ปัญหาการค้าเหล้า-บุหรี่เถื่อนนั้น กำลังเป็นที่สนใจของภาคประชาชน โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลและภาพถ่ายต่างๆ ทางช่องทางสื่อ เชื่อมโยงการค้าเหล้า-บุหรี่เถื่อน กับเจ้าหน้าที่รัฐในจังหวัดภาคใต้
เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์กรตรวจสอบภาคประชาชนได้เปิดเผยภาพตำรวจใช้เครื่องบินตรวจขนเหล้าเถื่อนเข้ามาจากมาเลเซียเมื่อเดือน มี.ค. 2561 ผ่านมากว่า
สามปีแล้วก็ยังไม่สามารถเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ ต่อมาก็ได้มีการเปิดเผยถึงกรณีรถบรรทุกเหล้า-บุหรี่เถื่อนของกลางที่ตำรวจในภาคใต้ยึดไว้ได้ หายไปเมื่อเดือน พ.ย. 2562 ที่อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่มเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนี้ผ่านไปเกือบสองปีแล้ว ก็ยังไม่สามารถรวบรวมหลักฐานมาเอาผิดกับผู้กระทำผิดในการ “ไฮแจ็ค”ของกลางนี้ได้ ทั้งที่เป็นคดีฉาวและอุกอาจ
ขณะเดียวกันก็มีความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่รัฐในภาคใต้ ทั้งกรมศุลกากรและกรมสรรพสามิตต่างออกมาประชาสัมพันธ์นโยบายปราบปรามบุหรี่เถื่อนในภาคใต้อย่างแข็งขัน และมีการสนธิกำลังจับกุมบุหรี่เถื่อนลอตใหญ่ที่จังหวัดสงขลาได้มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท และบุกจับร้านค้าบุหรี่เถื่อนกลางเมืองหาดใหญ่ได้ 1 ร้าน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหากแต่ชาวเมืองหาดใหญ่รู้กันดีว่าร้านค้าบุหรี่เถื่อนในเมืองนั้นไม่ได้มีเพียง 1 ร้าน แต่มีเป็นสิบๆ ร้าน และหลายร้านเคยถูกจับมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็สามารถกลับมาเปิดขายต่อได้อย่างปกติมาตลอดจนปัจจุบัน แถมยังมีการขยายสาขา เพิ่มจำนวนร้านขึ้นมาก จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนในฟื้นที่กับการมีอยู่ของร้านค้าเหล่านี้
แต่เรื่องการค้าสินค้าหนีภาษีไม่ควรเป็นเรื่องชินตาหรือทำเป็น “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” ได้ เพราะนอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อผู้ค้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย รายได้ภาษีของประเทศ และที่สำคัญ ภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเองด้วย
เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ส่วนใหญ่มองว่าการค้าเหล้า-บุหรี่เถื่อนในภาคใต้เป็น “วิถีชีวิต” ของคนใต้ แต่ในความเป็นจริงคือมีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่หาประโยชน์จาก “วิถีชีวิต”ดังกล่าว เรียกรับผลประโยชน์จากผู้กระทำผิด หรือแม้แต่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายเหล้า-บุหรี่เถื่อนเสียเอง ส่วนเจ้าหน้าที่น้ำดีแม้ว่าก็ยังมีอยู่ รวมไปถึงร้านค้า หรือประชาชนทั่วไป ที่เข้าใจสถานการณ์ดีก็ได้แต่เอามือกุมขมับ แต่ก็คงไม่กล้าพูดอะไรมาก เพราะต้องอยู่ในพื้นที่ ทำให้ขบวนการค้าเหล้า-บุหรี่เถื่อนในภาคใต้ เกิดเป็นวงจรอุบาทว์และปัญหาฝังรากลึกมายาวนานจนทำให้กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป จนกลายเป็นปรากฏการณ์“จับเช้า เปิดบ่าย” ท้าทายการบังคับใช้กฎหมายของสรรพสามิต ศุลกากร ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองในพื้นที่สงขลา พัทลุง สตูล ยะลา ไปจนถึงตรัง
ขณะนี้ภาคประชาชนเกิดความตื่นตัวในปัญหาการค้าเหล้า-บุหรี่เถื่อนกันมากขึ้นแล้ว หลังจากที่สื่อมวลชนช่องทางต่างๆ ช่วยกันรายงานสถานการณ์ปัญหานี้กันมากขึ้น นอกจากนี้ ด้วยสื่อสังคมออนไลน์ก็ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายต่างๆ แชร์กันทั่วไปได้ง่ายและมากขึ้น จึงหวังว่า “ความแข็งขัน” ของหน่วยงานรัฐ ไม่ว่าจะเป็นกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต ตำรวจ และทหาร ในการปราบปรามเหล้า-บุหรี่เถื่อนในภาคใต้ จะมีอย่างต่อเนื่องและต่อไป มิใช่แค่การจับโชว์หลังเป็นข่าว และหวังว่าสักวันหนึ่งภาคใต้จะไม่มีร้านค้าเหล้า-บุหรี่เถื่อนเปิดท้าทายกฎหมายอีกแม้เพียงร้านเดียว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี