วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เมื่อสองเดือนก่อนสหรัฐได้เชิญผู้นำทางทหารของอาเซียนทุกประเทศไปประชุมกันที่สหรัฐและประกาศความเป็นพันธมิตรที่จะร่วมมือกัน แต่มิได้ระบุว่าเป็นพันธมิตรกันเพื่อจะทำศึกสงครามกับใคร จึงทำให้กลุ่มประเทศอาเซียนที่ไปประชุมสามารถตีขลุมได้ว่าเป็นพันธมิตรกันเฉยๆ คือไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามประสาประเทศอาเซียน
ทำให้สหรัฐดีอกดีใจเป็นอันมาก เพราะในการดำเนินยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกนั้นจำเป็นที่จะต้องได้กลุ่มประเทศอาเซียนมาเป็นพันธมิตรเพื่อการต่อต้านรัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียนนั้นตั้งอยู่ระหว่างกลางของสองมหาสมุทร คือมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก
ถ้าหากอาเซียนเป็นพันธมิตรในลักษณะพันธมิตรร่วมรบเพื่อการต่อต้านหรือทำสงครามกับรัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือแล้ว สหรัฐก็สามารถใช้ภูมิภาคนี้ประสานกองกำลังทั้งหลาย โดยเฉพาะสามารถใช้ภาคพื้นดินเป็นฐานกำลังสำคัญในการทำสงครามระยะยาวได้ แต่นั่นไม่ใช่ผลประโยชน์ของอาเซียนซึ่งไม่ต้องการเป็นศัตรูกับใคร เพราะวัตถุประสงค์ของอาเซียนนั้นก็คือการรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกันในทางเศรษฐกิจและกิจการระหว่างประเทศ
ซึ่งตลอดระยะเวลานับแต่ก่อตั้งอาเซียนเป็นต้นมาถึงครึ่งศตวรรษแล้ว อาเซียนก็ได้ยึดมั่นหลักการดังกล่าวอย่างเหนียวแน่น จึงทำให้อาเซียนมีพลังการต่อรองในทางสากลเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของกลุ่มประเทศอาเซียน
อาเซียนคงทราบเจตนาลึกๆ ของสหรัฐเป็นอย่างดี ดังนั้นการไปประชุมหารือความเป็นพันธมิตรดังกล่าวจึงกลายเป็นพันธมิตรกันแบบหลวมๆ แต่ที่แน่นอนก็คือไม่ใช่พันธมิตรในการเป็นศัตรูกับใครหรือทำสงครามกับใคร
จู่ๆ เมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้ รัสเซียก็จัดการซ้อมรบบ้าง และได้เชิญประเทศอาเซียนทุกประเทศให้ส่งเรือรบเข้าร่วมซ้อมรบกับรัสเซียด้วย และบรรดาประเทศอาเซียนทั้งหลายก็ส่งกองเรือรบเข้าไปร่วมซ้อมรบกับรัสเซียตามคำเชิญนั้น และแน่นอนว่าย่อมทำให้รัสเซีย รวมทั้งจีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือพลอยยินดีปรีดาตามไปด้วย
รัสเซียชวนอาเซียนไปซ้อมรบก็เช่นเดียวกัน ไม่ได้ระบุชัดว่าไปซ้อมรบเพื่อจะรบกับใครประเทศอาเซียนจึงเข้าร่วมการซ้อมรบโดยเข้าใจว่าเป็นการซ้อมรบเฉยๆ แทนที่จะปล่อยให้เรือรบจอดว่างๆ อยู่ก็เท่านั้น
ที่น่าสังเกตก็คือเหตุใดรัสเซียจึงจัดซ้อมรบทางนาวีกับกลุ่มอาเซียนในพื้นที่แถบช่องแคบมะละกา ช่องแคบซุนดา และช่องแคบแลมบอร์ก ซึ่งเป็นสามช่องแคบสำคัญที่จะเชื่อมต่อกับมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมีกองเรือที่ 5ของสหรัฐประจำการอยู่ และสามารถเชื่อมต่อกับออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ลงไปอีกไกลโพ้น
ความจริงรัสเซียได้วางกองเรือดำน้ำไปวางกำลังอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมานานแล้ว เท่าที่ปรากฏเป็นข่าวก็ตั้งแต่ช่วงที่สหรัฐในสมัยประธานาธิบดีทรัมป์เคลื่อนกองเรือบรรทุกเครื่องบิน 4 กองใหญ่ไปกดดันเกาหลีเหนือและก็ยังคงวางกำลังซุ่มอยู่อย่างนั้น แต่คราวนี้เป็นการซ้อมรบของเรือรบผิวน้ำ แต่จะมีการประสานกับกองเรือดำน้ำอย่างไรไม่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งเป็นธรรมดาของการเคลื่อนไหวทางการทหาร
การซ้อมรบตรงพื้นที่นี้รัสเซียได้ใช้กองเรือสำคัญจากกองเรือแปซิฟิกซึ่งมีภาระรับผิดชอบภารกิจในมหาสมุทรแปซิฟิกกับกองเรือทะเลเหนือรวมทั้งกองเรือที่ดูแลรับผิดชอบภาคพื้นมหาสมุทรแอตแลนติกบางส่วนด้วย และแน่นอนว่าเป็นการเคลื่อนย้ายกำลังเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในแปซิฟิกนั่นเอง
กล่าวให้ชัดก็คือเพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือทั้งจีนและเกาหลีเหนือจากแรงกดดันทั้งหลายของสหรัฐและพันธมิตรในภาคพื้นแปซิฟิกก็ได้
การที่รัสเซียซ้อมรบในพื้นที่ดังกล่าวนั้นก็คือสัญญาณที่บอกแก่สหรัฐโดยตรงว่าการประสานสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือที่ 7 ของสหรัฐในแปซิฟิก และกองเรือที่ 5 ของสหรัฐในมหาสมุทรอินเดียและเมดิเตอร์เรเนียนนั้น จะไม่ใช่สภาพที่สหรัฐจะเคลื่อนไหวไปมาอย่างไรตามใจชอบเหมือนอดีตอีกแล้ว
โดยเฉพาะตรงจุดพื้นที่ช่องแคบมะละกา ซุนดา และแลมบอร์กนั้นยังมีรัสเซียซึ่งมีกำลังเพียงพอและมีศักยะที่สูงพอที่จะทำให้การเชื่อมต่อระหว่างแสนยานุภาพของกองทัพเรือที่ 5 และกองเรือที่ 7 ได้ ซึ่งจะมีผลทำให้สหรัฐไม่สามารถประสานกำลังหรือส่งกำลังบำรุงช่วยเหลือระหว่างกันได้เหมือนเดิมอีกแล้ว
และย่อมเป็นการย้ำเตือนกับอังกฤษและออสเตรเลียซึ่งเป็นพันธมิตรใหม่กับสหรัฐในชื่อองค์กรใหม่คือ AUKUS (ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา) ว่าอังกฤษและออสเตรเลียจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายกองเรือผ่านสามช่องแคบดังกล่าวเข้ามายังแปซิฟิกได้ตามอำเภอใจอีกแล้ว
และแน่นอนว่าได้แฝงคำอธิบายทางการทหารว่า หากเกิดปัญหาขึ้นในภาคพื้นแปซิฟิกสหรัฐก็จะมีแต่กองเรือที่ 7 ที่จะต้องเผชิญกับปัญหาอย่างโดดเดี่ยว โดยมี รัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือเป็นอีกฝ่ายหนึ่งในพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิกนี้

'ธนกร'สวน'จุลพันธ์' แม้'ยุบสภา'แต่รัฐบาลยังรักษาการ ชี้กลไกภาครัฐยังเดินต่อได้
'กองกำลังผาเมือง'ปะทะ'ชายแดนแม่สาย' ยึดไอซ์ 250 กก.
‘เพื่อไทย’ของขึ้น จวกรัฐบาล‘ยุบสภา’หนีตรวจสอบ ซัด MOA เปิดช่อง‘ภูมิใจไทย’สะสมอำนาจ
กทม. จัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศลครบ 50 วัน
‘12 สมรภูมิอีสาน’เดือด! ‘เขมร’ระดมยิงปืนใหญ่ เจอ‘ไทย’ตีโต้ ‘พลจัตวา’กัมพูชาเจ็บสาหัส

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี