“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยตาสว่างไม่ถูก “เบิกเนตร” โดย “นักการเมืองชังชาติ, สัมภเวสีเร่ร่อน”อย่างเท่าทันและเท่าเทียม เริ่มต้นด้วย...
nnสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ของกลุ่มอุดมการณ์ทางการเมืองที่หนักแน่นบ้างของประดาลิ่วล้อแฟนคลับของนักเลือกตั้งที่ออกมาแตกแบงก์ร้อยแบงก์ห้าร้อยบ้างรองรับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ยังห่างไกลความเป็นจริงแม้เวลาตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่ให้เวลาสภาพิจารณาร่างกฎหมายให้แล้วเสร็จใน 180 วันจะงวดเข้ามาจนถึงที่สุดในกลางเดือนนี้ ซึ่งหากร่างก.ม.นี้ไม่แล้วเสร็จตามรัฐธรรมนูญกำหนดก็ต้องนำร่างกฎหมายที่ “คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)” เสนอมาพิจารณาใช้ทุกมาตรา ซึ่งจะทำให้แนวทางการเลือกตั้งของทุกพรรคอาจเปลี่ยนไป...
nn เห็นคำสัมภาษณ์ “นักการเมืองที่ทำการเมืองเพื่อประชาชนอย่าง “พี่ตุ๋ย-พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ว่าที่“หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่จุดยืนชัดเจน อดีตตุลาการที่มีความรู้ความสามารถมีความเหมาะสมยิ่งที่จะเป็น “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรีคนรุ่นใหม่ที่ประกาศเจตนารมณ์ในการทำพรรคการเมืองชัดเจน...
nn “รวมไทยสร้างชาติ” ไม่ใช่พรรคการเมืองที่มาแสวงหาสถานะทางการเมืองให้กับตัวเอง ที่ผ่านมามีแต่นักการเมืองแสดงอำนาจบารมีเป็นผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมือง แล้วประชาชนได้อะไร เขามองด้วยความเบื่อหน่ายเอือมระอา ทะเลาะกันเพื่อแย่งอำนาจตำแหน่งให้ตัวเองสิ่งเหล่านี้บ่อนทำลายประชาธิปไตย ทั้งยังทำลายอาชีพนักการเมืองและพรรคการเมือง “พรรครวมไทยสร้างชาติ” จะทะเลาะกับความลำบากความไม่เท่าเทียมของประชาชน, จะทะเลาะกับโอกาสที่ประชาชนเข้าไม่ถึง มีความเสมอภาคในการบังคับใช้กฎหมาย สร้างสังคมใหม่ให้กับบ้านเมือง และชื่อพรรคจึงตรงกับแนวคิดทางการเมืองของพรรค เราต้องการเอาอำนาจทางการเมืองมาทำงานให้บ้านเมือง ไม่ใช่เอามาเพื่อเสริมบารมีให้กับตัวเอง หรือเอามาเพื่อจะสร้างฐานะทางการเมือง” ... “ไม้หน้าสาม” ขอออกนอกหน้าเชียร์พี่ชายเข้าเส้นชัยนั่งบริหารประเทศสร้างสังคมใหม่ให้บ้านเมือง “สร้างความเท่าเทียม” ขจัด “ความเหลื่อมล้ำ” ถ้าประชาชนให้โอกาส รับรองจะไม่ผิดหวัง จะเห็นนักการเมืองและพรรคการเมืองรูปแบบใหม่ที่ทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริง...
nn น่าผิดหวัง “บิ๊กน้อย-พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ” ที่จัดแถลงข่าวเปิดตัว “พรรครวมแผ่นดิน” พรรคการเมืองน้องใหม่ได้อย่างผิดคาดไร้ “บิ๊กเซอร์ไพรส์” อย่างสิ้นเชิง แม้จะได้ “จำลอง ครุฑขุนทด” อดีตสส.นครราชสีมาที่สอบตกเมื่อครั้งที่แล้วในนามพรรคพลังประชารัฐ มานั่งขัดตาทัพบนเก้าอี้เลขาธิการพรรคก็ตามทีพร้อมที่แว่วมาว่า “อร่าม โล่ห์วีระ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คนชัยภูมิ อดีตสส. 6 สมัย” มาร่วมอุดมการณ์ด้วยก็ไม่ปังเท่าครั้งนั่งประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ แต่ถ้าดึง “นายทุนพรรค-เสี่ยสุดทางที่ไปต่อไม่ได้” มาร่วมวงแถลงข่าวอย่างเปิดเผย ไม่ลักปิดลักเปิดน่าจะน่าเกรงขามทางการเมืองกว่านี้เยอะ และโอกาสที่นักการเมืองคหบดีน้ำดีจากทุกสาขาวิชาชีพจะหลั่งไหลมาพึ่งใบบุญลงสนามทำศึกแย่งเก้าอี้ฝ่ายนิติบัญญัติ ดีกว่าให้ทหารเกษียณอายุราชการตบเท้าเข้าพรรค เหมือนอย่างที่ “อดีตผู้บัญชาการทหารบก-บิ๊กจิ๋ว หวานเจี๊ยบ-พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี”ดำเนินการจัดตั้ง “พรรคความหวังใหม่” ลงสนามเลือกตั้งจนได้รับเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 22 ของประเทศไทยอย่างสง่าผ่าเผยไร้ทหารชราเกษียณอายุลงสู้ศึกเลือกตั้ง ... แตกต่างจากนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 26 ที่กรุยทางสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีโดยอาศัยช่องว่างของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ด้วยการซื้อสส.ยกพรรคทีละพรรคเริ่มจาก “พรรคความหวังใหม่, พรรคชาติพัฒนา, พรรคเสรีธรรม, พรรคชาติไทย” ว่ากันว่าเป็นการดำเนินการตามคำแนะนำของ “มหา 5 ขัน-พลตรีจำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรม”ผู้ชักนำให้ “ทักษิณ ชินวัตร” เข้าสู่วงจรการเมือง พร้อมขอคำปรึกษาพลตรีจำลองซึ่งขณะนั้นเป็น “ขี้ใหม่หมาหอม เป็น untouchable manของสังคมไทย” กับคำถามที่ต้องการคำตอบว่าต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีต้องทำอย่างไร...
nn สถานการณ์ตึงเครียดระหว่าง “สาธารณรัฐประชาชนจีน-ไต้หวัน” องศาเดือดปะทุขึ้นเรื่อยๆ หลัง “แนนซีเพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ” ได้เดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งก็เพิ่มดีกรีความขัดแย้งระหว่าง“สาธารณรัฐประชาชนจีนกับจักรวรรดินิยมอเมริกา”มากขึ้น กระทั่ง “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” ออกมาเตือน “เพโลซีและสหรัฐ” ว่า อย่าเล่นกับไฟ ขณะที่กองทัพจีนก็ระดมแสนยานุภาพต่างๆ โดยเฉพาะ“รถถัง” ออกจากเมืองเซียะเหมิน มุ่งหน้าไปยังหน้าชายหาด เตรียมโหลดขึ้นเรือเพื่อบุกไต้หวัน...
nn“พล.ร.อ.ฟิลิป เดวิดสัน ผู้บัญชาการกองกำลังแปซิฟิกของกองทัพสหรัฐฯ” ได้เรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติอนุมัติการติดตั้งขีปนาวุธระบบเอจิส (Aegis) บนฐานทัพเกาะกวม เพื่อเสริมศักยภาพสกัดกั้นขีปนาวุธของจีนในอนาคต ได้เรียกร้องให้สภาฯ จัดสรรงบประมาณสำหรับการติดตั้งขีปนาวุธระยะไกลในพื้นที่ดังกล่าวด้วย “แล้วจีนจะได้รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการ มีราคาที่ต้องจ่าย”... ด้านไต้หวันก็เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ โดยมีการแจกหนังสือ “คู่มือป้องกันพลเรือน” ให้ประชาชนได้ศึกษาทำความเข้าใจและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เชื่อว่า “วลาดีมีร์ ปูติน” คงเดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อต่อต้านสหรัฐในภูมิภาคนี้อย่างแน่นอนหากเกิด “สงครามจีน-ไต้หวัน” ขึ้นจริงอย่าง “สงครามรัสเซีย-ยูเครน” จะเกิด “หายนะทางเศรษฐกิจของโลก” รุนแรงกว่าสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” มากมาย เพราะไต้หวันเป็นประเทศ "ผลิตและส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” ที่สำคัญ “ยังเป็น 1 ใน 4 ยักษ์เศรษฐกิจของเอเชีย”...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี