นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ในนามกลุ่มรีโซลูชั่น นำทัพเอ็นจีโอและซึ่งนักการเมืองฝังใจฝักใฝ่ในการปฏิวัติ 2475 เข้าสู่สมรภูมิสงครามตัวแทนในรัฐสภา ผลที่ออกมาหา Solutionไม่ได้ แพ้พ่ายในสภาไร้อาวุธทางปัญญามาสู้กับความจริง
ยุทธศาสตร์ของตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาคือใช้เครือข่าย Open Society Foundation ของนายจอร์จ โซรอส กับ The National Endowment for Democracy (NED)ของสหรัฐอเมริกา ให้เอ็นจีโอ แอมเนสตี้ฯ ไอลอว์ และนักการเมืองฝังใจในการปฏิวัติเป็นทัพหน้าในสมรภูมิสงครามตัวแทนทั้งในและนอกสภา อ้างว่าต่อสู้เพื่อเสรีประชาธิปไตย เพื่อสิทธิมนุษยชน และเพื่อความเท่าเทียมในสังคมบังหน้า สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย กัดกร่อนบั่นทอนความมั่นคงภายในของประเทศเป้าหมายให้กลายเป็นสงครามกลางเมือง
สงครามตัวแทนที่ตะวันตกเลือกใช้นักรบกล้าฆ่าตัวตายทางการเมืองไม่กลัวคุกไม่กลัวตาราง สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในประเทศเป้าหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอ็นจีโอในเครือข่ายของ NED และ Open Society Foundation ของนายจอร์จ โซรอส ปฏิบัติการส่วนหน้าประสบความสำเร็จหลายประเทศในตะวันออกกลางและทวีปแอฟริกา แต่พ่ายแพ้ทุกสมรภูมิในตะวันออก รวมทั้งประเทศไทย
ในประเทศไทยสาเหตุความพ่ายแพ้ในสงครามตัวแทนของฝ่ายตะวันตกคืออาวุธทางปัญญา ที่นักรบในสงครามตัวแทนไม่ได้ศึกษาความเป็นมาของประวัติศาสตร์ไทยไม่ได้ศึกษาสังคมวัฒนธรรมจารีตประเพณี ผู้นำทัพในสงครามตัวแทนเหล่านี้ล้วนแต่ได้รับการศึกษาและถูกล้างสมองมาจากเมืองนอกเมืองนา พวกเขาจึงเอาแต่มุ่งมั่นค้นคว้าศึกษาการปฏิวัติในฝรั่งเศสการปฏิวัติบอลเชวิคในรัสเซีย
เมื่อกลับมาประเทศไทยนักรบในสงครามตัวแทนของตะวันตกจึงได้ฝักใฝ่ฝังใจการปฏิวัติของคณะราษฎรเมื่อปี 2475 ที่คนทั่วไปเรียกกันว่า 24 มิถุนายน 2475 เป็นวันปล้นพระราชอำนาจ และพระราชทรัพย์
แต่นักรบสมัครเล่นในสงครามตัวแทนของตะวันตกเรียนรู้การปฏิวัติในปี 2475 แค่งูๆ ปลาๆ จึงเป็นสาเหตุของการพ่ายแพ้มาในหลายสมรภูมิที่ผ่านมา และล่าสุดนักรบในสงครามตัวแทนนำทัพมาพ่ายแพ้ในสภา เมื่อร่างแก้ไข รธน. ฉบับประชาชนที่นำเสนอโดยกลุ่มรีโซลูชั่นจึงถูกคว่ำในสภาตั้งแต่วาระแรก
นายพริษฐ์ หลานชายคนโปรดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถูกอุปโลกน์ให้เป็นทัพหน้าอ่านร่างแก้ไขแก้รัฐธรรมนูญฉบับสุดโต่งที่มีเป้าหมายล้มล้างทุกองค์กรในสภา
แต่นายพริษฐ์เป็นได้แค่ตัวออกแขกเปิดฉากการแสดงในสภาก่อนที่นักปฏิวัติตัวจริงคือนายปิยบุตรแสงกนกกุล ผู้รับภารกิจสืบทอดต่อปณิธานคณะราษฎร ปี 2475 และตามมาด้วยนักรบในสงครามตัวแทนจาก NED ไอลอว์ และ แอมเนสตี้ฯ ก็พาเหรดดาหน้ากันออกมาด่านายกรัฐมนตรีในสภาและเหน็บแหนมไปถึงสถาบันสูงสุดของชาติ
นักรบในสงครามตัวแทนของ NED ชี้แจง (ด่านายกฯ)ในสภาว่ารัฐธรรมนูญที่ผ่านการลงประมติกว่า 16.8 ล้านคน ถูกสั่งให้แก้ไขในบางมาตราในหมวดที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อนประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา
เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ชี้แจงในสภาเน้นไปที่หมวดพระมหากษัตริย์ นอกจากด่านายกรัฐมนตรีว่ารับคำบัญชามาแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้ว ผู้ชี้แจงยังฉวยโอกาสนี้โจมตีรัฐบาลที่ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมายอาญา โดยใช้ภาษาที่หยาบคายเหมือนที่เคยใช้ในเวทีชุมนุม ถูกประธานนายชวน หลีกภัย เตือนถึงสองครั้งแต่ก็อนุโลมให้พูดได้เพราะเห็นว่ายังเยาว์วัย
นอกจากนั้นผู้แทนจากไอลอว์ในฐานะผู้ชี้แจงยังได้ฉวยโอกาสใช้สภาโจมตีรัฐบาลในเรื่องการดำเนินคดี และขัดขวางการเคลื่อนไหวโจมตีสถาบันของคณะราษฎรยุคใหม่ในสภา ราวกับว่าเป็นวาระอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีดังที่ สว.สมชาย แสวงการ เปรยกับผู้เขียนก่อนประชุมว่า
“เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ท่านประธานชวน ต้องบรรจุตามระเบียบ เราก็รู้กันอยู่ว่า มันเป็นอีกหมากหนึ่งของ NED และพวก ที่ใช้ไอติม ปิยบุตร ทำลายสถาบันและประเทศ”
หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล โพสต์ในเฟซบุ๊คก่อนอภิปรายญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของกลุ่มรีโซลูชั่นว่า
#ยุทธการ น้ำเซาะทราย พยายามเซาะ สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ล้มเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศชาติให้เป็นสาธารณรัฐ#
ถ้าอยู่ในโลกของความเป็นจริงและยอมรับความจริงคณะรีโซลูชั่นหรือคณะราษฎรยุคใหม่จำแลง รู้ตั้งแต่ต้นว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสุดโต่งนี้ไม่มีวันผ่านสภา แต่ที่ใช้ความพยายามหารายชื่อมาให้ได้ถึงแสนสามหมื่นกว่ารายเพื่อผลักดันญัตติเข้าสภาด้วยจุดมุ่งหมายด่ารัฐบาลมาให้ร่างหมายผ่านสภา เพื่อแสดงผลงานให้ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังได้สะใจ
รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขของคณะรีโซลูชั่นมีเป้าหมายล้มล้างทุกสถาบัน อันดับแรกคือ ให้ยกเลิกวุฒิสภา และกำหนดให้มีสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียวโดยให้เหตุผลว่านานาอารยประเทศใช้ระบอบสภาเดียว และระบอบสองสภาเป็นมรดกตกทอดจากการปฏิวัติ 2490 ที่ใช้ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันนั่นคือ วุฒิสภามาจากการแต่งตั้ง
นายปิยบุตรบิดเบือนข้อมูลและชี้แจงความจริงเสี้ยวเดียวในสภาโดยไม่พูดถึงประวัติศาสตร์ที่เขียนว่า
“รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 ได้กำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกผู้แทนราษฎร 2 ประเภท คือ สมาชิกประเภทที่ 1 มาจากผู้ที่ราษฎรเลือกตั้งขึ้น โดยถือจำนวนราษฎรสองแสนคนต่อผู้แทน จำนวนทั้งสิ้น 78 คน สมาชิกประเภทที่ 2 มาจากผู้ที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งขึ้น จำนวนทั้งสิ้น 78 คน
สส.ประเภท 1 มาจากการเลือกตั้ง สส. ประเภท 2มาจากการแต่งตั้งซึ่งเป็นสองสภาโดยปริยาย แถมคณะราษฎรยังปล้นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์โดยการแต่งตั้ง สส. ประเภท 2 จากพรรคพวกตัวเองตามอำเภอใจ
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ยังบันทึกด้วยว่า
“ภายหลังประเทศไทยมีแยกออกเป็น 2 สภาครั้งแรกคือเมื่อ พ.ศ. 2489 โดยมีสภาผู้แทนราษฎร และพฤฒสภาและหลังจากปฏิวัติ 2490 เปลี่ยนมาเป็นวุฒิสภา”
แต่นายปิยบุตรมาตัดตอนจากการเปลี่ยนจากพฤฒสภามาเป็นวุฒิสภาว่าเป็นมรดกตกทอดของคณะปฏิวัติ 2490 โดยละเว้นที่จะพูดว่าเป็นการปฏิวัติในหมู่คณะราษฎรกันเอง
นายพริษฐ์กับนายปิยบุตรเป็นนักเรียนอังกฤษและนักเรียนฝรั่งเศสที่ทั้งสองประเทศยังปกครองโดยระบอบสองสภาแต่กลับอ้างว่าระบอบสองสภาสิ้นเปลืองล้าหลังและไม่ยึดโยงกับประชาชน จึงมีคำถามถึงนายพริษฐ์ว่าประเทศอังกฤษมี “สภาขุนนาง (House of Lords) และสภาสามัญชน (House Of Common) ถามว่าสภาขุนนางที่สืบทอดทางสายเลือดยึดโยงกับประชาชนไหม?
นอกจากนั้นยังมีประเทศที่อ้างว่าเป็นผู้นำระบอบเสรีประชาธิปไตยอย่างสหรัฐฯและประเทศอื่นๆ อีกมากมายที่ใช้ระบอบสองสภาทำไมคณะรีโซลูชั่นถึงมาจำเพาะเจาะจงให้ประเทศไทยใช้ระบอบการปกครองแบบสภาเดียว
ในร่างของคณะรีโซลูชั่นคือการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นสภาเดียว และให้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแก่สภาผู้แทนราษฎร โดยให้อำนาจสภาฯแต่งตั้งคณะผู้ตรวจการเข้าไปตรวจสอบแทรกแซงควบคุมการทำงานขององค์กรอิสระ อาทิ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง คณะกรรมการเลือกตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติด้านความมั่นคงให้อำนาจสภาผู้แทนราษฎรแต่งตั้งคณะผู้ตรวจการเข้าไปตรวจสอบการทำงานของกองทัพไทยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นจอมทัพตามกฎหมาย นี่เป็นวาระซ่อนเร้นเพื่อแก้แค้นใช่หรือไม่
ที่กลุ่มรีโซลูชั่นมุ่งมั่นจะล้มล้างให้ได้เพราะองค์กรอิสระเหล่านี้มีภาระหน้าที่ป้องกันปราบปรามไม่ให้กลุ่มคนที่ทุจริต กลุ่มผู้มุ่งร้ายทำลายสถาบันบั่นทอนความมั่นคง
ของชาติ ผู้ที่มุ่งร้ายทำลายวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามไม่ให้มีที่ยืนบนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์นี้
ในห้วงเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาองค์กรอิสระโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคดีและตัดสินให้ผู้มีอำนาจที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเลยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีมาแล้วหลายราย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอดีตนายกรัฐมนตรีสองพี่น้องที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่และหนีโทษจำคุกไปจากประเทศไทย ที่หลายฝ่ายสงสัยว่าอดีตนายกรัฐมนตรีสองพี่น้องเป็นผู้สมคบกับต่างชาติและบงการให้สมุนบริวารที่ยังอยู่ในประเทศไทยเคลื่อนไหวทำลายองค์กรอิสระตลอดถึงสั่นคลอนสถาบันสูงสุดของชาติทั้งในสภาและนอกสภา เพื่อให้ได้กลับมามีอำนาจโดยให้ต่างชาติสนับสนุนและแทรกแซงกิจการภายในได้ตามความพอใจ
แต่ประเทศไทยมีพระสยามเทวาธิราชปกป้องคุ้มครองตลอดเวลา พระสยามเทวาธิราชจึงได้ดลจิตดลใจให้รัฐสภาคว่ำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่ม
รีโซลูชั่นตั้งแต่วาระแรกด้วยคะแนน 473 ไม่รับหลักการต่อ 206 คะแนน จากสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่ 723 คน โดยมีสส.ลงคะแนนไม่รับหลักการ 249 คน และรับหลักการ206 คน ส่วนวุฒิสภาไม่รับหลักการ 224 คน รับหลักการเพียงสามคนเป็นอันว่าญัตติแก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนโดยการนำของกลุ่มรีโซลูชั่นถูกคว่ำในสภาวาระแรก
จึงสรุปว่าความพยายามของกลุ่มรีโซลูชั่นหรือคณะราษฎรรุ่นจำแลงเป็นอันพับไปไม่มี Solution ใดๆจากสงครามตัวแทนในสมรภูมิรัฐสภา
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี