สื่อสารมวลชนทั้งไทยและต่างชาติกำลังให้ความสนใจต่อเสถียรภาพของรัฐบาลผสม ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของไทยว่าในปี 2565 นี้จะเดินหน้าไปได้ตลอดรอดฝั่งได้หรือไม่เมื่อมีข่าวว่าร้อยเอกธรรมนัสพรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นำคณะสส.ในกลุ่มของเขา 21 คน ออกไปจากพรรคโดยขอให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ไล่ออกจากพรรคเพื่อจะได้อยู่ร่วมกับพรรคเศรษฐกิจไทยที่ตั้งรอท่ากันไว้แล้ว
พลเอกประวิตรยอมไล่กลุ่มของร้อยเอกธรรมนัสออกไปตามคำขอ อย่างไรก็ตาม พรรคใหม่ที่ว่านี้มีพลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา “เสธ.น้อย” อดีตทส.ของ”พลเอกประวิตร” เป็นหัวหน้าพรรคแถมยังมีพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายของพลเอกประวิตรทำหน้าที่เลขาธิการพรรคด้วย มองอย่างไรก็ดูแปลกๆอยู่ที่รู้ๆ คือร้อยเอกธรรมนัสไม่พอใจพลเอกประยุทธ์อย่างมากมานานอึดอัดที่จะอยู่ร่วมกัน เลยขอแยกตัวไปอยู่ในพรรคการเมืองใหม่
ถ้าหากมองกันให้ดีๆ แล้วเหมือนเล่นละครการเมือง เมื่อมองแล้วพรรคฝ่ายค้านทั้งหลายอย่าเพิ่งดีใจไปว่าจะล้มรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ได้ง่ายดายแบบหวานหมู เพราะแผนของรัฐบาล 3 ป.กับกลุ่มนายทุนระดับชาติหลายๆ คนที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์มา 6-7 ปี เขากลัวระบอบทักษิณและม็อบ 3 นิ้ว ไม่น้อยเพราะผลประโยชน์ต่างๆ รวมถึงนโยบายการเมืองและเศรษฐกิจจะแปรเปลี่ยนไปหมดหากเกิดมีรัฐบาลใหม่แทนพลเอกประยุทธ์
ครม. 3 ป.นั้นไม่ได้วางหมากตื้นๆอย่างที่ใครๆเคยปรามาสเพราะความผิดพลาดจากการรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน 2549 นำมาสู่การรัฐประหารซ้ำอีกครั้งในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั้นมีการปะติดปะต่อไว้ล่วงหน้าเป็นปีหลังพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง กลุ่มอภิมหาเศรษฐีที่ไม่ชอบระบอบทักษิณนั้นมีจำนวนมากมายไม่งั้น กปปส. คงไม่มีทุนหนุนระดมคน 10 ล้านคน ออกมาขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ได้ตั้งครึ่งค่อนปีก่อนรัฐประหารแน่นอนและเงินเป็นพันๆ ล้านบาทมาจากไหน
ทำไมนักการเมืองในระบอบทักษิณจะไม่รู้เลยเชียวหรือว่าอภิมหาเศรษฐีและคนชั้นกลางในสังคมไม่ชอบเพราะเหตุใด มองเผินๆ อาจจะเห็นว่ารัฐนาวาพลเอกประยุทธ์ไปไม่รอด ร้อยเอกธรรมนัสถอนออกไป เสียงในสภาจะปริ่มน้ำเหลือคนหนุนน้อย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านดีอกดีใจได้ยื่นขอเปิดอภิปรายนายกรัฐมนตรีแบบไม่มีการลงมติ
เรียกว่าขอวิจารณ์นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ออกหน้าจอโทรทัศน์และออกสื่อโซเชียลจะแพร่ออกไปทั่วประเทศและทั่วโลก แต่พลเอกประยุทธ์ได้ย้ำแล้วว่าไม่ได้คิดเรื่องปรับคณะรัฐมนตรีหรือจะยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในปี 2565 เพราะพ.ร.บ.ต่างๆ ยังไม่เรียบร้อยทั้ง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 ก็ยังรอการเข้าสู่สภาอยู่ พลเอกประยุทธ์ได้รับทราบว่าฐานคะแนนนิยมของตนเองที่มีประชาชนสนับสนุนมากยังมีอยู่ ปัญหาเดือดร้อนรอให้แก้ไขยังมีอีกมากมาย 7 ปีที่ผ่านมาไม่ทำให้สาธารณชนผิดหวังยกเว้นฝ่ายตรงข้ามของพลเอกประยุทธ์
จะว่าไปแล้ว เสียงในสภาไม่ได้“ปริ่มน้ำ”จริงๆอย่างที่กลัว วิเคราะห์การเมืองต้องดูกันหลายชั้น ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 65-70 ยังเชื่อใจคนชื่อ“ประยุทธ์” สื่อมวลชนที่ไม่ชอบมีมากก็จริงอยู่แต่เข้าตำรา“คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ”หากพลเอกประยุทธ์สู้ๆไม่ถอดใจโยนผ้ายอมแพ้เสียก่อน ใครหน้าไหนจะ“โค่น”พลเอกประยุทธ์ลง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี