แม้จะยังไม่มีความแน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะดำเนินการเมื่อใดอย่างไร เพราะประการแรก “ไต้ก๋งชรา – พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรียังไม่แสดงท่าทีอ่อนล้าต่อการปฏิบัติหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ยังมั่นคงต่อการบริหารเศรษฐกิจของประเทศเพื่อไปให้ถึงวาทกรรม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

ที่สำคัญก็คือ กฎหมายลูก อันหมายถึง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย การเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่ถูกบรรจุวาระเข้าประชุมแต่ขออภัยนักเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ หัวร้อน ต่างแย่งชิงกันลงพื้นที่แสดงละครสร้างภาพเพื่อหวังสร้างฐานเสียงในการต่อสู้แย่งชิงประชาชนเจ้าของประเทศและเจ้าของเสียงสวรรค์ผู้กำหนดชะตากรรมนักเลือกตั้งลวงโลกทั้งหลายให้มีที่นั่งในสัปปายะสภาสถานหรือไม่

แน่นอน การเลือกตั้งในยุคที่ แก้วสามประการล่มสลายตามคำบอกเล่าของสื่อมวลชนอาวุโสผู้คร่ำหวอดกับทฤษฎีการเมือง ในยุคที่ “ทุนสามานย์ – ประชานิยมใหม่”อยู่กันคนละมุมเวที จึงเป็นเรื่องที่ผู้คนในสังคมไทยต้องใช้วิจารณญาณในการรับชมในการพิจารณานโยบายเพ้อฝันและการประดิษฐ์วาทกรรมเพื่อทุจริตเชิงนโยบายอย่างที่ผ่านมา เมื่อถูกจับได้ไล่ทันก็อาศัยช่องว่างช่องผ่านแดนทางธรรมชาติหลบไปชุบตัวฟอกดำเป็นเทาส่งทายาทบ้างผู้ร่วมสกุลบ้างกลับมาหลอกลวงยั่วเย้าสังคมไทยให้ละเมอเพ้อพกเยี่ยงนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายกระทอก มิรู้จบ

ต้องยอมรับว่าผู้ที่สามารถสร้างระบบทางการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพโดดเด่นคนหนึ่งก็คือ นายทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์กล้าคิดตัดสินใจ กล้าใช้ทฤษฎีทักษิโณมิกส์ที่ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจนทำให้ประชาชนเกิดความอยู่ดีกินดีในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ดี ทักษิโณมิกส์หรือ “ระบอบทักษิณ” ซึ่งเป็นที่มาของ“นโยบายประชานิยม”ก็หาได้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนเจ้าของประเทศและสังคมไทยทุกภาคส่วนทุกหมู่เหล่าไม่ เพราะต้องยอมรับว่าเป็นยุคที่เกิดการคอร์รัปชั่นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เกิดการทุจริต คอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย ผลประโยชน์ตกแก่ครอบครัวและพวกพ้องจนเป็นคดีความมากมายหลายคดี

วันนี้ “สัมภเวสีเร่ร่อนหนีคุก”สร้างวาทกรรมใหม่ไม่รู้ประณามใคร แต่สะท้อนข้อเท็จจริงทางการเมืองตลอด 20 ปีที่ผ่านมา หลังจากวาทกรรม สุนัข 50 ตัวในคอกจันทร์ส่องหล้า ต่อด้วยโสเภณีทางการเมือง ต้องถามว่าใครเล่าที่เอาผลประโยชน์ยัดปากยัดใส่มือโสเภณีที่ว่าเหล่านี้ใครคือต้นคิด ใครคือตัวบงการเชื้อชั่วในวงการการเมือง

หากเรื่องเยี่ยงนี้ไม่เคยเกิดไม่เคยกระทำ “สัมภเวสีเร่ร่อนหนีคุก”ตัวนี้จะกล้าสำรอกสำรากผ่านโซเชียลเนตเวิร์กประจานลิ่วล้อติ่งแฟนคลับอย่างเต็มปากเต็มคำไม่กระดากอายสักนิด

ของพรรค์นี้ไม่กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้องไม่กล้าประจานนักการเมืองเป็นโสเภณีเยี่ยงนี้ดอก

หรือครอบครัวเพื่อไทย ครอบครัวบ้านหลังใหญ่หัวใจเดิมจะออกมาตอบโต้ก็น่าจะสมควรอยู่