ขึ้นปีที่ 5 ที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ตัดสินใจไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามป.อาญา มาตรา 157 และความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท
นี่คือข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่ข้อกล่าวหาทางการเมือง ที่ “สุนัขในคอกจันทร์ส่องหล้า” บิดเบือนข้อเท็จจริงที่ต้องยอมรับว่า โครงการขายข้าวแบบจีทูจีกับสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น รัฐบาลไม่มีการเจรจาต่อรองเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ทั้งยังพบว่ามีการชำระค่าข้าวด้วยแคชเชียร์เช็คภายในประเทศหลายร้อยฉบับ และรับมอบข้าวไปโดยผู้รับมอบอำนาจที่เป็นคนไทยแล้วนำไปขายต่อให้ผู้ประกอบการค้าข้าวภายในประเทศ โดยไม่มีการส่งข้าวที่ซื้อขายไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือส่งออกไปประเทศอื่น อีกทั้งมีการปกปิดการทำสัญญาโดยไม่ได้รายงานต่อกขช. และครม.
คดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากทั้ง “สุนัขคอกจันทร์ส่องหล้านักธุรกิจ ขรก.ชั้นผู้ใหญ่ ผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งที่สุดผู้ต้องหาเหล่านี้ก็ชดใช้กรรมตามฐานความผิดในเรือนจำแทบทั้งสิ้นมากบ้างน้อยบ้างตามแต่พฤติกรรม รวมทั้งสิ้น 15 คน โดยไม่มีสมาชิกในตระกูล “ชินวัตร” ร่วมอยู่ด้วยแม้แต่รายเดียว
การเลือกใช้ “ช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา” เป็นเส้นทางการหลบหนีก่อนจะเดินทางต่อไปยัง “นครดูไบ -ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อไปสมทบกับพี่ชาย- “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้ต้องหาหนีคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดีทุจริตที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก ป่วนบ้านป่วนเมืองสร้างวาทกรรมสร้างเฟคนิวส์ให้สังคมไทย,สนตะพายติ่งระบอบทักษิณให้ขาดความศรัทธาเชื่อมั่นรัฐบาล โดยมีนักการเมืองชังชาติหนักแผ่นดินร่วมกับสุนัขคอกจันทร์ส่องหล้า…อื่นๆ คอยเห่ากรรโชกรองรับเสียงสำรอกสำรากจากคนแดนไกลเป็นระยะ
แม้จะซุกศีรษะอยู่ในยูเออีและถือสัญชาติเซอร์เบียร์ แต่นางก็เคลื่อนไหวไม่ต่างจากพี่ชายเท่าใดนัก เพียงแต่เลือกที่จะสำรอกสำรากสู่สังคมไทยคนละสื่อโซเชียลเท่านั้น โดยเคลื่อนไหวเป็นระยะในเทศกาลต่างๆ กระทั่งเดือนตุลาคม2564 นางสร้างความฮือฮาด้วยการปล่อยคลิปเรื่อง “นาทีวิปโยค10 ปีมหาอุทกภัย”ที่พยายามจะบอกเรื่องราว “เหตุน้ำท่วมใหญ่ปี 2554”ที่หล่อนเชื่อว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังเป็น “น้ำการเมือง”พร้อมโจมตีรัฐบาล “ไต้ก๋งชรา-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ว่าด้อยประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ทั้งยังโจมตีรัฐบาลเดียวกันนี้กรณีแก้ไขปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะราคาข้าวที่รัฐบาลเลือกใช้นโยบายประกันราคาของพรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่ได้สำเหนียกสำนึกปัญหาจำนำข้าวที่รัฐบาลนางก่อหนี้สินไว้กว่า 5 แสนล้านบาท แต่อย่างใด
ล่าสุด 26 ก.พ.ที่ผ่านมา หล่อนโพสต์ข้อความ#เป็นอย่างไรกันบ้างคะ #สบายดีกันไหม และคลิปร้องเพลงลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว “Yingluck Shinawatra”เพื่อนัดหมายไลฟ์สดหวังติดต่อสื่อสารกับสังคมไทย ร้องเพลง เพื่อสื่อสารความในใจถึงสังคมไทยเนื้อหาเพลง ระบุว่า “เพราะมีเธอ ชีวิตนี้จึงเดินมาไกลยิ่งกว่าความฝันเพราะมีเธอ ชีวิตฉันจึงเจอเส้นทางที่มีแสงไฟเป็นของขวัญที่สวยที่สุด และมีค่าที่สุดสำหรับหนึ่งลมหายใจสัญญาว่าจะไม่ทิ้งไป สัญญาจะวางหัวใจบนมือของเธอ”
“เธอ” ในที่นี้นางน่าจะหมายถึงแฟนคลับและกลุ่มผู้สนับสนุนที่เธอเคย “ถ่มน้ำลายรดฟ้า” ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้วหล่อนหาได้มีความสัตย์กับ “เธอ” ไม่ทำให้เรานึกถึง
พระพุทธพจน์ ที่ว่า
“นตฺถิ อการิยํ ปาปํ มุสาวาทิสฺส ชนฺตุโน…คนพูดมุสาจะไม่พึงทำชั่ว ย่อมไม่มี”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี