“ราคาที่ต้องจ่าย” สำหรับการต้อนรับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ แนนซี เพโลซี ดูเหมือนจะตกเป็นภาระของประชาชนบนเกาะไต้หวันนั่นเอง
สหรัฐนั้น เขาทำสงครามการค้ากันกับจีนอยู่ก่อนแล้ว
ชาวไต้หวันจำนวนมาก ต่างก็ยังสงสัยว่า แล้วทำไมสหรัฐเอาคบไฟมาสุมเข้าไปในเชื้อปัญหาขัดแย้งไต้หวันกับจีนด้วย จนไฟลุกโชน ทั้งๆ ที่ ไต้หวันเป็นไต้หวันแบบปัจจุบัน ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย ชีวิตอยู่ดีมีความสุข ปลอดภัย
หมากเกมนี้ สหรัฐมีแต่ได้
ไต้หวัน มีแต่ได้จ่ายกับจ่าย
1. ดารานักแสดงชาวจีน คนดังในสื่อสังคมออนไลน์จีน พร้อมใจกันโพสต์รูปภาพที่มีข้อความภาษาจีน ประกาศเจตจำนงร่วมกันว่า “โลกนี้ มีเพียง จีนเดียว”
2. Stephane Dujarric โฆษกของเลขาธิการ UN เปิดเผยผ่านสื่อมวลชนว่า องค์การสหประชาชาติขอย้ำถึงการสนับสนุนหลักการจีนเดียว (the one-China principle) ตามมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ 2758 เมื่อปี 1971
3. หลายประกาศร่วมประณามสหรัฐในการ “ยั่วยุ”
หนึ่งในนั้น คือ รัสเซีย
กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า “พร้อมเคียงข้างจีน” และ “รัสเซียดำเนินการบนสมมุติฐานว่ามีเพียงจีนเดียว และรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงแห่งเดียวที่เป็นตัวแทนของจีนทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ ไต้หวัน จึงเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่แบ่งแยกไม่ได้”
4. จีน เป็นประเทศผู้นำเข้าสินค้าจากไต้หวันสูงถึง 1.89 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
ล่าสุด ทางการจีน ได้สั่งระงับการนำเข้าสินค้าจากไต้หวันหลายรายการ มีทั้งสินค้าเกษตร ผลไม้ อาหาร ของขบเคี้ยว อาทิ ผลไม้รสเปรี้ยวตระกูลส้ม (citrus fruits) ปลาดาบเงินแช่เย็น (chilled white hairtail) และปลาแมคเคอเรลแช่แข็ง (frozen horse mackerel)
นอกจากนี้ จีนประกาศหยุดส่งออกทรายธรรมชาติไปยังไต้หวัน โดยที่ทรายธรรมชาติจากจีนนั้นเป็นวัตถุดิบสำคัญทำแผ่นซิลิคอน สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในไต้หวัน
คาดว่า มาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจ ยังไม่หมดเท่านี้แน่นอน
นี่กลายเป็นราคาที่นักธุรกิจ ลูกจ้าง ประชาชนคนไต้หวันต้องจ่าย แลกกับการสำเร็จความใคร่ทางการเมืองระหว่างประเทศของสหรัฐ
5. สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจะดำเนินการฝึกซ้อมทางทหารครั้งสำคัญหลายจุด ในทะเล รอบเกาะไต้หวัน ตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 4 ส.ค. (ตามเวลาปักกิ่ง) จนถึงเวลา 12.00 น. (เวลาปักกิ่ง) วันที่ 7 ส.ค. 2565
ยังไม่เป็นที่เปิดเผยว่า จะกระทบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจใดบ้าง การเดินทาง คมนาคมขนส่ง และอื่นๆ
6. โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเดินทางเยือนไต้หวันแห่งประเทศจีนของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ บางตอนยืนยันชัดเจนว่า
“...เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1971 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติสมัยที่ 26 ได้ผ่านมติหมายเลขที่ 2758 ขับไล่ผู้แทนของทางการไต้หวันออกไป และฟื้นฟูที่นั่งและสิทธิชอบด้วยกฎหมายทั้งหมดของรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในสหประชาชาติ
เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 1978 จีนกับสหรัฐฯได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยทางสหรัฐฯ ยอมรับว่ารัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงรัฐบาลเดียวของประเทศจีน และรับรองจุดยืนของจีนซึ่งก็คือ มีแค่ประเทศจีนเดียว และไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน ปัจจุบัน ทั้งหมด 181 ประเทศ ที่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศจีนต่างก็ยอมรับว่า ในโลกนี้มีแค่ประเทศจีนเดียว และไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯบอกว่าไม่สนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวัน ทำไมผู้นำสภาฯของสหรัฐฯ ยังดันทุรังเดินทางเยือนไต้หวัน
ปัญหาไต้หวันเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดและละเอียดอ่อนที่สุดในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ทางสหรัฐฯ ได้เน้นย้ำหลายครั้งในหลักการประเทศจีนเดียว และไม่สนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวัน เมื่อวันที่ 28 เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้หารือทางโทรศัพท์ตามนัดกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้เน้นย้ำว่าการที่ทางสหรัฐฯยึดถือนโยบายจีนเดียวไม่ได้เปลี่ยนและจะไม่เปลี่ยน ทางสหรัฐฯไม่สนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวัน การที่นางแนนซี เพโลซี เดินทางเยือนไต้หวันได้แสดงให้เห็นว่า ทางสหรัฐฯ พูดอย่างทำอย่าง ไม่มีความน่าเชื่อถือและสัจธรรม ถูกคนทั่วไปดูถูกกัน และทำให้เครดิตรัฐของสหรัฐฯ สูญหายไปหมด
ปัจจุบัน สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันกำลังเผชิญกับความตึงเครียดและความท้าทายที่รุนแรงรอบใหม่
สาเหตุที่แท้จริงก็คือ ทางการไต้หวันและฝ่ายสหรัฐฯได้พยายามเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง ทางการไต้หวันอยากจะพึ่งสหรัฐฯเพื่อแสวงหาเอกราช ส่วนทางสหรัฐฯ พยายามใช้ไต้หวันในการควบคุมจีน และหนุนหลังให้กิจกรรมการแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีน
....การเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาค นางเพโลซี เป็นผู้นำสภาคองเกรสของสหรัฐฯ คนปัจจุบัน การเดินทางเยือนไต้หวันอย่างเปิดเผยนั้น ถือว่าเป็นการกระทำทางการเมืองที่ยั่วยุอย่างรุนแรงในการยกระดับการไปมาหาสู่กันอย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน และก็เป็นการสนับสนุนต่อกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีน
วัตถุประสงค์อันแท้จริงที่ทางสหรัฐฯ เล่นไพไต้หวันนั้น คือจะใช้ไต้หวันในการควบคุมและกดขี่จีน ชะลอการพัฒนาของจีน รักษาสถานะความเป็นเจ้าของตนเองและผลักดันความเป็นอำนาจบาตรใหญ่ ซึ่งเป็นการเหยียบย่ำหลักการขั้นพื้นฐานแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผลักให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯไปสู่ความเผชิญหน้าและปฏิปักษ์ต่อกัน ทำให้สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันทวีความตึงเครียด จนนำไปสู่เหตุการณ์และผลที่ตามมาอย่างร้ายแรงยิ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงจนกระทั่งภัยพิบัติต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค
...นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาได้เดินทางเยือนไต้หวันของประเทศจีน โดยไม่สนใจการคัดค้านอย่างรุนแรงและการแสดงท่าทีอย่างจริงจังของฝ่ายจีน ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนหลักการประเทศจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ ทั้ง 3 ฉบับอย่างร้ายแรง เป็นการบ่อนทำลายรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯอย่างร้ายแรง เป็นการรุกล้ำอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศจีนอย่างร้ายแรง เป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างร้ายแรง และก็เป็นการส่งสัญญาณผิดพลาดอย่างร้ายแรงไปยังกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีน
สำหรับเรื่องนี้ ฝ่ายจีนคัดต้านอย่างเด็ดขาดและขอประณามอย่างรุนแรง ได้แสดงท่าทีอย่างจริงจังและประท้วงอย่างรุนแรงต่อฝ่ายสหรัฐฯ รัฐบาลและประชาชนจีนได้ใช้มาตรการที่เด็ดขาดและทรงพลังแล้ว และจะยังคงดำเนินการต่อไป เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดนอย่างแน่วแน่ ทางสหรัฐฯและกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีนต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาทั้งหมด
จีนเรียกร้องให้ทางสหรัฐฯ ยุติการเล่นไพ่ไต้หวัน เพื่อใช้ไต้หวันในการควบคุมจีนต่อไป ยุติการแทรกแซงกิจการของไต้หวันและกิจการภายในของประเทศจีน ยุติการสนับสนุนกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีนในทุกๆ รูปแบบ ยุติการพูดอย่างทำอย่างในปัญหาไต้หวัน และยุติการบิดเบือนทำลายหลักการประเทศจีนเดียว ยึดมั่นในหลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วมระหว่างจีน-สหรัฐฯ ทั้ง 3 ฉบับ...”
7. การตอบโต้โดยฝ่ายจีน เพิ่งจะเริ่ม ยังไม่รู้ว่าจะรุนแรงขนาดไหน
แต่ที่ชัดเจน คือ ภาระต้นทุนทั้งหลายจะตกแก่ไต้หวันเอง โดยที่ไม่ได้อะไรกลับคืนมา
ประเทศไทยเราเอง ควรใช้เป็นบทเรียนอุทาหรณ์ การดำเนินนโยบายการต่างประเทศที่ไม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งอย่างที่ผ่านมานั้น คือสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมที่สุดแล้ว
ไม่ต้องเอาประเทศไทยไปเป็น “เบี้ย” เดินหมากการเมืองของใคร
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี