ในวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกๆ ปี ชาวคริสต์จะร่วมกันเฉลิมฉลองวันคล้ายวันประสูติของพระเยซูเจ้า เรียกว่าวันคริสต์มาส แม้พวกเราจะต่างศาสนาก็ตาม หากจะร่วมเฉิลมฉลองด้วยก็มิได้มีความเสียหาย หรือการสูญเสียความเป็นชาวพุทธ หรืออิสลาม ของเราแต่อย่างใด โดยคิดว่าการนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของพรหมวิหาร 4และมวลมนุษย์จะต้องมีความสามารถและมีจิตใจที่เปิดกว้างในการที่จะอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างและหลากหลาย ก็ขอเกริ่นกันสักนิดว่า ในบทความนี้จะกล่าวถึงพระเยซูเจ้าในฐานะมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีเรื่องปาฏิหาริย์เข้ามาเกี่ยวข้อง
พระเยซูเจ้า (เยซู) เกิดที่เมืองนาซาเร็ธ เป็นลูกชายของช่างไม้นามว่า โยเซฟ และมารดานามว่า มารีย์ ชีวิตในเยาว์วัยก็คงเหมือนกับเด็กชาวบ้านทั่วๆ ไป โดยประวัติชีวิตในช่วงวัยหนุ่มนั้นไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่ก็คาดการณ์กันว่า ได้ทำงานรับจ้างต่างๆ รวมทั้งในขบวนคาราวานที่ทำมาค้าขายระหว่างแขกตะวันออกกลาง ไปจนถึงแขกเอเชีย ทำให้มีประสบการณ์ในชีวิตของการได้สัมผัสกับความหลากหลายของสังคมวัฒนธรรมต่างๆ รวมทั้งการเชื่อถือทางศาสนาต่างๆ ด้วย
พระเยซูเจ้าเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเชื่อถือของชนเผ่าชาติพันธุ์ยิวว่า โลกจักรวาลนี้อุบัติขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของพระเจ้าผู้สร้าง และโลกจักรวาลก็มีทั้งบรรดาเทพเจ้าต่างๆ มากมาย
ในขณะเดียวกัน ชาวยิวก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมัน ที่มีความเชื่อถือเกี่ยวกับการมีเทพเจ้าหลายๆ องค์เช่นกัน ในการนี้ผู้นำชาวยิวทั้งทางด้านการเมืองและการศาสนา ก็ตกอยู่ในอาณัติของพวกโรมัน
พระเยซูเจ้าเริ่มมีบทบาท และชื่อเสียงเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยกลางคน โดยเริ่มออกเทศนาสั่งสอนว่าในโลกจักรวาลนี้มีพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีพระเจ้า หรือเทพเจ้าอื่นๆ แต่อย่างใดทั้งสิ้น ซึ่งการนี้เป็นการสวนกระแสความเชื่อถือของชาวยิวที่มีกันมายาวนาน อีกทั้งพระเยซูเจ้าได้ทรงเห็นว่า บรรดาผู้นำทางศาสนาและผู้ปกครองของชาวยิวในขณะนั้น ต่างมิได้เป็นผู้ที่อยู่ในศีลในธรรม หากเอาแต่ตักตวงเอาผลประโยชน์จากชาวบ้าน ผู้คน และดำรงชีวิตในแบบอย่างที่มากด้วยการเสพสุขตามวิถีชีวิตของชาวโรมันผู้ปกครองเหนือหัว
พระเยซูเจ้าจึงได้ออกมาทำการต่อต้าน และเรียกร้องให้ผู้นำศาสนาประพฤติอยู่ในธรรม และผู้ปกครองตอบสนองและรับใช้ชาวยิว
จึงจัดได้ว่า พระเยซูเจ้านั้นถือเป็นผู้ปฏิวัติศาสนาและผู้ปฏิวัติสังคม และเป็นคนแรกๆ ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ที่ให้แยกเรื่องการบ้านการเมืองออกจากเรื่องการศาสนา และความเชื่อถือ มิให้ปะปนกัน ดังคำกล่าวที่ว่า Give unto Cesar, What is Cesar’s and Give unto God, What is God’s หรือโปรดปฏิบัติต่อซีซาร์ (ผู้ปกครอง) ในกิจที่เกี่ยวกับซีซาร์ และโปรดปฏิบัติ (ตอบสนอง) ต่อพระเจ้าในเรื่องที่เป็นของพระผู้เป็นเจ้า
ในการนี้พระเยซูเจ้าจึงถูกหมายหัวว่า เป็นผู้ต่อต้านผู้นำทางศาสนายิว และเป็นผู้ต่อต้านชาวโรมันผู้ปกครอง หรือนัยหนึ่งเป็นภยันตรายต่อชนชั้นนำชาวยิวและฝ่ายปกครองของอาณาจักรโรมัน และในที่สุดพระเยซูเจ้าก็ถูกจับกุม และลงโทษถึงแก่ชีวิต ด้วยการถูกตอกมือและเท้าตรึงกับไม้กางเขน และถูกยกขึ้นไว้เพื่อเป็นการประจานต่อสาธารณชน ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและเป็นการปรามมิให้มีการคิดอ่านที่เป็นอื่นใดๆ ในเรื่องศาสนาความเชื่อถือ หรือการที่จะมีการรวมกลุ่มสมัครพรรคพวกเพื่อต่อต้านการครอบครองอำนาจปกครองของชาวโรมัน
พระเยซูเจ้าได้สอนให้ผู้คนมีความรักและเมตตาต่อกันและกัน มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และดำรงชีวิตด้วยความดีงาม และให้ละเว้นความชั่วใดๆ โดยความดีงามจะนำขึ้นสู่สรวงสวรรค์เพื่อความสุขอันถาวร และความไม่ดีงามจะนำไปสู่ความทุกข์ยากในขุมนรก
แล้วในที่สุด อาณาจักรโรมันก็ได้กลับกลายมาเป็นอาณาจักรคริสต์ ส่วนศาสนายิวก็กลับมายึดมั่นในความเชื่อถือว่า โลกจักรวาลนี้มีพระผู้เป็นเจ้าผู้สร้างแต่พระองค์เดียวเท่านั้น และทั้งสองศาสนาคือ คริสต์ และยิว ก็ได้มีอิทธิพลต่อศาสดาโมฮัมหมัด ที่เป็นผู้สร้างศาสนาอิสลาม ที่ยึดมั่นในความเชื่อถือว่ามีพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น เป็นการปฏิเสธความเชื่อถือของกลุ่มชนชาวอาหรับ ที่เชื่อว่ามีพระเจ้าหรือเทพเจ้าหลายๆ พระองค์มาแต่ดั้งเดิม ก็จัดได้ว่าเป็นผู้ปฏิวัติความเชื่อถือแต่โบร่ำโบราณ ในทำนองเดียวกับพระเยซูเจ้า
เมื่อต่างมีความเชื่อถือในการมีพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น และทุกคนต่างก็เป็น “ลูก” ของพระผู้เป็นเจ้า แล้วไฉนเราจะโกรธแค้น เกลียดชังซึ่งกันและกัน และไฉนลูกหลานของเราจะไปร่วมเฉลิมฉลองงานวัด งานบุญ ของเพื่อนๆ ต่างศาสนาไม่ได้เล่า
เราทุกคนก็ควรได้ใช้โอกาสแห่งการเฉลิมฉลองนี้ เพื่อทำการสำรวจ เพื่อปฏิวัติตนเอง และครอบครัว ด้วยการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และเฉลิมฉลองด้วยความหรรษา และจิตใจที่เบิกบาน
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี