีบอส อยู่วิทยา ศาลปราบโกงก็ยอมรับคลิปเสียงดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานสำคัญในคดี

กรณีนี้ นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ยอมรับว่าเป็นเสียงสนทนาของตนเองจริง การสนทนาตามคลิปเกิดขึ้นจริง ย่อมน่าจะยอมรับหลักฐานนี้ได้

2.5 อ้างการกระทําในเชิงนโยบายระหว่างประเทศ ไม่อยู่ใต้การตรวจสอบของศาลรัฐธรรมนูญ ฟังไม่ขึ้น

ถ้ายอมรับคำอ้างนี้ ต่อไป นักการเมืองจะเจรจาลับกับผู้นำต่างชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ส่วนตัวกับของส่วนรวมอย่างไร ก็ไม่สามารถจะเอาผิด หรือห้ามปรามอะไรได้เลย

หากผู้นำประเทศมีพฤติการณ์เชิงสมคบคิดและแสดงออกซึ่งเจตนาในการใช้อํานาจหน้าที่ไปในทางตอบสนองต่อความต้องการของอริราชศัตรู ทั้งแสดงตัวตนด้วยคําพูดและการกระทําที่ทําให้เข้าใจได้ว่าเป็นฝ่ายเดียวกับอริราชศัตรูที่มีความมุ่งหมายรุกล้ำละเมิดอํานาจอธิปไตย ต้องการยึดครองแผ่นดินไทย รวมถึงทรัพยากรของชาติ ก็จะตรวจสอบลงโทษอะไรไม่ได้เลย

2.6 อ้าง สว. ผู้ร้อง ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต เพียงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มตน ฟังไม่ขึ้น

คำร้องตรวจสอบนายกฯอุ๊งอิ๊งค์เป็นไปตามกลไกรัฐธรรมนูญ ส่วนที่ สว.ถูกตรวจสอบนั้นก็ต้องพร้อมรับการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญเช่นกัน

ถ้าใช้ตรรกะเช่นนี้ แสดงว่า ฝ่ายค้านจะร้องตรวจสอบฝ่ายรัฐบาลไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

2.7 อ้างว่า ถ้าให้ตนพ้นตำแหน่งนายกฯ จะเข้าทางฮุนเซน ฟังไม่ขึ้น

หากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ตามระบบตรวจสอบของไทยพิจารณาชี้ขาดอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ไม่เกี่ยวกับความต้องการของฮุนเซนแต่อย่างใด

ตรงกันข้าม ถ้าใช้ตรรกะที่จะคำนึงว่าเข้าทางฮุนเซนหรือไม่ ก็เท่ากับเอาความต้องการของฮุนเซน มาอุ้มนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ให้อยู่ในตำแหน่งต่อไป แม้ว่าอาจจะฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง หรือแม้แต่ทำผิดกฎหมายไทยร้ายแรง

ทุกอย่าง ต้องเป็นไปตามกลไกตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายสูงสุดของราชอาณาจักรไทย

3. นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ จะลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หรือไม่?

จากข้อมูล ข้อเท็จจริง และคำชี้แจงของนายกฯที่ปรากฏต่อสาธารณะ เชื่อว่า นายกฯอุ๊งอิ๊งค์มีโอกาสรอดจากคำวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่งน้อยเหลือเกิน

สถานการณ์เช่นนี้ จึงเชื่อว่า นายกฯอุ๊งอิ๊งค์มีโอกาสจะลาออกก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย

ถ้าลาออกก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย อาจเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญจำหน่ายคดี เพราะไม่มีตำแหน่งให้วินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งตามคำร้องแล้ว

ผลที่ตามมา คือ อาจไม่มีคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญตีตรา บันทึกในราชกิจจาฯ ไม่ถูกประหารชีวิตทางการเมือง

แต่ถ้าไม่ลาออก แล้วถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด ให้พ้นตำแหน่งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุด มีผลผูกพันทุกองค์กร ย่อมถูกใช้เป็นสารตั้งต้นประกอบการดำเนินคดี ขยายผลต่อไปยังพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่นางสาวแพทองธารเป็นหัวหน้าพรรค

ด้วยเหตุนี้ พรรคส้ม จึงแอบส่งเสียงเชียร์ อย่าให้นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ลาออก

อย่างไรก็ตาม จะลาออกหรือไม่ คำตอบอยู่ที่ตัวนายกฯอุ๊งอิ๊งค์เองโดยแท้

จะฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ คำตอบและความรับผิดชอบทางประวัติศาสตร์ ก็อยู่ที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน

สันติสุข มะโรงศรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:07 น. 'อรรถกร'ลุย'ตาก' ติดตามปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำเขื่อนภาคเหนือ
21:51 น. ไฟไหม้ร้านไฟเบอร์กลาสรถยนต์วอดทั้งหลัง จนท.เร่งสอบสาเหตุ
21:46 น. 'CIB'ขยายผล จับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวลงใต้
21:31 น. อึ้ง!‘พ่อเมืองสงขลา’จัดคิว สั่ง‘นายอำเภอ’เวียนกันต้อนรับ–ส่ง‘เดชอิศม์’
21:29 น. บุกจับ'โซ่'มือปืนโหด ยิงถล่มเหยื่อ 6 นัด แต่รอดตายหวุดหวิด
ดูทั้งหมด
'น็อต วรฤทธิ์'ตั้งคำถามแรง'พรรคนี้มีไว้ทำไม' หลังสส.พรรคปชน. สาธิตสายไส้ไก่ห้ามเลือด
งงกันทั้งลำ! 'แอร์เอเชีย'ลงจอดผิดสนามบินในเกาหลีใต้
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2568
ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด 6 เจ้าหน้าที่รัฐ นำรถหลวงไปใช้ส่วนตัว
ไม่รอด! ป.ป.ช.ฟัน'พาณิชย์จังหวัด-2 นายก อบต.' รํ่ารวยผิดปกติ
ดูทั้งหมด
เรื่องข้อเท็จจริงในอีกแง่มุมหนึ่งของปัญหาความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา 2
รอดตุยหรือไม่?
ไม่กล้าตัดสินใจ ก็อย่าอยู่เป็นรัฐบาล
หนึ่งหมื่นคำแก้ตัว ไม่สู้ ‘กรรมชี้เจตนา’
ความอ่อนด้อยในภาวะสงคราม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไฟไหม้ร้านไฟเบอร์กลาสรถยนต์วอดทั้งหลัง จนท.เร่งสอบสาเหตุ

เปิดใจที่แรก! 'ชูษี เชิญยิ้ม'ควงลูกสาวเผยความในใจหลังคืนดี

กต.โต้ท่าที'กัมพูชา' ไม่รับข้อเสนอ'ไทย'ร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

อินโดฯระทึก! แผ่นดินไหว 6.0 เกาะสุลาเวสี บาดเจ็บ 29 ราย

อยู่เคียงข้างเสมอ! 'แพทย์สนาม'กำลังใจและกำลังกาย ของทหารชายแดน

'สถานทูตสหรัฐฯ'ตอบปม'ไมเคิล อัลฟาโร' ย้ำเป็นเรื่องของเอกชน

  • Breaking News
  • \'อรรถกร\'ลุย\'ตาก\' ติดตามปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำเขื่อนภาคเหนือ 'อรรถกร'ลุย'ตาก' ติดตามปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำเขื่อนภาคเหนือ
  • ไฟไหม้ร้านไฟเบอร์กลาสรถยนต์วอดทั้งหลัง จนท.เร่งสอบสาเหตุ ไฟไหม้ร้านไฟเบอร์กลาสรถยนต์วอดทั้งหลัง จนท.เร่งสอบสาเหตุ
  • \'CIB\'ขยายผล จับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวลงใต้ 'CIB'ขยายผล จับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวลงใต้
  • อึ้ง!‘พ่อเมืองสงขลา’จัดคิว สั่ง‘นายอำเภอ’เวียนกันต้อนรับ–ส่ง‘เดชอิศม์’ อึ้ง!‘พ่อเมืองสงขลา’จัดคิว สั่ง‘นายอำเภอ’เวียนกันต้อนรับ–ส่ง‘เดชอิศม์’
  • บุกจับ\'โซ่\'มือปืนโหด ยิงถล่มเหยื่อ 6 นัด แต่รอดตายหวุดหวิด บุกจับ'โซ่'มือปืนโหด ยิงถล่มเหยื่อ 6 นัด แต่รอดตายหวุดหวิด
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

หนึ่งหมื่นคำแก้ตัว  ไม่สู้ ‘กรรมชี้เจตนา’

หนึ่งหมื่นคำแก้ตัว ไม่สู้ ‘กรรมชี้เจตนา’

18 ส.ค. 2568

กริพเพน กับกองทัพอากาศไทย  ขยี้ใจฮุนเซน

กริพเพน กับกองทัพอากาศไทย ขยี้ใจฮุนเซน

11 ส.ค. 2568

เปลี่ยนรัฐบาล  เปลี่ยนสถานการณ์ประเทศไทย

เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนสถานการณ์ประเทศไทย

4 ส.ค. 2568

เชื่อกองทัพ ชาติพ้นภัย  หลงเหลี่ยมคนจัญไร ชาติอับปาง

เชื่อกองทัพ ชาติพ้นภัย หลงเหลี่ยมคนจัญไร ชาติอับปาง

28 ก.ค. 2568

โกงผ้าเหลือง ทรยศศรัทธา-บ่อนทำลายพระพุทธศาสนา

โกงผ้าเหลือง ทรยศศรัทธา-บ่อนทำลายพระพุทธศาสนา

21 ก.ค. 2568

ประเทศชาติมีทางออก  อย่าเห็นแก่ตัว

ประเทศชาติมีทางออก อย่าเห็นแก่ตัว

14 ก.ค. 2568

ทางออกที่ไม่มีใครได้อะไรเต็ม 100% แต่ประเทศชาติไม่ตกหุบเหววิกฤต

ทางออกที่ไม่มีใครได้อะไรเต็ม 100% แต่ประเทศชาติไม่ตกหุบเหววิกฤต

7 ก.ค. 2568

คนไทยแสดงพลัง ตุลาการถึงเวลาทำหน้าที่

คนไทยแสดงพลัง ตุลาการถึงเวลาทำหน้าที่

30 มิ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved