ขอชื่นชมทีมงานของนายกรัฐมนตรี “พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่จัดสรรเวลาให้ “ลุงตู่” ออกทีวีรวมการเฉพาะกิจแถลงการณ์เรื่องเปิดประเทศอย่างมีเงื่อนไขโดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย
แถลงการณ์ของ “พลเอกประยุทธ์” กล่าวถึงการเปิดประเทศอย่างมีเงื่อนไขคือ ให้ผู้เดินทางเข้าประเทศจากประเทศเป้าหมาย อาทิ จีน สิงคโปร์ อังกฤษ สหรัฐ ฯลฯ ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 โดสและผ่านการตรวจเชื้อ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางมาประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว
แถลงการณ์ของพลเอกประยุทธ์ออกมาเหมาะเจาะกับที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ประกาศยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบกำกับและผลิตวัคซีนตลอดถึงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในประเทศไทยได้มาตรฐานสูงเป็นอันดับสองของ
ทั่วโลก
WHO แถลงว่าหน่วยงานตรวจสอบกำกับและผลิตวัคซีนของประเทศไทยได้มาตรฐานสูงสุดเป็นที่สองของโลกในการจัดลำดับขององค์การอนามัยโลก ว่าด้วยเรื่องการกำกับตรวจสอบระบบการใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพ
วันที่ 17 สิงหาคม นางมารีแองเจลา ซีเมา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายยา เวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอนามัยขององค์การอนามัยโลก กล่าวในที่ประชุมสัมมนาเจ้าหน้าที่องค์การควบคุมตรวจสอบยา(International Conference of Drug Regulatory Authority (ICDRA) ซึ่งประชุมกันตั้งแต่วันที่20 ถึง 24 กันยายน 2564 ที่องค์การอนามัยโลกจัดลำดับมาตรฐานของประเทศสมาชิกทั่วโลกโดยการตั้งมาตรฐานเป็นเครื่องมือเหมือนกันทั่วโลก (Global Benchmarking Tool (GBT) เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพความปลอดภัยและความมีประสิทธิภาพของวัคซีน
GBT ประเมินผลในวงกว้างครอบคลุมถึงหน่วยงาน การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องใน 9 ภาคส่วนและหน่วยงานสำรองที่สนับสนุนการควบคุมตรวจสอบการจัดหาและการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน
เมื่อเดือนมิถุนายน ผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกได้ประเมิน การฉีดวัคซีนและทดสอบการควบคุมตรวจสอบกับมาตรฐานระดับโลกเพื่อให้ได้มาตรฐานตามกำหนดที่ติดตามภารกิจของประเทศไทย ทั้งนี้ได้ติดตามตรวจสอบมาตั้งแต่กลางปี 2561โดย GBT กำหนดมาตรฐานสากลมาประเมินสถานการณ์ปัจจุบันเป็นมาตรฐาน 1 ถึง 4 ระดับ
มาตรฐานระดับ 1 คือเบื้องต้นการกำกับควบคุมระบบ 2. การบ่งชี้ถึงวิวัฒนาการ 3.ความเสถียรในการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนที่ได้มาตรฐาน 4.ความสำเร็จสูงสุดในระบบกำกับควบคุมปฏิบัติการในระดับความก้าวหน้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
“ในปีหลังๆ นี้ประเทศไทยยกระดับการกำกับควบคุมและฉีดวัคซีนให้ตอบสนองกับความต้องการสูงขึ้นในประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวัคซีน 10 ชนิดที่จัดให้เด็กเล็ก ได้ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันกว้างออกไป” (แสดงว่า WHO ไม่เพียงแต่ยกมาตรฐานการตรวจสอบกำกับและการผลิตตลอดถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เท่านั้นแต่รวมถึงวัคซีนอื่นๆ รวมทั้งวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กเล็กด้วย : ผู้เขียน)
พัฒนาการที่ก้าวหน้าได้สะท้อนให้เห็นถึงความกระตือรือร้นที่องค์กรตรวจสอบกำกับวัคซีนของประเทศไทยเพื่อให้ได้รับการเชื่อถือ ดังนั้นวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยสามารถส่งออกไปยังภูมิภาคใกล้เคียงและทั่วโลกได้ การเร่งรัดพัฒนาและความพยายามยกมาตรฐานของศูนย์วัคซีนแห่งชาติเพื่อผลิตวัคซีนและเวชภัณฑ์อื่นๆ ให้เป็นที่เชื่อถือในระดับสากลยังคงดำเนินต่อไป” นางซีเมา
กล่าวสรุป
ดังที่ได้กล่าวแต่ต้นว่าพลเอกประยุทธ์เลือกเวลาออกแถลงการณ์ทางทีวีรวมการเฉพาะกิจ
ประกาศเปิดประเทศอย่างมีเงื่อนไขตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. และลดเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศไทยจากหลายประเทศที่มีกลุ่มเสี่ยงต่ำลงไปอีกตั้งแต่ วันที่ 1 ธ.ค. นับว่าเลือกเวลาเปิดประเทศได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ซึ่งทำให้เกิดความพอใจและมั่นใจจากหลายฝ่าย
การประกาศเปิดประเทศอย่างมีเงื่อนไขคือให้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศต้องฉีดวัคซีนกันโควิดครบ 2 โดสและตรวจโรคให้แน่ใจว่าไม่ติดเชื้อโควิด 72 ชม. ก่อนเข้าประเทศสร้างความพอใจให้การค้า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรม และธุรกิจ เกี่ยวเนื่องให้ได้หายใจหายคอขึ้นมาบ้างหลังจากซบเซามาสองปี และคำประกาศเปิดประเทศของพลเอกประยุทธ์ที่ผ่อนคลายข้อกำหนดมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. คงสร้างความมั่นใจให้แก่แขกระดับ VVIP ที่คาดว่าจะมาร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) เป็นกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งประเทศไทยจะรับมอบภาระหน้าที่ในฐานะเจ้าภาพจัดประชุม APEC
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาลกล่าว ว่าวันที่ 12 พ.ย.ที่จะถึงนี้ประเทศไทยจะรับมอบหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปกแต่จัดประชุมจริงในเดือนพ.ย. 2565 และสิ่งที่ทำให้ VVIP มั่นใจในการเดินทางมาประเทศไม่ใช่จากคำประกาศของพลเอกประยุทธ์ แต่เชื่อว่าผู้นำระดับโลกที่มาร่วมประชุมAPEC ให้ความมั่นใจในคำแถลงยกระดับมาตรฐานหน่วยงานตรวจสอบกำกับวัคซีนของไทยที่ได้มาตรฐานสูงเป็นอันดับสองของโลก โดยนางซีเมา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายยาเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอนามัยขององค์การอนามัยโลกมากกว่า
ประกอบกับวิกฤตโควิดในประเทศอยู่ในภาวะลดลงอย่างมีนัยส่วนหนึ่งมาจากการมีวินัยมากขึ้นของคนไทยแต่ส่วนสำคัญน่าจะมาจากการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ประชาชนทั่วประเทศให้อยู่ในระดับที่เรียกว่าภูมิคุ้มกันหมู่ Herd Immunity ได้ หมายถึง70% ของประชากรทั่วประเทศได้รับวัคซีนครบโดส
สถานการณ์ฉีดวัคซีนทั้ง 77 จังหวัด ณ วันที่ 12 ต.ค.2564 - หมอพร้อม รายงานการให้บริการวัคซีน COVID-19 วันที่ 11 ตุลาคม 2564 เวลา 23.13 น. ฉีดสะสมแล้ว 61,235,035 โดส
แบ่งเป็น เข็ม 1 ฉีดสะสม 35,579,655 โดส
เข็ม 2 ฉีดสะสม 23,921,460 โดส
เข็ม 3 ฉีดสะสม 1,732,734 โดส
และเข็ม 4 ฉีดสะสม 1,186 โดส
แบ่งตามผู้ผลิตวัคซีนดังนี้
AstraZeneca 27.543 ล้านโดส
Sinovac 21.232 ล้านโดส
Sinopharm 10.048 ล้านโดส
Pfizer 2.404 ล้านโดส
Johnson & Johnson 7 พันโดส
จากสถิติใหม่ประเทศไทยฉีดวัคซีนได้ถึงวันละ 700,000 โดส จึงมั่นใจว่าคำแถลงเปิดประเทศภายในสิ้นปีของนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูงมาก
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี