สภาอยู่ระหว่างพิจารณาพ.ร.บ.กัญชาในขณะที่สำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกประกาศออนไลน์ให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนขอปลูกกัญชาได้
ในเวลาเดียวกันในวงการสื่อสารมวลชนทั้งสื่อกระแสหลักและสื่อออนไลน์ ไม่ว่าเปิดไปช่องทางไหนได้เห็นหน้าของเหล่าเซเลบ นักร้องดาราโฆษณาสารพัดกาแฟกันให้เกร่อ
เพื่อให้อินเทรนด์ทันสมัย วันนี้ขอว่า กันด้วยเรื่องคุณและโทษของกัญชา-กาแฟ แต่เรื่องกาแฟและกัญชา ในที่นี้มิได้เกี่ยวข้องกับที่โฆษณากันอยู่ในบ้านเรา
คอลัมน์ทวนกระแส ขอนำเอาผลวิจัยทางการแพทย์ในอังกฤษ จีน และสหรัฐอเมริกามานำเสนอ
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เสนอผลวิจัยการดื่มกาแฟในหัวข้อที่ว่า “ดื่มกาแฟพอประมาณทำให้ท่านอายุยืน” รายงานการวิจัยขึ้นต้นว่า “ดื่มกาแฟผสมรสหวาน หรือกาแฟไม่ผสมรสหวาน มีส่วนสัมพันธ์กับการทำให้อายุยืน การดื่มกาแฟที่ส่วนผสมของกาเฟอีน อาจทำให้มีพลังมากกว่าเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า”
การดื่มกาแฟไม่ว่าผสมรสหวานหรือไม่มีรสหวานมีส่วนสัมพันธ์กับการทำให้อายุยืนเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟเลย
ตามเอกสารการวิจัยที่ตีพิมพ์ ในวารสารการแพทย์นานาชาติ นักวิจัยได้ทำการศึกษากับตัวอย่าง 171,616 คน ในประเทศอังกฤษ การวิจัย 5 ครั้ง ในห้วงเวลา 1 ปี เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพวกเขารวมทั้งนิสัยการดื่มกาแฟ
หลังจากนั้นนักวิทยาศาสตร์ได้สำรวจใบมรณบัตร เฉลี่ยการเสียชีวิตในห้วงเวลา 7 ปีให้หลัง ผู้ที่เข้าร่วมโครงการวิจัย อายุตั้งแต่ 37 ถึง 73 ปี และรายงานที่นักวิจัยได้รับคือ “ไม่มีโรคหัวใจหรือ เส้นเลือดหัวใจ ไม่มีมะเร็งในห้วงเวลาที่ศึกษา”
ผลของการสำรวจแสดงให้เห็นว่า คนที่ดื่มกาแฟพอประมาณคือ 1.5 ถึง 3.5 ถ้วยต่อวัน ผู้ที่ดื่มกาแฟรสหวานเสี่ยงต่อการตายต่ำกว่า คนที่ไม่ดื่มกาแฟเลยประมาณ 30%
ตามรายงานของ ดร.คริสติน่า วี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งคริสติน่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวิจัยศึกษา แต่เป็นผู้ช่วยบรรณาธิการวารสารการแพทย์ประจำปี
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า คนที่ดื่มกาแฟไม่ใส่น้ำตาลเสี่ยงการตายต่ำกว่า คนดื่มกาแฟไม่มีน้ำตาล 36%
“นักจิตวิทยาสุขภาพสังคม ศึกษาวิถีชีวิตและปัจจัยการรักษา เพื่อขจัดผลกระทบการวิจัย ได้สรุปตัวอย่าง เช่นทีมวิจัยถามเรื่องการสูบบุหรี่ เรื่องสุขภาพ ระดับการศึกษา และนิสัยการควบคุมอาหาร” คริสติน่า วี กล่าว
ผลการสำรวจของคนที่ดื่มกาแฟผสมน้ำตาลสังเคราะห์มีผลต่อกาแฟน้อยกว่าดื่มกาแฟที่ใส่น้ำตาล หรือไม่ใส่น้ำตาลเลย ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถหาข้อสรุปได้สำหรับคนที่ชื่นชอบน้ำตาลเทียม
“จากการศึกษา พบว่าดื่มกาแฟสามารถป้องกันและรักษาอาการป่วยบางชนิดได้ และไม่จำเป็นสำหรับผู้ดื่มกาแฟ ที่ต้องเลิกดื่มเพื่อควบคุมอาหาร แต่ควรระวังเรื่องการสูงขึ้นของแคลอรี่โดยเฉพาะกาแฟบางชนิด” ดร.แกรน ลุอิ ผู้อำนวยการแผนกระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยกวางซู ของจีน เขียนอีเมลมาให้วารสารการแพทย์
การดื่มแฟมีผลต่อร่างกายอย่างไร การศึกษาในอดีตพบว่าการนำกาแฟเข้าสู่ร่างกายช่วยป้องกันโรคหัวใจและช่วยการรักษาโรคอื่นๆ ลูอิ กล่าว
“กาแฟทำให้มีความแตกต่างโครงสร้างของสุขภาพขึ้นอยู่กับว่ามันถูกผลิตมาอย่างไร” คุนเตอร์ คูเนิล จากแผนกวิทยาศาสตร์อาหาร มหาวิทยาลัยรีดในสหราชอาณาจักรกล่าวและเสริมว่า
“กาแฟบางชนิดมีส่วนผสมอินทรีย์จากดินซึ่งเชื่อกันว่ามีประโยชน์ สารประกอบเหล่านั้นทำให้เกิดรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟ และ มีคุณค่าทางอาหาร และ มันสามารถต่อต้านสารเคมี และต่อต้านการอักเสบเหี่ยวย่น ต่อต้านและชะลอการชรา”
กาแฟสองชนิดที่ดื่มเป็นปกติทั่วไป คือ “อาราบิก้า และโรบัสต้า” ผลการวิจัยแสดงว่า มีสารสังเคราะห์อินทรีย์ดินมีมากกว่าในกาแฟอาราบิก้า”
กาแฟที่ไม่คั่ว กาแฟเมล็ดสีเขียว มีปริมาณเคมีสังเคราะห์ในดินมากกว่า แต่มีกลิ่นหอมน้อยกว่าเมื่อนำมาต้มและขึ้นอยู่กับระดับความร้อนจากการคั่วซึ่งอาจทำให้เคมีสังเคราะห์ดินลดลงและมันขึ้นอยู่กับการหมัก #กาแฟมีระดับการป้องกันโรคสูง เคมีสังเคราะห์จากดินทำให้ป้องกันการเสี่ยงของโรคหัวใจและเส้นเลือดได้สูง (caridiovascular) คูห์เนิ่ลกล่าว...“กาแฟต้มและการบดคั้นแบบฝรั่งเศส มีสารป้องกันโรคสูงมากที่สุด ตามรายงานการศึกษาในปี 2016”
ม็อกก้า และ เอสเพรสโซ่ มีระดับการป้องกันโรคได้พอประมาณ ในขณะที่กาแฟสำเร็จรูปทำให้สารสังเคราะห์ในดินลดน้อยลงจากกระบวนการแปรรูป จึงสรุปจากผลวิจัยว่า กาแฟมีคุณค่าที่ทำให้อายุยืน ป้องกันการเสี่ยงต่อโรคบางชนิด ที่สำคัญชะลอการชราและชะลอการเหี่ยวย่นบนใบหน้า
ต่อไปว่าด้วยเรื่อง กัญชา
ผลการวิจัยพบว่า คนที่มีอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง มีอาการนอนไม่หลับ กระวนกระวายและอาการซึมเศร้า เมื่อทานยากัญชา ตามใบสั่งยาของแพทย์ ในระยะสั้นทำให้หายจากอาการดังกล่าวได้
เพราะในกัญชามี THC (สารออกฤทธิ์ทางจิตประสาทกับ CBD (สารไม่ออกฤทธิ์ทางจิตประสาทและมีสรรพคุณทางการรักษาโรคสูงกว่า THC) และไม่ทำให้เกิดอาการมึนเมาจากตัวมันเอง แต่ยังมีเรื่องที่ต้องกังวลถึงผลข้างเคียง
จากผลของการวิจัยพบว่าในยากัญชา มี Tetrahydrocannabinol หรือ THC สารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เป็นส่วนประกอบสำคัญในยากัญชา หากใช้ถี่มากไป อาจนำไปสู่การใช้กัญชาในทางที่ผิด หรือติดกัญชาและทำให้เกิดการดื้อยาไม่ได้ช่วยให้ผ่อนคลายและรักษาอาการโรคได้
ใช้ยากัญชาทางที่ผิดเช่นกินยากัญชามากผิดปกติกลายเป็นติดกัญชา รู้สึกเบื่อหรือไม่อยากทานอาหาร กระสับกระส่ายหงุดหงิด มีอารมณ์แปรปรวนและหลับยาก หลังจากเลิกยากัญชา
ตามรายงานของ สถาบันวิจัยแห่งชาติเรื่องการใช้ยาทางที่ผิด ผู้ป่วยที่ได้รับใบสั่งซื้อยากัญชา หรือผู้ถือใบอนุญาตซื้อยากัญชา ที่ได้รับใบอนุญาตทันทีที่ขอ จากการวิจัยพบว่ามักใช้ยากัญชามากผิดปกติมากกว่าคนที่รอ 12 อาทิตย์ก่อนได้รับบัตร
การศึกษาพบว่าการใช้ยากัญชามากเกินไป ในหมู่วัยรุ่นและคนหนุ่มสาวที่มีอารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้าและไบโพล่าเป็นการเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับการทำร้ายตัวเอง ความพยายามฆ่าตัวตายตามรายงานของผลสำรวจปี 2021
กฎระเบียบที่ใช้ในปัจจุบันระบบการจัดให้มีบัตรซื้อยากัญชา คนขอมีบัตรเพียงแต่ได้รับหนังสือรับรองจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต และบ่อยครั้งที่พบว่า“แพทย์ที่ออกใบอนุญาตให้ ไม่ใช่หมอที่รักษาเกี่ยวกับยากัญชา”ออกใบอนุญาตให้เพียงแค่คนป่วยไปปรึกษาแพทย์เบื้องต้นเท่านั้น ไม่มีการแนะนำทางเลือกอื่นเพื่อรักษา และไม่ได้ติดตามอาการของคนป่วย ข้อมูลจากแถลงการณ์ของศูนย์วิจัยกล่าวว่า
“ตามความจริง อุตสาหกรรมยากัญชา อยู่นอกเหนือกฎระเบียบมาตรฐานการแพทย์ ที่คนป่วยส่วนใหญ่ไปขอบัตรซื้อยากับแพทย์สนามได้” แถลงการณ์กล่าวด้วยว่าผู้ได้รับบัตรซื้อยากัญชาไม่มีอาการเปลี่ยนแปลงโรคซึมเศร้า กระวนกระวาย หรือ อาการเจ็บปวด
ผลการวิจัยซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร JAMANetwork Open หลังจากได้วิจัยจากคนป่วย และ ติดตามผลของผู้ใหญ่ 269 คนในเขตบอสตัน จากคนมีอายุเฉลี่ย 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ขอใบอนุญาตซื้อยากัญชา
ผู้ที่ถูกสำรวจแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกออกใบอนุญาตให้ทันทีที่ยื่นเรื่องขอ กลุ่มที่สองให้รอ 12 อาทิตย์ก่อนออกบัตรให้
“กลุ่มแรกที่ให้บัตรเป็นกลุ่มที่เปรียบเทียบของเรา” ศาสตราจารย์โจดี กิลแมน ผู้อำนวยการแผนกผู้ป่วยยาเสพติดโรงพยาบาลวิทยาลัยการแพทย์แมสซาชูเซตส์ เขียนในอีเมล
“กลุ่มที่ขึ้นบัญชีรอบัตร รักษาอาการตามปกติและ ปรึกษาแพทย์เป็นระยะๆ” เธอตอบมาทางอีเมล “ผู้ที่ได้รับบัตรมีสิทธิ์เลือกร้านจำหน่ายยาและปริมาณของยากัญชาตลอดถึงระยะห่างของการใช้ยา ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็มีสิทธิ์พบแพทย์เพื่อรักษาตามปกติ...
ส่วนผู้ที่ได้รับบัตรทันทีใช้ยากัญชาผิดปกติ ถึงสองเท่า จากการติดตามพบว่าสิบคนเกิดอาการผิดปกติภายใน 12 อาทิตย์ และตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 20% ถ้าพวกเขาใช้ยากัญชาเพื่อระงับการกระวนกระวายและซึมเศร้า ผู้ที่ได้รับบัตรทันทีพบว่า
“ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของอาการเจ็บปวด กระวน กระวาย หรือ ซึมเศร้า ยากัญชาไม่ได้รักษาอาการ” แต่กลับมีรายงานว่าอาการนอนไม่หลับหนักขึ้นกว่าเก่า จากการวิจัย และ การติดตามต่อไป อาจเป็นไปได้ว่าดื้อยากัญชา
“ยากัญชาสร้างความเสี่ยงสูงขึ้นหรือมีผลตรงกันข้ามกับคนที่มีอาการผิดปกติแล้วถือบัตรซื้อยากัญชา”
ศาสตราจารย์ ยัสมิน เฮิร์ต จากคณะวิทยาศาสตร์การยาในวิทยาลัยการแพทย์เมาท์ซีไน กล่าวว่า “การค้นพบอาการเช่นนี้ ตรงกับที่เราทำวิจัยและรับรู้มา นี่มันเป็นสิ่งบ่งบอกถึงการอ่อน จนถึงระดับปานกลางของการระงับปวด ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราของ THC/CBD ในยากัญชา.....แต่มันกลับเพิ่มขึ้นของอาการแทรกซ้อนเช่นการมึนงง วิงเวียนและการกดทับประสาท”
“โชคร้ายที่มีหลักฐานเพียงเล็กน้อย จึงไม่อาจนำอาการแทรกซ้อนอย่างอื่นมารวมด้วยได้และการผันแปรของผลผลิตยากัญชาในการศึกษานี้” โจดี กิลแมน กล่าวและเสริมว่า“การทดลองควบคุมใช้ยาปลอม กับคนป่วยหลายร้อยคน ที่รับยาเหมือนกันกับยากัญชาจริง เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความเข้าใจถึงการเสี่ยงเจ็บปวดจากยากัญชา”ดร. กิลแมน กล่าว
ด้วยว่าคนป่วยที่ใช้ สารออกฤทธิ์ทางจิตประสาท เพื่อลดความเจ็บปวด ควรต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ เพื่อ พิจารณาว่ายากัญชาเหล่านั้นช่วยได้และชั่งน้ำหนักถึงความหนักเบาของอาการแทรกซ้อน
“ในขณะที่ ยาแก้ปวดไม่มีประสิทธิภาพพอ คนป่วยที่มีอาการปวดรุนแรงอาจคิดว่ามันคุ้มที่เสี่ยง เป็นที่ชัดเจนว่า CBD ปลอดภัยมากกว่า THC ดังนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากที่ผลผลิต THC สูงต้องติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด”ดร.เฮิร์ตกล่าว
“เพราะยากัญชาได้มีการผลิตกันแพร่หลายบางยี่ห้อไม่ได้รับการควบคุมคุณภาพ และอาจไม่มีส่วนผสม THC หรือ CBD ตามปริมาณที่เหมาะสมดังที่บ่งบอกบนกล่องยา”
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี