เมื่อปลายปีที่แล้ว ประธานาธิบดี ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ได้จัดประชุมสุดยอดว่าด้วยสังคมประชาธิปไตย ซึ่งประเทศไทยภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมิได้รับเชิญให้เข้าร่วม เหตุก็เพราะความเป็นประชาธิปไตยของไทยในช่วงนี้ไม่เป็นที่รับรองในสายตาประชาคมโลก เพราะถือเป็นประชาธิปไตยที่ยังไม่สมบูรณ์แบบ จะเรียกว่าเป็นกึ่งประชาธิปไตยกึ่งเผด็จการ หรือกึ่งประชาธิปไตยและกึ่งทหาร หรือกึ่งประชาธิปไตยและกึ่งอัตตาธิปไตยก็ได้ ตามแต่จะเห็นหรือตีความกันอย่างไร แต่ที่แน่นอนขณะนี้ไทยไม่เป็นประชาธิปไตยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ หรือไกลออกไปหน่อยก็คือ ไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
ก็เป็นเรื่องที่เราชาวไทยจะต้องเลือกว่าจะมีความพึงพอใจกับสถานะนี้ หรืออยากจะให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบโดยเฉพาะการเอากองทัพออกจากการเมือง และการมีวุฒิสภา ที่ไม่โยงใยกับประชาชนพลเมือง (ที่เป็นส่วนหนึ่งของรัฐสภา)
ในขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกาก็มุ่งหน้ากระชับความสัมพันธ์ 4 เส้า (QUADRUPLE) กับญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินเดีย (ซึ่งเดิมเป็นการร่วมมือกันเพื่อการกู้ภัยและฟื้นฟูจากกรณีเหตุการณ์สึนามิ) และต่อมาในปี ค.ศ. 2017 (พ.ศ. 2560) ก็ได้มีการยกระดับและกระชับความสัมพันธ์เป็นแบบการร่วมมือด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคง เทคโนโลยีรวมทั้งด้านการสื่อสาร และการพัฒนาเศรษฐกิจ เข้าไปด้วย
และเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกาก็ได้ร่วมกับอังกฤษและออสเตรเลีย จัดตั้งรูปแบบความร่วมมือเพื่อพัฒนาการต่อเรือดำน้ำด้วยพลังไฟฟ้า
นิวเคลียร์ให้กับออสเตรเลีย ซึ่งทั้งหมดดังกล่าวนี้ทั้งในแง่ของ QUAD และ AUKUS เป็นเรื่องของความร่วมมือของประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตย ที่จะต่อต้านและล้อมกรอบจีนคอมมิวนิสต์ เพื่อมิให้แพร่ขยายอิทธิพลและคุกคามภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อีกทั้งฝ่ายสหรัฐฯ ได้ประกาศด้วยว่า การร่วมมือกลุ่มประเทศประชาธิปไตยนี้ เป็นการต่อสู้กับลัทธิอัตตาธิปไตย (Autocracy) หรือประเทศเผด็จการนิยม เช่น จีน ที่ประสงค์จะส่งออกรูปแบบการพัฒนาประเทศที่ผสมผสานระหว่างพรรคการเมืองผูกขาดอำนาจ กับเศรษฐกิจแบบการตลาดทุนนิยม
ประเทศที่อยู่ในข่ายจะเข้าร่วมกับสหรัฐฯและพันธมิตรดังกล่าวชุดต่อไป ก็คงจะเป็นเกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ ที่มีความเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ และมีความร่วมมือทางด้านความมั่นคงในระดับทวิภาคีกับสหรัฐฯ อยู่แล้ว ส่วนไทยเราแม้จะเป็นประเทศพันธมิตรกับสหรัฐฯ มาช้านาน และมีการร่วมซ้อมรบกันเป็นประจำ และได้รับสถานะพันธมิตรที่สำคัญยิ่ง ที่มิใช่สมาชิกองค์การนาโต (Non NATOMajor Ally) ก็ยังไม่อยู่ในข่ายที่จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมในวงการ QUAD เพราะความไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มที่
จึงพูดได้ว่า ประเทศไทยในสายตาสหรัฐฯ ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับ อินเดีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ก็เพราะความไม่สมบูรณ์ของความเป็นสังคมประชาธิปไตยของไทย ทำให้การที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างสมเกียรติ สมน้ำสมเนื้อจากสหรัฐฯ นั้นมีข้อจำกัดโดยปริยาย ก็ขึ้นอยู่กับว่าประเทศไทยจะรับสภาพนี้ต่อไปเรื่อยๆ หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องถกเถียงกันในสังคมไทยเพื่อหาข้อยุติ แต่ประเด็นก็คือ ที่ผ่านมา ไทยก็ได้เพียรพยายามที่จะเป็นสังคมประชาธิปไตย และยังมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย ถือเป็นเรื่องที่เราจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันให้ได้มาซึ่งความเป็นสังคมประชาธิปไตยให้ได้ เพราะนั่นคือศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของคนไทยเอง และความเชื่อถือนับหน้าถือตาที่จะพึงมีมาจากต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี เมื่อไทยเราก้าวไปเป็นประชาธิปไตยอย่างสง่างามแล้ว ก็มิได้หมายความว่าเราจะต้องตกอยู่ในค่ายของสหรัฐฯ และค่ายประชาธิปไตยโดยอัตโนมัติ เพราะเราก็สามารถที่จะยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง ปฏิเสธความเป็นเผด็จการทุกรูปแบบ แต่ก็ยังมีอิสระในการคบหากับจีน หรือแม้กระทั่งกับรัสเซียก็ได้
ความเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ และความเป็นตัวของตัวเอง โดยไม่ต้องไปอยู่ในค่ายของสหรัฐฯ ก็จะเป็นการเสริมสร้างสถานะและเกียรติภูมิของไทย และจะอำนวยให้เรามีน้ำหนักในเวทีระหว่างประเทศได้ และก็ยังจะสามารถร่วมมือกับประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเพื่อจรรโลงสันติภาพโลก โดยไม่ต้องเป็นอริกับประเทศที่มีระบบการเมืองการปกครองที่ต่างออกไปหรืออยู่ตรงกันข้าม
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี