เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา “นารีขี่ม้าขาว-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ค ผ่านแฟนเพจที่ชื่อว่า “Yingluck Shinawatra”เรียกร้องเชิญชวนให้สังคมไทยมาศึกษาเหตุการณ์อุทกภัยใหญ่ปี 2554 ที่มาของวาทกรรม “อมตะเอาอยู่” จากคลิปสารคดีของ “พรรคเพื่อไทย”ที่มาสัมภาษณ์เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ ความทรงจำ การบริหารจัดการน้ำเมื่อ 10 ปีก่อน ที่ควรเร่งแก้ไข เพื่ออนาคตที่ดีของคนไทย
ต้องมาย้อนบอกเล่าในพิบัติภัยครั้งนั้นที่ยังความเจ็บปวดร้าวลึกของสังคมไทยครั้งหนึ่งก็ว่าได้ โดยเหตุการณ์นั้นเป็นมหาอุทกภัยรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และลุ่มแม่น้ำโขง เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม และสิ้นสุดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 มีราษฎรได้รับผลกระทบกว่า 12.8 ล้านคน ธนาคารโลกประเมินมูลค่าความเสียหายสูงถึง 1.44 ล้านล้านบาท อุทกภัยดังกล่าวทำให้พื้นดินกว่า 150 ล้านไร่ (6 ล้านเฮกตาร์) เป็นทั้งพื้นที่เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมใน 65 จังหวัด 684 อำเภอ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4,086,138 ครัวเรือน13,595,192 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 11.20 ล้านไร่ บ่อปลา,บ่อกุ้ง, หอย 231,919 ไร่ ปศุสัตว์ 13.41 ล้านตัว มีผู้เสียชีวิต 813 รายใน 44 จังหวัด สูญหาย 3 คน
แกนนำพรรคเพื่อไทยอธิบายว่า ณ วันนั้น รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาทำงานพร้อมกับมวลน้ำมหาศาล และเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากที่ไหลหลากเข้ามา คลิปวีดีโอสารคดี “น(า)ทีวิปโยค :10 ปีมหาอุทกภัย” นั้นเป็นการสัมภาษณ์น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯที่หลบหนีคดีไปอยู่กับ “นายทักษิณ ชินวัตร”, นายปลอดประสพสุรัสวดี รองนายกฯและมือปราบจระเข้, นายกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกฯ และนางทวิดา กมลเวชช ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภัยพิบัติและคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์
ตอนหนึ่งยิ่งลักษณ์บอกว่า รู้ตัวตั้งแต่ช่วงหาเสียง 49 วัน แล้วว่าน้ำมา เพราะมีพายุเข้า และรู้ว่าต้องเร่งระบายน้ำ แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งก็ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เนื่องจากยังไม่มีอำนาจในการบริหารประเทศต้องรอแถลงนโยบาย ทำให้น้ำในเขื่อนหลักๆเต็มเกิน 100% ไปทั้งหมดแล้ว ขณะที่พื้นที่ กทม. จะระบายน้ำทันทีก็ไม่ได้ ด้วยความไม่พร้อมหลายอย่าง ทั้งขยะ ทั้งผักตบ รวมถึงต้องทำงานร่วมกันหลายหน่วยงาน ทั้ง กทม.และกรมชลฯ ซึ่งพอถามถึงกุญแจเปิดประตูระบายน้ำ ก็บอกว่าคนถือกุญแจไม่อยู่
ยิ่งลักษณ์ เล่าอย่างปลาบปลื้มว่า เมื่อรู้ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้นจะมาพบทั้งที่ไม่ได้นัดหมาย ก็คิดว่าดี เพราะเขาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน จึงเชิญนายอภิสิทธิ์เข้ามาดูแผนงาน เล่าให้ฟังว่าจะทำอะไร เขาก็มีคอมเมนต์ให้ฟังก็รับความเห็นนั้นไว้แล้วนำไปปฏิบัติ พรรคเพื่อไทยใช้งบประมาณราว 2-3 หมื่นล้านบาทเพื่อช่วยเหลือประชาชนเท่าที่จะทำได้ ฟื้นฟูดูแลและช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนแบบเร่งด่วน ไม่ว่าจะเกษตรกร แรงงาน และอุตสาหกรรม เยียวยาทั้งหมด ทั้งเรื่องของดอกเบี้ย ประสานงานกับธนาคารที่จะให้ดอกเบี้ยพิเศษ ลดหนี้ให้เกษตรกร
ทั้งหมดนี่คือคำบอกเล่าที่บอกผ่านคลิปวีดีโอของพลพรรคเพื่อไทยที่พยายามฟื้นความหลังผลงานคุณภาพคับแก้วเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่รัฐบาลทหารแก่ขจัดปัญหาปัจจัยกายภาพตามนโยบายทวงคืนผืนป่าไว้ล่วงหน้า ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องปัจจัยกายภาพ และสามารถแก้ไขปัญหาปัจจัยด้านการบริหารจัดการน้ำล่วงหน้าด้วย ทำให้การป้อนน้ำเข้าสู่ระบบสูบและอุโมงค์ระบายน้ำของกรุงเทพมหานครมีความสมดุล
“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมแผนป้องกันและรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน สั่งการให้ครม.ลงพื้นที่ให้กำลังใจและช่วยเหลือประชาชน แนะนำให้ประชาชนเรียนรู้และปรับตัวและให้กรมชลฯเร่งระบายน้ำจากพื้นที่ตอนบนที่ประสบอุทกภัยลงพื้นที่ลุ่มต่ำและแม่น้ำยม
“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ยังคุยเขื่องเรื่องแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมใน จ.สุโขทัย อย่างยั่งยืน โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น เน้นการพัฒนาอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็ก ระยะกลาง เน้นการปรับปรุงลำน้ำที่ตื้นเขิน การปรับปรุงคลองระบายน้ำรอบเมืองสุโขทัยอย่างต่อเนื่อง และระยะยาว สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จะขับเคลื่อนการปรับปรุงคลองหกบาท คลองยม-น่าน ให้สามารถระบายน้ำได้ดีขึ้น พัฒนาแก้มลิงทะเลหลวง และแก้มลิงวังทองแดง รวมทั้งการเติมน้ำใต้ดินจากน้ำท่วมขังบริเวณบางระกำ เสียดายที่ทั้งแผนอนาคตประเทศไทยและแผนบริหารจัดการน้ำต้องหยุดชะงักลง เพราะถูกระงับไป
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการที่พูดแล้วทำไม่ได้ก็ไม่ต่างจาก“หมาเห่าใบตองแห้ง”ที่ไร้สาระ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี