ขอสนับสนุนจุดยืนและท่าทีของรัฐบาลไทย ต่อกรณีวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน คือไม่ให้เห็นด้วยกับการใช้กำลังอาวุธบุกยูเครน และสนับสนุนให้คู่กรณีเจรจาหาทางออกอย่างสันติ พร้อมช่วยเหลือด้วยมนุษยธรรมต่อทุกฝ่าย
แต่สถานการณ์ที่เราเห็นในปัจจุบัน ก่อนที่สหรัฐจะใช้โอกาสนี้บอยคอตต์ทางเศรษฐกิจรัสเซีย และยังพยายามกดดันข่มขู่ประเทศอื่นๆ ให้ร่วมบอยคอตต์
รัสเซียไปด้วยนั้น เราจำเป็นต้องติดอาวุธทางความรู้เพื่อความเข้าใจรากเหง้าที่มาของปัญหาในวันนี้เสียก่อน
“เหตุใดยูเครนจึงเป็นความผิดพลาดของโลกตะวันตก? (Why is Ukraine the West’s Fault?)”
ศาสตราจารย์จอห์น เมียสไชเมอร์ (Professor John Mearsheimer) แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก บรรยายเอาไว้เมื่อกว่า 7 ปีที่แล้ว แต่สะท้อนชัดถึงปมปัญหาในปัจจุบัน
เฟซบุ๊ค Nat Tharapong Rungroj เล่าว่า
“เหตุใดยูเครนจึงเป็นความผิดพลาดของโลกตะวันตก? (Why is Ukraine the West’s Fault?)
เมื่อคืนนี้ผมได้ชมการบรรยายของศาสตราจารย์จอห์น เมียสไชเมอร์ (Professor John Mearsheimer) แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก ฟังแล้วได้ความรู้ดีมาก ความน่าสนใจของการบรรยายนี้คือ เป็นการบรรยายตั้งแต่ปี 2015 โน้น เมื่อครั้งที่เกิดเหตุรัฐประหารในยูเครนและรัสเซียเข้ายึดแคว้นไครเมียของยูเครน
เมื่อเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนขึ้นในเดือนนี้ คลิปวีดีโอนี้ก็กลับมาโด่งดังมีคนเข้าไปชมมหาศาลเกือบ 15 ล้านวิว คอมเม้นท์ส่วนใหญ่เป็นไปในทางบวก คือ
“คลิปวีดีโอนี้ทำให้รู้ที่มาที่ไปของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้เข้าใจว่าใครเป็นผู้ทำให้เกิดสงครามอย่างทุกวันนี้” https://youtu.be/JrMiSQAGOS4 คลิปนี้ยาว 1 ชั่วโมง 15 นาทีครับ ใครอยากชมคลิปเต็มก็เชิญได้ครับ ส่วนผมขอสรุปสั้นๆ มาให้ได้อ่านกันครับ
1. ก่อนที่อเมริกาจะตั้งเป็นประเทศ ยุโรปคือจุดศูนย์กลางของโลกมายาวนานและประเทศที่เป็นมหาอำนาจของยุโรปคือ “โซเวียต” และ “เยอรมัน”
2. อเมริกาและพันธมิตรในยุโรป คือ ผู้ที่ต้องรับผิดชอบเหตุความวุ่นวายในยูเครนเพราะอเมริกาพยายามดึงเอายูเครนออกมาจากการเป็นรัฐบริวารของรัสเซีย แล้วเอามาเป็นพรรคพวกของอเมริกาเสียเอง
3. ยูเครนนั้นเป็นประเทศที่แตกแยกกันโดยทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยเหตุที่ประชาชนฝั่งตะวันตกพูดภาษายูเครน ในขณะที่ฝั่งตะวันออกพูดภาษารัสเซีย
4. คราวที่ยูเครนเลือกตั้งในปี 2004 ผลการเลือกตั้งก็เป็นไปตามคาด คือ คนยูเครนที่พูดยูเครน (ตะวันตก) เลือกนายยูเชนโก้ คนยูเครนที่พูดรัสเซีย (ตะวันออก)
เลือกนายยานูโควิช ประเทศแบ่งเป็นสองซีก แต่ละซีกมีขนาดพอๆ กัน
5. อีก 6 ปีต่อมา ผลการเลือกตั้งปี 2010 ก็ยังคงรูปแบบเช่นเดิม คือ อยู่กันแบบซีกใครซีกมัน เพียงแต่คราวนี้นายยานูโควิชซึ่งเป็นคนจากฝั่งยูเครนที่ชอบรัสเซีย เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
6. อเมริกาใช้ยุทธศาสตร์สามประการ คือ
หนึ่ง...เพิ่มจำนวนชาติสมาชิกนาโต้ให้ขยับเข้าใกล้รัสเซียไปเรื่อยๆ
สอง...ให้สหภาพยุโรป (อียู) ชวนประเทศรอบๆ รัสเซียเข้ามาเป็นสมาชิก และสาม....สนับสนุนการปฏิวัติสีส้ม (ปฏิวัติในยูเครน)
7. การรุกทางนาโต้คือการรุกทางทหาร ส่วนการรุกโดยอียูคือการรุกทางเศรษฐกิจ
8. การที่อเมริกาพยายามยัดเยียดประชาธิปไตยให้กับประเทศต่างๆนั้นไม่ใช่แค่เพียงว่าอเมริกานิยมประชาธิปไตย แต่เพราะอเมริการู้ว่าเมื่อเอาประชาธิปไตยไปใส่ตามประเทศต่างๆแล้ว จะสามารถโค่นล้มผู้นำประเทศเดิมได้ และสร้างผู้นำใหม่ที่เป็นคนฝักใฝ่วิถีอเมริกันได้อีก เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
9. อเมริกาใช้นาโต้เป็นหมากในการรุกขยับเข้าไปหารัสเซียเรื่อยๆ(Eastward Expansionof NATO) เริ่มจากปี 1999 เพิ่มโปแลนด์, สาธารณรัฐเช็ค และฮังการีเข้ามาในนาโต้ และในปี 2004 นาโต้ก็ไปเอาเอสโตเนีย, ลัตเวียและลิธัวเนียเพิ่มเข้ามาอีก ประเทศทั้งหมดที่ว่ามานี้ล้วนเป็นประเทศที่อยู่รอบชายแดนรัสเซีย
10. รัสเซียประท้วง
และต่อต้านการขยายของนาโต้มาตั้งแต่ยุคแรกๆ เพราะนาโต้คือกลุ่มประเทศที่รวมตัวกันเพื่อนำอาวุธมาต่อต้านรัสเซีย เพียงแต่ในขณะนั้นรัสเซียออกอาการอะไรไม่ได้ เนื่องจากตนเองก็ยังอ่อนแอจากการล่มสลายหมาดๆ ของสหภาพโซเวียต
11. จุดแตกหักเกิดขึ้นเมื่อปี 2008 เมื่อนาโต้ประกาศว่าจะรวมเอายูเครนและจอร์เจียเข้ามาเป็นสมาชิกด้วย
12. รัสเซียไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง และแถลงว่าการที่ยูเครนและจอร์เจียเข้าไปเป็นสมาชิกนาโต้คือภัยคุกคามโดยตรงต่อรัสเซีย การกระทำเช่นนี้เป็นยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดและบ่อนทำลายความสงบในภูมิภาคยุโรป
13. ในปี 2008 เกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับจอร์เจีย เพราะจอร์เจียเข้าใจว่าถ้าตนเองแข็งข้อกับรัสเซียแล้วอเมริกาจะเข้ามาช่วยเหลือ แต่การณ์ก็เป็นอย่างที่ทราบคืออเมริกาไม่ได้เข้าไปช่วย และทำให้จอร์เจียตกอยู่ในที่นั่งลำบากจนถึงปัจจุบัน
14. ต่อมาในปี 2013 อียูพยายามชักชวนยูเครนให้มาเป็นสมาชิก เมื่อรัสเซียรู้เข้าก็จึงได้พยายามยื่นข้อเสนอพิเศษ คือ เสนอเงินกู้ 15,000 ล้านเหรียญกับยูเครน แลกกับการที่ยูเครนไม่ไปเข้ากับอียู ในขณะที่อียูไม่ได้เสนออะไรให้ยูเครนเลย
15. ปธน.ยานูโควิช ของยูเครน จึงประกาศว่ายูเครนไม่สนใจจะเข้าร่วมกับอียูอเมริกาจึงแอบสนับสนุนให้เกิดการประท้วงขนาดใหญ่จนกระทั่งเกิดรัฐประหารต้นปี 2014 และปธน.ยานูโควิชต้องหนีออกนอกประเทศไปอยู่ที่รัสเซีย
16. จากนั้นบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของชาติยุโรปได้พากันบินไปประชุมที่กรุงเคียฟ (หรือ คีฟ) ของยูเครนเพื่อจะช่วยแก้ปัญหา ผลสรุปคือ ที่ประชุมบอกว่า
ปธน.ยานูโควิช (ที่มาจากการเลือกตั้ง) ของยูเครนต้องลาออก
17. ปี 2014 รัสเซียจึงได้เคลื่อนทัพเข้าไปยึดครองแคว้นไครเมีย ซึ่งเป็นแคว้นหนึ่งของยูเครน และรัฐสภาของแคว้นไครเมียได้ลงมติว่า “อยากกลับไปอยู่กับรัสเซีย” รัสเซียจึงผนวกไครเมียเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
18. การครอบครองไครเมียโดยกองทัพรัสเซียนั้นเป็นไปอย่างง่ายดายและใช้เวลาเพียง 3 อาทิตย์ เพราะยูเครนนั้นให้รัสเซียเช่าฐานทัพเรือที่แคว้นไครเมียอยู่แล้ว ไครเมียจึงมีกองทหารรัสเซียตั้งอยู่มาแต่เดิม เมื่อประกาศว่าจะยึดไครเมีย รัสเซียก็จึงแทบจะไม่ต้องทำอะไรมากมาย
19. อเมริกาและชาติตะวันตกพากันตกใจว่า รัสเซียพยายามจะสร้างสหภาพโซเวียตขึ้นมาอีกครั้ง แต่ปูตินเป็นคนที่ฉลาดกว่านั้น ปูตินไม่ได้ต้องการที่จะครอบครองยูเครน แต่ปูตินกำลังจะทำลายประเทศยูเครนทั้งประเทศ
20. ปูตินทำเช่นนั้นเพื่อจะส่งสาส์นให้กับโลกตะวันตกรู้ว่า
หนึ่ง....“ถอยไปซะ อย่ามายุ่งกับยูเครน แล้วกลับไปสู่สภาพเดิมที่ยูเครนเป็นเพียงรัฐกันชนระหว่างเรา”
สอง....“แต่ถ้ายังอยากจะเล่นเกมส์เอายูเครนเข้าไปเป็นนาโต้กันต่อไป รัสเซียจะบดขยี้และทำลายยูเครนให้สิ้น”
21. เหตุที่ปูตินทำเช่นนั้น เพราะรัสเซียเป็นชาติมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ และไม่มีวันยอมให้อเมริกากับพันธมิตรเข้ามาวางกำลังบนดินแดนสำคัญทางยุทธศาสตร์ติดกับรัสเซีย
22. อเมริกาเองนั้นก็มีหลักการนี้เช่นกัน ชื่อว่า “หลักการมอนโร” (Monroe Doctrine) กล่าวสั้นๆ คือ อเมริกาถือว่าซีกโลกตะวันตกคือหลังบ้าน
ของอเมริกา อเมริกาจะไม่ยอมให้ชาติอื่นใดเอาขีปนาวุธมาติดตั้งและเป็นภัยต่ออเมริกา
23. ยกตัวอย่างในยุคปี 1960 เมื่อคราวที่โซเวียตเอาขีปนาวุธและกำลังทหารมาตั้งอยู่ที่คิวบา ซึ่งห่างจากอเมริกาเพียงไม่กี่ร้อยกิโลเมตร อเมริกาถึงกับเต้นผางและจวนเจียนจะเกิดสงครามนิวเคลียร์
24. อเมริกาจะมีพฤติกรรมแตกต่างไปจากรัสเซียไหม? หากว่าอีก 20 ปีข้างหน้า จีนมาเป็นพันธมิตรกับแคนาดาและเม็กซิโก แล้วเอากองทหารจีนและขีปนาวุธจีนมาตั้งอยู่ใกล้ๆ กับชายแดนอเมริกา
25. อเมริกาและนาโต้กำลังกล่อมยูเครนให้เชื่อมั่นว่า หากยูเครนมาร่วมกับโลกตะวันตกแล้ว เราจะทำลายรัสเซียและปูตินลงได้ ยูเครนจึงมีท่าทีที่ไม่ประนีประนอมและแข็งกร้าวต่อรัสเซีย
ดังนั้นแล้ว อเมริกาและชาติยุโรปก็จึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะตกใจในการที่กองทัพรัสเซียกำลังทำลายยูเครนในวันนี้
นอกจากนี้แล้ว ท่านศาสตราจารย์ยังบรรยายต่อไปว่า “การที่อเมริกาพยายามให้ยูเครนเข้ามาเป็นสมาชิกนาโต้นั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดผลประโยชน์ใดต่ออเมริกาเลย มีแต่จะไปกวนให้รัสเซียซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจและมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่มากมายนั้นต้องตัดสินใจอย่างคับขันเท่านั้นเอง”
“หนทางที่ดีที่สุดสำหรับผลประโยชน์ของชาวยูเครนคือ เราควรจะแนะนำให้ยูเครนวางตัวเป็นกลาง”
นี่คือ บทบรรยายจากเมื่อ 7 ปีที่แล้วนะครับ ฟังแล้วก็เป็นคำตอบให้เราได้เข้าใจสถานการณ์ทุกวันนี้มากขึ้น
ทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไป การที่รัสเซียบุกยูเครนก็เช่นกัน มิใช่อยู่ดีๆ ก็ผุดขึ้นมาเหมือนเห็ดงอกหลังฝนตก”
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี